วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เลขาฯ สพฉ. ออกมาตรการเข้ม! “เร็ว รอด ปลอดภัย มั่นใจระบบการแพทย์ฉุกเฉินไทย” พร้อมดูแลความปลอดภัยชีวิตประชาชน เพิ่มความสุขช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569
สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) โดย ดร.พิเชษฐ์ หนองช้าง เลขาธิการ สพฉ. เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมระบบการแพทย์ฉุกเฉินและติดตามเฝ้าระวังดูแลความปลอดภัยในชีวิตของพี่น้องประชาชน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการเดินทาง เพื่อสังสรรค์มีความสุขร่วมกับครอบครัวและคนที่รัก สพฉ.โดยมีการแถลงข่าวและรณรงค์ ขับขี่ปลอดภัย ลดความเร็ว ลดอุบัติเหตุ “ง่วงไม่ขับ ชีวิตไม่เสี่ยง” มี นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ดร.พิเชษฐ์ กล่าวว่า จากข้อมูลของศูนย์นเรนทร สพฉ. ระบุว่า ในช่วง 10 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ 2568 ที่ผ่านมา กลุ่มอาการนำที่มีการออกปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินสูงสุดอันดับแรกคือ อุบัติเหตุยานยนต์ ซึ่งรวมทั้ง 10 วันมียอดสูงถึง 18,643 ครั้ง แบ่งระดับความรุนแรงของผู้บาดเจ็บฉุกเฉินออกเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (สีแดง) 2,324 ราย คิดเป็นร้อยละ 13.32 ของผู้ป่วยทั้งหมด ผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วน (สีเหลือง) 13,678 ราย คิดเป็นร้อยละ 78.42 และผู้ป่วยฉุกเฉินไม่เร่งด่วน (สีเขียว) 1,439 ราย คิดเป็นร้อยละ 8.26 โดยมีผู้เสียชีวิตจำนวน 139 ราย ซึ่งลดลงจากช่วงเทศกาลปีใหม่ในปีก่อนหน้า ซึ่งช่วงเวลาที่เกิดเหตุมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ ช่วงเวลา 18.00 น. ลำดับที่สองคือช่วงเวลา 14.00 น. และช่วงเวลา 17.00 น. และจังหวัดที่เกิดเหตุมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ นครราชสีมา ชลบุรี ขอนแก่น เชียงใหม่ และอุบลราชธานี ตามลำดับ
สพฉ. ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในการติดตามและเฝ้าระวังอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสำคัญของประเทศ รวมถึงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ และได้เตรียมความพร้อมและประสานงานเครือข่ายความร่วมมืออย่างเข้มแข็ง ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ 1669 ทั้ง 80 ศูนย์ครอบคลุมทุกจังหวัด พร้อมทั้งโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิ และสมาคมต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงบุคลากรด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ทั้งแพทย์ พยาบาล นักฉุกเฉินการแพทย์ อาสาสมัคร และอาสาฉุกเฉินชุมชนทั่วประเทศ และที่สำคัญยังได้นำนวัตกรรมแห่งการช่วยชีวิต NDEMS Platform (National Digital Emergency Medical Services Platform) ดิจิทัลแพลตฟอร์มกลางด้านการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศ มาใช้ในการสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศทั้งระบบ ในรูปแบบดิจิทัล เพิ่มความมั่นใจให้กับประชาชนที่โทรแจ้งเหตุฉุกเฉินผ่านสายด่วน 1669 ผู้ปฏิบัติการที่รับสายจะส่ง SMS ให้กับผู้แจ้งเหตุผ่านทาง Smartphone เพื่อให้ส่งพิกัดที่เกิดเหตุ และ Video Call เพื่อวินิจฉัยอาการผู้ป่วย และให้คำแนะนำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแก่ผู้ที่ช่วยเหลือผู้ป่วย ระหว่างรอรถฉุกเฉิน ดังนั้น ไม่ว่าเกิดอุบัติเหตุที่ไหนระบบการแพทย์ฉุกเฉินสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา ผู้ปฏิบัติการทุกท่าน พร้อมให้บริการการแพทย์ฉุกเฉิน เฝ้าระวังและดูแลความปลอดภัยในชีวิตของพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยวทั่วประเทศอย่างเต็มกำลังในทุกสถานการณ์
036
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี