วันอังคาร ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2568
‘รมว.ยุติธรรม’ต้อนรับ‘หลิว จงอี้’เทพมือปราบอาชญากรรมจีน นำทีมถกความร่วมมือปราบอาชญากรรมข้ามชาติ-สแกมเมอร์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์-ค้ามนุษย์
16 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากอาคารกระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ว่า พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมราชทัณฑ์ , ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ , นายนิทัศน์ แสงวัฒนะ รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม และคณะผู้แทน กระทรวงยุติธรรม ได้ให้การต้อนรับนายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ ณ ห้องรับรองประจำกระทรวงยุติธรรม ชั้น 3 อาคารกระทรวงยุติธรรม
ต่อมาเวลา 13.10 น. นายหลิว จงอี้ เดินทางมาถึงบริเวณอาคารกระทรวงยุติธรรม ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถาม นายหลิว จงอี้ ว่าวาระการประชุมหารือในวันนี้มีหัวข้อใดบ้าง จะมีการหารือเรื่องปราบปรามสแกมเมอร์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการค้ามนุษย์ด้วยหรือไม่ ปรากฏว่านายหลิวจงอี หันมายิ้มให้ผู้สื่อข่าว และนำทีมงานเดินขึ้นไปยังบริเวณชั้น 2 ของอาคารกระทรวงยุติธรรม โดยยังไม่ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ รมว.ยุติธรรม และนายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ใช้เวลาพบปะหารือกันประมาณ 1ชม.
ในการเข้ากันครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความยินดีเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน และในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 13 – 17 พฤศจิกายน 2568 ตามคำทูลเชิญของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและถือเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทย – จีน
ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือและเน้นย้ำถึงความสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโน โลยีหรือสแกมเมอร์ ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติของประเทศไทย โดยฝ่ายจีนได้แสดงความขอบคุณที่ไทยได้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนรายสำคัญในคดีสแกมเมอร์ รายนายแส จื้อเจียง กลับไปดำเนินคดี เมื่อวันที่ 12 พ.ย.68
รมว.ยุติธรรม ได้ให้ข้อมูลกับฝ่ายจีนว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีการขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้คณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญา กรรมทางเทคโนโลยี โดยนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการตามแนวทางความร่วมมือจากการทำ MOU กับ 15 หน่วยงานที่รับผิดชอบ รวมถึงมีการแต่งตั้งอนุกรรมการฯ อาทิ คณะอนุกรรมการปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานอนุกรรมการฯ คณะอนุกรรม การป้องกันการกระทำความผิดอาชญา กรรมทางเทคโนโลยี โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานอนุกรรมการฯ และคณะอนุกรรมการเชื่อมโยงข้อมูลทางการเงินเพื่อยกระดับการติดตามตรวจสอบธุรกรรมต้องสงสัย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานอนุกรรมการฯ
ในส่วนของคณะอนุกรรมการปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานอนุกรรมการฯ มีหน้าที่กำหนดมาตรการ
ในการปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวมถึงแลกเปลี่ยนข้อมูล ประสานความร่วมมือและบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ฝ่ายจีนได้แสดงความขอบคุณและชื่นชมรัฐบาลไทยในความมุ่งมั่นแก้ปัญหา โอกาสนี้จึงได้เสนอแนวทางความร่วมมือ ในการแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือสแกมเมอร์ 3 ประเด็น ดังนี้
1) การส่งกลับผู้กระทำความผิดหรือผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งหลบหนีหรือเข้ามาพักอาศัยในประเทศไทย รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลผู้กระทำความผิดระหว่างกัน
2) การส่งเสริมความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายและสร้างกลไกเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
3) การเชิญประเทศในภูมิภาค รวมถึงไทย เข้าร่วมการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์ระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังได้หารือในประเด็นด้านการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการดำเนินงานร่วมกันผ่านกรอบความร่วมมือต่างๆ โดยเฉพาะในกรอบความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขง โดยกระทรวงยุติธรรมพร้อมสนับสนุนและพัฒนาความร่วมมือกับฝ่ายจีนเพื่อยกระดับการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี