เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสตูลเป็นไปอย่างตึงเครียด หลังกลุ่มชาวบ้านจากพื้นที่ อำเภอท่าแพ และ อำเภอควนกาหลง กว่า 300 คน รวมตัวกันชุมนุมเพื่อทวงถามความคืบหน้าการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยรายละ 9,000 บาท ตามนโยบายรัฐบาล หลังพบว่ามีรายชื่อตกหล่นเป็นจำนวนมาก ทั้งที่มีหลักฐานความเสียหายชัดเจน

ความเดือดร้อนที่ถูกเมิน ชาวบ้านตัดพ้อ "รัฐรับเรื่องแล้วเงียบ"

กลุ่มชาวบ้านระบุว่า พื้นที่ทั้ง 2 อำเภอได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งใหญ่ที่ผ่านมา ซึ่งจังหวัดได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติอย่างเป็นทางการแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ชาวบ้านหลายครัวเรือนกลับยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 9,000 บาท ตามที่รัฐบาลประกาศไว้

นายเอก รอดประดิษฐ ตัวแทนชาวบ้านอำเภอควนกาหลง เปิดเผยว่า ชาวบ้านมีหลักฐานครบถ้วน ทั้งภาพถ่ายความเสียหาย และเอกสารรับรองจากผู้นำท้องถิ่น แต่เมื่อสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับได้รับเพียงความว่างเปล่า 

"เรามารวมตัวกันเพราะความเดือดร้อนมันรอไม่ได้ ก่อนหน้านี้ไปยื่นเรื่องที่อำเภอแล้วแต่เรื่องก็เงียบ วันนี้จึงต้องมาหาท่านผู้ว่าฯ เพื่อถามว่าติดขัดที่ขั้นตอนไหน ทำไมคนที่เดือดร้อนจริงๆ ถึงตกสำรวจ" นายเอกกล่าวด้วยอารมณ์อัดอั้น

จังหวัดส่ง "หัวหน้าสำนักงานจังหวัด" รุดเจรจาสยบม็อบ

ต่อมา นายคณิต คงช่วย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้มอบหมายให้ นายธนพัฒน์  เด่นบุรณะ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสตูล พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม และหน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ออกมาเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม

ในการเจรจา ตัวแทนชาวบ้านได้ตั้งคำถามจี้ถึงการทำงานของ ปภ.จังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ว่าเหตุใดกระบวนการตรวจสอบถึงล่าช้าและบกพร่อง จนทำให้ประชาชนเสียสิทธิ์ที่ควรจะได้

ด้าน นายธนพัฒน์ ชี้แจงว่า ทางจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ และจะสั่งการให้มีการตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้ตกหล่นอย่างละเอียดอีกครั้งทันที โดยจะประสานงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดขั้นตอนการจ่ายเงินให้เร็วที่สุด พร้อมขอให้ชาวบ้านมั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรม

ขีดเส้นตาย 22 ธ.ค. หากไม่คืบหน้า เตรียมบุกศาลากลางอีกรอบ

แม้การเจรจาในเบื้องต้นจะจบลงด้วยการรับปากจากทางจังหวัด แต่กลุ่มชาวบ้านยังคงไม่วางใจ โดยประกาศจุดยืนชัดเจนว่า หากภายในวันที่ 22 ธันวาคม 2568 ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนหรือความคืบหน้าเรื่องการโอนเงินเยียวยา ชาวบ้านทั้งหมดจะยกระดับการชุมนุมและกลับมารวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดอีกครั้ง เพื่อทวงคืนสิทธิ์ที่พวกเขาพึงมีท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยากลำบากหลังน้ำลด