สพฉ. เข้ม!มาตรการ “เร็ว รอด ปลอดภัย” พร้อมดูแลประชาชน ช่วงปีใหม่ 69

สพฉ. เข้ม!มาตรการ “เร็ว รอด ปลอดภัย” พร้อมดูแลประชาชน ช่วงปีใหม่ 69

วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 16.37 น.

เลขาฯ สพฉ. ออกมาตรการเข้ม! “เร็ว รอด ปลอดภัย มั่นใจระบบการแพทย์ฉุกเฉินไทย” พร้อมดูแลความปลอดภัยชีวิตประชาชน เพิ่มความสุขช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569

สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) โดย ดร.พิเชษฐ์ หนองช้าง เลขาธิการ สพฉ. เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมระบบการแพทย์ฉุกเฉินและติดตามเฝ้าระวังดูแลความปลอดภัยในชีวิตของพี่น้องประชาชน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการเดินทาง เพื่อสังสรรค์มีความสุขร่วมกับครอบครัวและคนที่รัก สพฉ.โดยมีการแถลงข่าวและรณรงค์ ขับขี่ปลอดภัย ลดความเร็ว ลดอุบัติเหตุ “ง่วงไม่ขับ ชีวิตไม่เสี่ยง” มี นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข


ดร.พิเชษฐ์ กล่าวว่า จากข้อมูลของศูนย์นเรนทร สพฉ. ระบุว่า ในช่วง 10 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ 2568 ที่ผ่านมา กลุ่มอาการนำที่มีการออกปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินสูงสุดอันดับแรกคือ อุบัติเหตุยานยนต์ ซึ่งรวมทั้ง 10 วันมียอดสูงถึง 18,643 ครั้ง แบ่งระดับความรุนแรงของผู้บาดเจ็บฉุกเฉินออกเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (สีแดง) 2,324 ราย คิดเป็นร้อยละ 13.32 ของผู้ป่วยทั้งหมด ผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วน (สีเหลือง) 13,678 ราย คิดเป็นร้อยละ 78.42 และผู้ป่วยฉุกเฉินไม่เร่งด่วน (สีเขียว) 1,439 ราย คิดเป็นร้อยละ 8.26 โดยมีผู้เสียชีวิตจำนวน 139 ราย ซึ่งลดลงจากช่วงเทศกาลปีใหม่ในปีก่อนหน้า ซึ่งช่วงเวลาที่เกิดเหตุมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ ช่วงเวลา 18.00 น. ลำดับที่สองคือช่วงเวลา 14.00 น. และช่วงเวลา 17.00 น. และจังหวัดที่เกิดเหตุมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ นครราชสีมา ชลบุรี ขอนแก่น เชียงใหม่ และอุบลราชธานี ตามลำดับ

สพฉ. ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในการติดตามและเฝ้าระวังอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสำคัญของประเทศ รวมถึงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ และได้เตรียมความพร้อมและประสานงานเครือข่ายความร่วมมืออย่างเข้มแข็ง ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ 1669 ทั้ง 80 ศูนย์ครอบคลุมทุกจังหวัด พร้อมทั้งโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิ และสมาคมต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงบุคลากรด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ทั้งแพทย์ พยาบาล นักฉุกเฉินการแพทย์ อาสาสมัคร และอาสาฉุกเฉินชุมชนทั่วประเทศ และที่สำคัญยังได้นำนวัตกรรมแห่งการช่วยชีวิต NDEMS Platform (National Digital Emergency Medical Services Platform) ดิจิทัลแพลตฟอร์มกลางด้านการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศ มาใช้ในการสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศทั้งระบบ ในรูปแบบดิจิทัล เพิ่มความมั่นใจให้กับประชาชนที่โทรแจ้งเหตุฉุกเฉินผ่านสายด่วน 1669 ผู้ปฏิบัติการที่รับสายจะส่ง SMS ให้กับผู้แจ้งเหตุผ่านทาง Smartphone เพื่อให้ส่งพิกัดที่เกิดเหตุ และ Video Call เพื่อวินิจฉัยอาการผู้ป่วย และให้คำแนะนำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแก่ผู้ที่ช่วยเหลือผู้ป่วย ระหว่างรอรถฉุกเฉิน ดังนั้น ไม่ว่าเกิดอุบัติเหตุที่ไหนระบบการแพทย์ฉุกเฉินสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา ผู้ปฏิบัติการทุกท่าน พร้อมให้บริการการแพทย์ฉุกเฉิน เฝ้าระวังและดูแลความปลอดภัยในชีวิตของพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยวทั่วประเทศอย่างเต็มกำลังในทุกสถานการณ์

036

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top