จราจรกาญจน์ทำดีแจกหมวกนิรภัย เพื่อความปลอดภัยและลดเหตุรุนแรงบนท้องถนนช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ 25 ธ.ค.68 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี พล.ต.ต.พศวีร์ เรืองภู่ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เป็นประธานโครงการ แจกหมวกนิรภัยด้วยใจ สร้างความปลอดภัยประชาชน เพื่อลดความรุนแรงจากการเกิดอุบัติตามท้องถนนทั้งผู้ขับขี่และนั่งซ้อนท้ายในพื้นที่รับผิดชอบ ในช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสและฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 โดยมี พ.ต.อ.ชัยรัตน์ บัวขม ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี กล่าวรายงาน มี พ.ต.อ.สันทัด ลวางกูล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี นายพรชัย วารีทิพย์ขจร ประธานกองทุนสวัสดิการสื่อมวลชนจังหวัดกาญจนบุรี พ.ต.ท.โชคชัย ไทยเจริญ รอง ผกก.จราจร สภ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ ตร.จราจร สภ.เมืองกาญจนบุรี และผู้ให้การสนับสนุนประกอบด้วย รพ.พหลพลพยุหเสนา รพ.สินแพทย์กาญจนบุรี รพ.ธนกาญจน์ บริษัทสามัคคีที่ดินและเคหะ จำกัด และ สภ.เมืองกาญจนบุรี เข้าร่วม มีประชาชน รวมถึงผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง และนักเรียนจากหลานสถาบันกว่า 600 คน พร้อมใจรับมอบหมวกนิรภัย

ทั้งนี้ พล.ต.ต.พศวีร์ เรืองภู่ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากปัญหาการจราจรและปัญหาการเกิดอุบัติเหตุของประเทศไทยนั้นเกิดขึ้นค่อนข้างมากโดยเฉพาะการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ตำรวจภูธรภาค 7 ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี จึงมีความห่วงใยประชาชน และระหว่างนี้กำลังกำลังเข้าสู่ช่วงหยุดยาวเพื่อฉลองวันส่งท้ายปีเก่า 2568 ต้อนรับปีใหม่ 2569 จึงอยากให้ประชาชนที่มีแผนเดินทางมุ่งหน้าเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีของเราเกิดความปลอดภัยสูงสุด

สำหรับโครงการ “แจกหมวกนิรภัยด้วยใจ สร้างความปลอดภัยประชาชน”ได้รับการสนับสนุนจาก รพ.พหลพลพยุหเสนา รพ.สินแพทย์กาญจนบุรี รพ.ธนกาญจน์ บริษัทสามัคคีที่ดินและเคหะ จำกัด และ สภ.เมืองกาญจนบุรี รวมถึงที่ปรึกษา กก.ตร.และภาคเอกชนอีกหลายส่วนที่เข้ามาร่วมสนับสนุน ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถแจกหมวกนิรภัยให้กับนักเรียนรวมถึงเยาวชนและประชาชนชาวกาญจนบุรี ได้เป็นจำนวนมาก ทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เตรียมเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีของเรา

สำหรับมาตรการณ์ดูแลความปลอดภัยด้านการจราจรช่วงฉลองวันหยุดยาวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2569 นั้น ก่อนถึงช่วงกำหนด 7 วันอันตรายเจ้าหน้าที่งานด้านการจราจรจะทำการตักเตือนผู้ที่ทำผิดกฎหมายด้านการจราจรไปก่อนโดยเฉพาะผู้ที่ไม่สวมหมวกนิรภัยในยามขับขี่รถจักรยานยนต์ รวมถึงผู้ที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของเพื่อนร่วมทาง

และเชื่อว่าเมื่อถึงช่วงหยุดยาวดังกล่าวจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญเส้นทางการเดินทางโดยเฉพาะทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 สายบางใหญ่–กาญจนบุรี เปิดใช้ 100% จะทำให้ปริมาณรถยนต์และรถจักรยานยนต์มีจำนวนมากยิ่งขึ้น การบังคับใช้กฎหมายจึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องขับรถเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเมาแล้วขับและการขับรถย้อนศร กรณีนี้เจ้าหน้าที่จะเน้นบังคับกฎหมายอย่างเข้มข้นเป็นกรณีพิเศษ ควบคู่กับการรณรงค์เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนไปด้วยกัน

พล.ต.ต.พศวีร์ เรืองภู่ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ดังนั้นอยากจะฝากไปถึงผู้ใช้รถใช้ถนนโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีขอให้ทุกคนใช้ยานพาหนะด้วยความระมัดระวัง อย่าฝ่าฝืนกฎจราจรและขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทาง และขอให้มีน้ำใจด้านการจราจรที่ดีต่อกัน เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง หวังว่าช่วงระยะเวลาดังกล่าวทุกคนจะได้ท่องเที่ยวด้วยความสบายใจและกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย

สุดท้ายนี้ขอฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงพี่น้องประชาชนทั้ง 13 อำเภอว่า หากมีความจำเป็นต้องเดินทางไปท่องเที่ยวที่ต่างจังหวัดโดยไม่มีใครอยู่เฝ้าบ้าน ท่านสามารถเข้าร่วมโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจของเราได้ โดยให้ไปแจ้งความประสงค์ได้ทั้ง 21 สภ.ที่อยู่ใกล้บ้านของท่าน ทางเจ้าหน้าที่ ตร.ของเราจะคอยออกตรวจตราเพื่อเฝ้าระวังทรัพย์สินของท่านให้ โดยไม่ต้องเป็นห่วง

ด้านเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ที่มาร่วมกิจกรรมรยหนึ่งกล่าวว่า ก่อนอื่นต้องของขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองกาญจนบุรีที่มีโครงการดีๆมอบหมวกนิรภัยให้กับเด็กและเยาวชนรวมถึงชาวบ้านในครั้งนี้ พวกเราในฐานะเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ที่คอยช่วยเหลือประชาชนเมื่อยามเกิดอุบัติเหตุมาตลอดทั้งปี ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เกิดจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัยและการขับรถยนต์ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย โดยขับขี้ด้วยความเร็วสูงและมีความประมาทที่สำคัญมีอาการมึนเมา โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จะเกิดอุบัติเหตุ้กิดขึ้นตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน

ผู้ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขณะมึนเมาสุรา สภาพของบาดแผลที่พบคือการได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศรีษะ เนื่องจากไม่สวมหมวกนิรภัย พวกเราในฐานะเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯหวังว่าในช่วงหยุดยาวที่กำลังจะมาถึงนี้ จะมีอุบัติเหตุลดลง ซึ่งหวังว่าเด็กเยาวชนรวมถึงประชาชนจะเคารพกฎหมายด้านการจราจรอย่างเคร่งครัดซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการลดอุบัติเหตุอย่างแท้จริง ที่ผ่านมาการออกเหตุทุกครั้งหมายถึงการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน