วันจันทร์ ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2568
โฆษกศาลยุติธรรม”เผยหยุดยาวปีใหม่ ศาลทั่วประเทศยังเปิดทำการตัดสินคดีอาญาคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน เตือนสายดื่มพวกเมาขับ-เสพยาขับ โทษไม่เบา-ปรับหนัก
วันที่ 29 ธันวาคม68 นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า วันหยุดช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกๆ ปี จะมีสถิติของการกระทำความผิดที่ถูกฟ้องต่อศาลเป็นจำนวนมาก คือความผิดตามพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 โดยเฉพาะคดีเมาแล้วขับ ตามมาตรา 43 (2) ที่บัญญัติห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น
ซึ่งมีบทลงโทษอยู่ในมาตรา 160 ตรี ว่าต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
แต่ถ้าเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องรับโทษเพิ่มขึ้นคือจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปีและปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่มีกำหนดไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
ถ้าเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-6 ปีและปรับตั้งแต่40,000 -120,000 บาท และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่มีกำหนดไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
ถ้าเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปีและปรับตั้งแต่ 60,000 -200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
อีกข้อหาหนึ่งที่ถูกฟ้องมามาก คือขับรถขณะเสพยาเสพติด ซึ่งมาตรา 43 ทวิ บัญญัติห้ามมิให้ผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษตามกฏหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ หรือเสพวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทตามกฏหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท โดยมีการกำหนดโทษไว้ในมาตรา 157/1 วรรคสองว่าต้องระวางโทษสูงกว่าที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ และกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทอีกหนึ่งในสาม และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือนหรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ ซึ่งสัดส่วนโทษที่เป็นฐานที่ศาลจะลงโทษผู้เสพยาเสพติดขณะขับขี่ คือจากที่ประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 162 ให้ระวางโทษผู้เสพยาเสพติดให้โทษ จําคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ดังนั้นเมื่อต้องพิจารณาเพิ่มโทษหนึ่งในสาม ผู้ขับขี่เสพยาเสพติดจะมีโทษสูงสุดจำคุก 1 ปี 4 เดือน หรือปรับไม่เกิน 26,666.66 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวด้วยว่า ช่วงวันหยุดราชการ ศาลยุติธรรมทั่วประเทศไม่ว่าจะเป็นศาลจังหวัดหรือศาลแขวง จะมีการเปิดทำการในช่วงวันหยุดเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมไม่หยุดชะงักและสามารถที่จะคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพให้แก่ประชาชนได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการผัดฟ้อง ฝากขัง รับและส่งตัวผู้ถูกจับตามหมายจับ พิจารณาคำร้องขอออกหมายค้น หมายจับ พิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราว การรับชำระค่าปรับในคดีอาญาและออกหมายปล่อย รวมถึงกรณีอื่นๆ ที่เป็นการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนที่สำคัญคือเปิดทำการเพื่อการพิจารณาพิพากษาคดีอาญาที่อยู่ในอำนาจการพิจารณาคดีของศาลแขวง ได้แก่คดีที่กฎหมายกำหนดอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไว้ให้จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับที่พนักงานอัยการจะต้องยื่นฟ้องต่อศาลภายในกำหนดเวลา 48 ชั่วโมง เช่น คดีเมาแล้วขับแต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เป็นต้น
ส่วนศาลเยาวชนและครอบครัวทั่วประเทศ ก็จะเปิดทำการเพื่อออกหมายค้นและหมายจับการตรวจสอบการจับกุมและการรับมอบตัว การรับและส่งตัวผู้ถูกจับตามหมายจับ การพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราว การรับชำระค่าปรับในคดีอาญา การออกหมายปล่อยและกรณีอื่นๆ อันเป็นการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน การดำเนินการเช่นนี้ถือว่าศาลยุติธรรมจะพยายามให้ความยุติธรรมไม่มีวันหยุด.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี