มูลนิธิสืบฯค้านไม่สำเร็จ บอร์ดใหญ่ไฟเขียว 'อุโมงค์ยักษ์ผันน้ำเขื่อนศรีนครินทร์'

มูลนิธิสืบฯค้านไม่สำเร็จ บอร์ดใหญ่ไฟเขียว 'อุโมงค์ยักษ์ผันน้ำเขื่อนศรีนครินทร์'

วันพฤหัสบดี ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 17.22 น.

มูลนิธิสืบนาคะเสถียรค้านเปลี่ยนเส้นทางเลือกไม่เป็นผล ล่าสุด คณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม 7 โครงการสำคัญ 1 ในนั้นคือโครงการอุโมงค์ผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์

เพจเฟซบุ๊กมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ระบุว่า ในวันที่ 18 ธันวาคม 2568 จะมีการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ โดยมีวาระเพื่อพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการอุโมงค์ผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง จังหวัดกาญจนบุรี


มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้ส่งจดหมายถึงคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพื่อคัดค้าน EIA โครงการอุโมงค์ผันน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ฯ ฉบับดังกล่าว เนื่องจากมีความกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ เหตุเพราะพื้นที่โครงการบางส่วนตามแนวทางเลือกที่ 1 และ 7 อยู่ในเขตสงวนธรรมชาติเข้มข้น มีสภาพธรรมชาติเปราะบาง ควรค่าแก่การรักษาไว้ เพื่อเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่า และแหล่งต้นน้ำลำธาร ซึ่งพื้นที่เขตนี้ไม่ควรให้มีการใช้ประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากจะปล่อยไว้ให้เป็นสภาพธรรมชาติแบบดั้งเดิม เพื่อมิให้เกิดการรบกวนการเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ซึ่งเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งแรกของประเทศไทย จึงควรนำเสนอข้อมูลทางเลือกอื่น ๆ เพื่อประกอบการพิจารณาอย่างรอบคอบ

อีกทั้งประเด็นสำคัญ คือ เส้นทางที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ ในการก่อสร้าง ไม่ได้รับอนุญาตจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในการให้เข้าไปสำรวจในพื้นที่ โดยให้พิจารณาทางเลือกอื่นที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า และอนุญาตให้เข้าทำการสำรวจศึกษาเส้นทางติดชายขอบพื้นที่อนุรักษ์แทน ถึงแม้ต่อมาจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปทำการศึกษาหรือวิจัยทางวิชาการในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ แต่เป็นเพียงการศึกษาบริเวณปากอุโมงค์และบริเวณปลายอุโมงค์เท่านั้น

ดังนั้น รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมฉบับดังกล่าว จึงเป็นการใช้ข้อมูลทรัพยากรสิ่งแวดล้อมที่ศึกษาจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นข้อมูลทุติยภูมิเป็นการศึกษาที่ไม่สะท้อนความเป็นจริงของพื้นที่ และอาจถูกสังคมตั้งคำถามถึงระบบการตรวจสอบทางสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย รวมถึงกระบวนการจัดทำและการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่ควรเป็นเครื่องมือสำคัญในการปกป้องสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน และมีมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสมเพื่อให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด อาจต้องพังทลายลงหากผู้มีอำนาจตัดสินใจต้องตัดสินใจบนฐานข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในพื้นที่ปัจจุบัน ส่งผลให้กระบวนการดังกล่าวไม่บรรลุตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย

มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ขอยืนยันเจตนารมณ์ในการคัดค้านโครงการอุโมงค์ผันน้ำเขื่อนศรีนครินทร์เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง จังหวัดกาญจนบุรี เส้นทางที่ผ่านพื้นที่ใจกลางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ และขอให้พิจารณาทางเลือกเส้นทางอื่นที่ไม่กระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศต่อไป

หมายเหตุ: มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้จัดส่งเอกสาร เรื่อง ขอคัดค้านรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการอุโมงค์ผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง จังหวัดกาญจนบุรี เรียนถึง คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ลงวันที่ 16 ธันวาคม 2568 อ่านเพิ่มเติมได้ที่ เอกสารคัดค้าน EIA โครงการอุโมงค์ผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ฯ

คัดค้านไม่เป็นผล ล่าสุด เวลา 16.00 น. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ออกมาแจ้งผลการประชุม ผ่านเพจเฟซบุ๊ก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม-ประเทศไทย ว่า วันนี้ (18 ธันวาคม 2568) เวลา 10.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) ครั้งที่ 6/2568 ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ทำหน้าที่รองประธาน คนที่ 1 ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่รองประธาน คนที่ 2 นายจิรวัฒน์ ระติสุนทร รองเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่กรรมการและเลขานุการ พร้อมด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม

คณะกรรมการฯ ได้มีมติเห็นชอบรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม 7 โครงการสำคัญ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เสริมสร้างคุณภาพชีวิต และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ประกอบด้วยโครงการด้านคมนาคม ได้แก่ 1) โครงการระบบขนส่งมวลชน จ.นครราชสีมา สายสีเขียว (ตลาดเซฟวัน - สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์) 2) โครงการทางพิเศษสายเมืองใหม่ - เกาะแก้ว - กะทู้ จ.ภูเก็ต 3) โครงการก่อสร้างถนนรอบเกาะช้าง ช่วง บ.บางเบ้า - บ.สลักเพชร อ.เกาะช้าง จ.ตราด 4) โครงการทางหลวง 4 ช่องจราจร ทางเลี่ยงเมืองกระบี่

และโครงการด้านการบริหารจัดการน้ำ ได้แก่ 5) โครงการอุโมงค์ผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง จ.กาญจนบุรี 6) โครงการทางระบายน้ำหลากเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง และ 7) โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เพชรบูรณ์ และยังได้เห็นชอบรายงานการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการทำเหมืองแร่ชนิดแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่อทำปูนขาว) ชนิดแร่หินอุตสาหกรรมชนิดดินดาน (เพื่ออุตสาหกรรมซีเมนต์) และชนิดแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) ของห้างหุ้นส่วนจำกัด อุดมศิลา ต.เขาวง อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี

นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังได้มีมติเห็นชอบแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 รวม 38 จังหวัด และเห็นชอบการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะอนุกรรมการพิจารณาการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมในเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งรับทราบผลการประชุมระหว่างประเทศที่สำคัญในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ การประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ สมัยที่ 15 และการประชุมคณะกรรมการเจรจาระหว่างรัฐบาลในการจัดทำมาตรการที่มีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างประเทศด้านมลพิษจากพลาสติก รวมทั้งสิ่งแวดล้อมทางทะเล ครั้งที่ 5 รอบที่ 2 (INC 5.2)

ทั้งนี้ รองนายกฯ สุชาติ ชมกลิ่น ประธานกรรมการ ได้เน้นย้ำให้ทุกโครงการดำเนินการตามมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งการออกกฎหมาย และระเบียบต่าง ๆ ต้องคำนึงถึงมิติด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่กับมิติด้านเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาประเทศ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top