คนกาญจน์เลิกเผา! สภาลมหายใจมั่นใจปี 69 ฝุ่น PM 2.5 ลดฮวบ

คนกาญจน์เลิกเผา! สภาลมหายใจมั่นใจปี 69 ฝุ่น PM 2.5 ลดฮวบ

วันจันทร์ ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 13.58 น.

ปธ.สภาลมหายใจกาญจนบุรี มั่นใจจุด Hotspot ต้นตอฝุ่นพิษ PM2.5 ปี 2569 จะต้องดีกว่า ปี 2568 อย่างแน่นอน หลัง ปชช.ชาวกาญจน์รู้ซึ้งถึงผลกระทบต่อสุขภาพ

วันนี้ 29 ธ.ค.68 นายวสันต์ สุนจิรัตน์ ประธานสภาลมหายใจ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดกาญจนบุรีอยู่ในกลุ่มป่าที่ 12 เป็นกลุ่มป่ารอบเขื่อนศรีนครินทร์ ประกอบด้วย พื้นที่ป่าอนุรักษ์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ  เขตห้ามล่าสัตว์ป่าศรีสวัสดิ์ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อุทยานแห่งชาติไทรโยค อุทยานแห่งชาติลำคลองงู และอุทยานแห่งชาติเอราวัณ


พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาพระฤาษีและป่าเขาบ่อแร่ แปลงที่หนึ่ง ป่าเขาพระฤาษีและป่าเขาบ่อแร่แปลงที่สอง ป่าโรงงานกระดาษไทยแปลงที่หก และป่าวังใหญ่และป่าแม่น้ำน้อย รวมเนื้อที่ 5,338,251.70 ไร่ ซึ่งมีความแห้งแล้งทำให้เกิดสถานการณ์ไฟป่าก่อนภาคอื่นๆ โดย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.ทส.มอบหมายให้ นายราชันย์ บัวตรี  ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เป็นหัวหน้าศูนย์บัญชาการประจำกลุ่มป่ารอบเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี

เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาจังหวัดกาญจนบุรีเกิดสถานการณ์ไฟป่าก่อให้เกิดฝุ่นละอองขาดเล็ก PM2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างรุ่นแรงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ หลังจากที่ตนเกษียณอายุจากตำแหน่งกำนันตำบลช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ตนก็ได้รับเลือกให้เข้ามาดำรงค์ตำแหน่งประธานสภาลมหายใจจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้เข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว ดังนั้นสภาลมหายใจจึงได้เข้าหาพี่น้องประชาชนในโซนต่างๆที่ตรวจพบจุดความร้อนหรือHotspot ที่เกิดขึ้นซ้ำซากโดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบกลุ่มป่ารอบเขื่อนศรีนครินทร์ ตามข้อมูลข้างต้น เมื่อเราได้ไปพูดคุยกับพี่น้องประชาชนได้ในระยะหนึ่งจึงทำให้สถานการณ์การเกิดไฟป่าลดลงในระดับหนึ่ง เมื่อไฟป่าลดลง สภาลมหายใจจึงขยายวงไปพบกับประชาชนให้กว้างขึ้นไปเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่กลุ่มป่าที่ 12 กลุ่มป่ารอบเขื่อนศรีนครินทร์และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงเช่นจังหวัดสุพรรณบุรี

ซึ่งสภาลมหายใจจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีแนวคิดเฝ้าระวังและป้องกันไฟป่าด้วยการเปิดเวทีทำประชาคมไปตามชุมชนและหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งผลปรากฎว่าได้รับการสนับสนุนจากชุมชนและหมู่บ้านเป็นอย่างดี แต่สิ่งสำคัญที่ยังขาดแคลนและเป็นที่ต้องการของประชาชนก็คืออุปกรณ์การดับไฟป่าใช้ในการทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามคืออุปกรณ์การดับไฟป่าและเครื่องเป่าลม ทำแนวกันไฟ

ดังนั้น สภาลมหายใจฯจึงประสานไปยังนายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า นายมานะ เพิ่มพูล ผู้อำนวยการส่วนควบคุมไฟป่า สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า นายราชันย์ บัวตรี  ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง)นายอากรชัย อวยพรชัยรัตน์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า นายสมคิด สิริรัตน์ หัวหน้าศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาการควบคุมไฟป่าภาคกลางกาญจนบุรีและนายวรุณ จันทร์สว่าง หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าสลักพระ-เอราวัณ

ต่อมานายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบเครื่องเป่าลมให้กับสภาลมหายใจจังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 30 เครื่อง และนอกจากนี้สภาลมหายใจฯยังได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนและประชาชนอีก จำนวน 4 เครื่อง ซึ่งสภาลมให้ใจได้มอบอุปกรณ์ดังกล่าวให้กับประชาชนซึ่งเป็นภาคีเครือข่ายป้องกันไฟป่าในพื้นที่ อ.เมืองกาญจนบุรี อ.ศรีสวัสดิ์ และ อ.บ่อพลอยไปแล้วทั้งหมด ซึ่งทุกคนต่างก็ผ่านการฝึกอบรมในการนำไปใช้งานและบำรุงรักษาอุปกรณ์กันเป็นอย่างดี

ซึ่งสถานการณ์ไฟป่าปี 2569 นี้ สภาลมหายใจจังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และกรมการฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย ต่างก็ให้ความร่วมมือและมีเป้าหมายเดียวกันคือ การร่วมมือแก้ไขสถานการณ์การเกิดไฟป่าเพื่อป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชนชนให้ได้มากที่สุด และที่สำคัญที่สุดคือปัจจุบันพี่น้องประชาชนชาวกาญจนบุรีที่อาศัยอยู่โดยรอบกลุ่มป่าที่ 12 รอบเขื่อนศรีนครินทร์ เข้าใจปัญหาสาเหตุฝุ่นละอองขนาดเล็กPM2.5 ที่มีผลกระทบต่องตัวเองและครอบครัวแล้วเป็นอย่างดี สภาลมหายใจกาญจนบุรี จึงเชื่อมั่นว่าสภาพอากาศปี 2569 จะต้องดีกว่าปี 2568 อย่างแน่นอน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top