15 ปีคดีบอส อยู่วิทยา! ความจริงเรื่อง‘ความเร็วรถ’ที่พลิกทั้งคดี และคำถามใหม่ที่สังคมต้องรับฟัง

15 ปีคดีบอส อยู่วิทยา! ความจริงเรื่อง‘ความเร็วรถ’ที่พลิกทั้งคดี และคำถามใหม่ที่สังคมต้องรับฟัง

วันจันทร์ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 10.19 น.

15 ปีคดีบอส อยู่วิทยา! ความจริงเรื่อง ‘ความเร็วรถ’ ที่พลิกทั้งคดี และคำถามใหม่ที่สังคมต้องรับฟัง

คดีบอส อยู่วิทยา ซึ่งถูกจับตายาวนานกว่าสิบปี กลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้งเมื่อศาลอาญาทุจริตฯ เปิดรายละเอียดเชิงลึกที่มีผลต่อแก่นคดีโดยตรง นั่นคือ “ความเร็วของรถยนต์ขณะเกิดเหตุ” ซึ่งเป็นปัจจัยชี้ขาดของการวินิจฉัยทั้งหมด


จากคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เมื่อ 22 เม.ย. 2568 ระบุชัดว่า ณ ขณะเกิดเหตุ มีตัวเลขความเร็วเพียง 2 ชุดเท่านั้น ชุดแรก คือความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. จากผู้เชี่ยวชาญจราจรกลาง ผู้เชี่ยวชาญของศาล และ ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ขณะที่อีกชุดหนึ่งคือความเร็ว 177 กม./ชม. จากการคำนวณของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น ซึ่งขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิงจนต้องมีการตรวจสอบใหม่ทั้งหมด และท้ายที่สุดศาลวินิจฉัยว่าค่าความเร็วที่น่าเชื่อถือจริงอยู่ในช่วง 76–80 กม./ชม. เท่านั้น

จุดเริ่มต้นของความไม่สอดคล้อง: ตัวเลขสองชุดที่ให้ภาพต่างกันโดยสิ้นเชิง

ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญทั้ง 3 ราย คือ ผู้เชี่ยวชาญจราจรกลาง ผู้เชี่ยวชาญของศาล และ ดร.สายประสิทธิ์ สะท้อนตรงกันว่ารถ Ferrari วิ่งด้วยความเร็ว ไม่เกิน 80 กม./ชม. แต่การคำนวณของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น กลับให้ตัวเลขสูงถึง 177 กม./ชม. ศาลมองว่าความต่างระดับนี้ “มีนัยสำคัญต่อความน่าเชื่อถือของสำนวน” และไม่อาจใช้เป็นข้อเท็จจริงได้โดยลำพัง

ผลการพิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญนานาชาติ: ค่า 76 กม./ชม. ที่สอดคล้องทุกชุดข้อมูล

เพื่อตรวจสอบข้อขัดแย้งดังกล่าว จึงได้มีการเชิญ ศ.เฮอร์มันน์ สเตฟาน ผู้เชี่ยวชาญด้านการจำลองอุบัติเหตุระดับนานาชาติ เข้ามาทดสอบผ่านหลายวิธี ทั้งการคำนวณจากภาพวงจรปิด การจำลองด้วยซอฟท์แวร์ทดสอบความเร็วเสมือนจริง และการชนจริงด้วยรถรุ่นเดียวกัน ผลการพิสูจน์ชี้ชัดว่าความเร็วอยู่ที่ ประมาณ 76 กม./ชม. และผลดังกล่าวสอดคล้องกับผู้เชี่ยวชาญไทยทั้งสามรายอย่างครบถ้วน

เมื่อเปรียบเทียบพยานหลักฐานทั้งหมด ศาลจึงวินิจฉัยว่าตัวเลข 177 กม./ชม. มีความน่าเชื่อถือน้อยที่สุด ขณะที่ช่วง 76–80 กม./ชม. เป็นข้อมูลที่ตรวจสอบได้และสะท้อนเหตุการณ์จริงมากที่สุด

ทั้งนี้ ศาลมีคำวินิจฉัยว่า วิธีการคำนวณของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น มีความคลาดเคลื่อนสูง ไม่มีการทวนสอบทางวิทยาศาสตร์ไม่สอดคล้องกับพยานผู้เชี่ยวชาญรายอื่น เพราะคำนวณจากกล้องวงจรปิดเป็นหลัก เนื่องจากไม่เคยมีประสบการณ์พิสูจน์คดีอุบัติเหตุด้านฟิสิกส์ความเร็วมาก่อน ประกอบกับ จนท.คนดังกล่าวมีการกลับความเห็นหลายครั้งอันอยู่บนรากฐานของความไม่เชี่ยวชาญและไม่เชื่อมั่น

เมื่อข้อเท็จจริงหลักเปลี่ยน ทิศทางการพิจารณาความประมาทและพฤติการณ์การขับรถย่อมเปลี่ยนไปทันที เพราะความเร็วเป็นองค์ประกอบสำคัญของคดีนี้

บทเรียนสำคัญต่อสังคม: ความจริงต้องตั้งอยู่บนมาตรฐานที่ตรวจสอบได้

มหากาพย์คดีนี้ตอกย้ำให้เห็นว่า ระบบพิสูจน์หลักฐานของไทยยังต้องพัฒนาให้มีมาตรฐานที่สม่ำเสมอและตรวจสอบซ้ำได้อย่างเป็นระบบ การที่ตัวเลขพื้นฐานอย่างความเร็วรถให้ผลต่างกันอย่างมาก สะท้อนว่าระบบยังมีช่องว่างที่ต้องเร่งพัฒนา

สรุป คือ ข้อเท็จจริงที่ศาลเพิ่งเปิดเผย คือ ความเร็วจริงไม่ได้อยู่ที่ 177 กม./ชม. แต่อยู่ที่ 70–80 กม./ชม. และสิ่งที่คดีนี้สะท้อนคือ เมื่อข้อมูลสำคัญถูกเปลี่ยนได้จากเจ้าหน้าที่เพียงหนึ่งคน คดีก็สามารถ “พลิก” ทั้งภาพ และความเข้าใจของสังคมได้ทันที

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top