’วุฒิสภา‘ ผนึก ‘ม.แม่ฟ้าหลวง’จ่อลุยเชียงราย เข้มจับตาสางปม ‘เหมืองแรร์เอิร์ธ–สารพิษแม่น้ำกก’

’วุฒิสภา‘ ผนึก ‘ม.แม่ฟ้าหลวง’จ่อลุยเชียงราย เข้มจับตาสางปม ‘เหมืองแรร์เอิร์ธ–สารพิษแม่น้ำกก’

วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 08.59 น.

’วุฒิสภา‘ ผนึก ‘ม.แม่ฟ้าหลวง’ เตรียมลุยลงพื้นที่เชียงราย25-26ธ.ค.นี้ เข้มจับตาสางปม ‘เหมืองแรร์เอิร์ธ–สารพิษข้ามแดนแม่น้ำกก’

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2568 นายชิบ จิตนิยม สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเสริมสร้าง ขับเคลื่อน และติดตามการดำเนินงานด้านวิจัยและพัฒนา เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการฯ มีกำหนดเดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 25–26 ธ.ค.นี้ เพื่อรับฟังและติดตามผลงานวิจัยด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับปัญหามลพิษข้ามแดน โดยเฉพาะผลกระทบจากการทำเหมืองแร่หายาก หรือแรร์เอิร์ธ (Rare Earth) ในประเทศเพื่อนบ้านซึ่งส่งผลต่อแม่น้ำกกและลุ่มน้ำโขง


นายชิบ กล่าวต่อว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการประชุมร่วมกับคณะกรรมการและที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการฯ ที่ผ่านมา โดยมี นายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง และ ศาสตราภิชาน แล ดิลกวิทยรัตน์สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะที่ปรึกษาและอนุกรรมการ ร่วมให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เพื่อกำหนดกรอบการทำงานบนฐานข้อมูลวิชาการที่รอบด้าน

“บทบาทของคณะอนุกรรมการชุดนี้ไม่ใช่เพียงการรับฟังงานวิจัย แต่คือการติดตามและขับเคลื่อนให้องค์ความรู้เหล่านี้ถูกนำไปใช้จริงในเชิงนโยบาย โดยเฉพาะพื้นที่เชียงรายซึ่งกำลังเผชิญความเสี่ยงจากมลพิษข้ามพรมแดน ทั้งต่อทรัพยากรน้ำ สุขภาพประชาชน และสิทธิชุมชน” นายชิบ กล่าว

นายชิบ กล่าวอีกว่า สำหรับการลงพื้นที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง คณะอนุกรรมการฯ จะรับฟังการนำเสนอผลงานวิจัยสำคัญ 5 ประเด็น ได้แก่ผลกระทบและความเสี่ยงจากการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธต่อระบบนิเวศลุ่มน้ำโขงและแม่น้ำกกนวัตกรรมการบำบัดโลหะหนักในน้ำเพื่อการเกษตร โดยใช้วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรและเถ้าอุตสาหกรรมการประเมินความเสี่ยงการได้รับสารหนูและผลกระทบต่อสุขภาพของเด็กนักเรียนในพื้นที่ลุ่มน้ำกก ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางแนวทางการใช้กลไกกฎหมายและสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เพื่อคุ้มครองและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากมลพิษข้ามแดน และประเด็นความมั่นคงทางอาหาร วิถีชีวิตชาติพันธุ์ รวมถึงนวัตกรรมการจัดการฝุ่นควันและไฟป่า เพื่อสนับสนุนการผลักดันกฎหมายอากาศสะอาด

นายชิบ กล่าวด้วยว่า คณะอนุกรรมการฯ ยังมีกำหนดเดินทางไปติดตามการดำเนินงานของศูนย์ประสานงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (PCCB) จังหวัดเชียงราย เพื่อตรวจระบบเฝ้าระวังคุณภาพอากาศ PM2.5 แบบอัตโนมัติ 

"ข้อมูลและข้อค้นพบจากงานวิจัยทั้งหมดจะถูกนำไปใช้เป็นฐานข้อมูลสำคัญในการทำงานของวุฒิสภา ผ่านกลไกของคณะอนุกรรมการ เพื่อผลักดันนโยบายป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษข้ามแดน ทั้งทางน้ำและทางอากาศ โดยยึดหลัก
 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top