วันจันทร์ ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2568
บขส.เผยมีผู้ใช้บริการช่วงปีใหม่ กว่า 1.36 แสนคน ใช้รถบขส.กว่า 7 พันเที่ยว ยันพร้อมให้บริการตลอดช่วงปีใหม่ ด้าน รองผบ.ตร.สั่งระดมกำลังรับมือการเดินทาง พบถนนสายหลักเริ่มหนาแน่น สั่งเปิดช่องทางพิเศษระบายรถ พร้อมบังคับใช้ กม.คุมเข้ม ส่วนโครงการฝากบ้านกับตำรวจ ยอดเพิ่มกว่า 3 พันหลัง
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยข้อมูลการเดินรถเมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา ว่ามีผู้โดยสารเดินทางออกจากกทม.เที่ยวไป 83,764 คน เที่ยวกลับ 53,217 คน รวม136,981 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส.และรถร่วมฯ) เที่ยวไป 3,827 เที่ยว และเที่ยวกลับ 3,680 เที่ยว รวม 7,507 เที่ยว ทั้งนี้ บขส.สามารถบริหารจัดการเดินรถได้เรียบร้อย และส่งผู้โดยสารออกจากสถานีขนส่งฯ หมอชิต 2 ภายในเวลา 24.00 น.
สำหรับวันเดียวกันนี้ คาดว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 จะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ในเที่ยวไป–กลับ ประมาณ 1-1.2 แสนคน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส.และรถร่วมฯ) กว่า 6,000 เที่ยว ซึ่ง บขส.ได้จัดรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถเสริม 30) เกือบ 1,000 คัน เพื่อรองรับการเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าว
อย่างไรก็ตามผู้โดยสารที่จองตั๋ว บขส.ล่วงหน้า เส้นทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ตั้งแต่เที่ยวเวลา 18.00 น.เป็นต้นไป ให้ตรวจสอบข้อมูลการเดินทางในตั๋วโดยสาร และจุดที่ขึ้นรถโดยสาร โดยวันเดียวกันนี้ รถโดยสาร บขส.จะออกที่สถานีขนส่งฯ หมอชิต 2 และรถเสริม ออกที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประตู 2 รวมทั้งขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมาสถานีขนส่งฯ อย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนเวลารถออก
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ศูนย์บริหารงานจราจร ตร.กล่าวว่า ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) รายงานว่า มีประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ ส่งผลให้ถนนสายหลักหลายเส้นทาง โดยเฉพาะเส้นทางออกจากกทม.มีปริมาณรถเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงสั่งการให้ระดมกำลังตำรวจจราจรและตำรวจทางหลวงทั่วประเทศ ดำเนินมาตรการบริหารจัดการจราจรเชิงรุกอย่างเข้มข้น เร่งระบายการจราจรในจุดคอขวด และช่วงเวลาหนาแน่น เปิดใช้ช่องทางพิเศษตามความเหมาะสม พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่อำนวยการจราจรอย่างเต็มกำลัง และกำชับให้ทุกหน่วยติดตามและรายงานสถานการณ์จราจรแบบต่อเนื่อง เพื่อสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที และให้ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างต่อเนื่องและปลอดภัย
ด้าน พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะรอง ผอ.ศจร.ตร.กล่าวว่า ได้กำชับให้ทุกหน่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด มุ่งเน้นการป้องกันอุบัติเหตุจากพฤติกรรมเสี่ยงเป็นหลัก เช่น เมาแล้วขับ ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย เพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดแก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน และฝากเน้นย้ำถึงประชาชนผู้ขับขี่ให้ตรวจสอบความพร้อมของสภาพรถก่อนออกเดินทาง โดยเฉพาะระบบเบรก ยางรถ และไฟส่องสว่าง สวมหมวกนิรภัยและคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่โดยไม่มีข้อยกเว้น รวมถึงหลีกเลี่ยงการขับขี่ขณะมึนเมาหรือมีอาการง่วงนอน ซึ่งอาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงและการสูญเสียชีวิต ทางกองบังคับการตำรวจทางหลวงได้เตรียมห้องพักทั่วประเทศไว้ให้พี่น้องประชาชนเข้าใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่ พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์อำนวยจราจร ศจร.ตร.เปิดเผยข้อมูลจากมูลนิธิเมาไม่ขับว่าตั้งแต่วันที่ 1–26 ธันวาคม 2568 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสะสมแล้วกว่า 1,007 ราย สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการร่วมกันลดพฤติกรรมเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างจริงจัง
ทั้งนี้ ศจร.ตร.จึงขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ใช้รถใช้ถนนด้วยความมีสติและความรับผิดชอบ ตรวจสอบสภาพรถก่อนออกเดินทาง สวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่จักรยานยนต์ และคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งก่อนและขณะขับขี่ และหลีกเลี่ยงการขับขี่ขณะง่วงนอน เพื่อร่วมกันลดความสูญเสียในช่วงเทศกาลปีใหม่
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลเส้นทาง แจ้งเหตุ หรือขอความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร โทร.1197, สายด่วนตำรวจทางหลวง โทร.1193หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 191 และ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
อีกด้านหนึ่ง พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้ช่วยผบ.ตร.ในฐานะโฆษกตร.เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ผบ.ตร.กำชับหน่วยต่างๆ ยกระดับมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย รวมทั้งดูแลบ้านเรือนประชาชนที่เข้าร่วมโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็น1 ใน 4 ของขวัญปีใหม่ จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ประชาชน โดยให้ประชาชนที่เดินทางไปต่างจังหวัดไม่มีใครอยู่บ้าน สามารถลงทะเบียนฝากบ้านไว้กับตำรวจได้ 2 วิธี คือที่สถานีตำรวจในพื้นที่บ้านพัก และแอปพลิเคชั่น “ฝากบ้าน (Vacation House Watch)” โดยผู้ฝากบ้านสามารถตรวจสอบรายงานผลการตรวจบ้านจากตำรวจผ่านแอปพลิเคชั่นดังกล่าว
สำหรับปีนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดให้ประชาชนฝากบ้านช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 22 ธันวาคม 2568 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2569 พบว่าตั้งแต่วันที่ 22–27 ธันวาคม 2568 มีประชาชนฝากบ้านทั้งสิ้น 3,221 หลัง โดยใช้วิธีลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น ‘ฝากบ้าน (Vacation House Watch)’2,927 หลัง และลงทะเบียนที่สถานีตำรวจ 294 หลัง ในจำนวนนี้รับคืนบ้านแล้ว 72 หลัง คงเหลือในความดูแลตามโครงการ 3,149 หลัง โดย ผบ.ตร.กำชับให้ตำรวจทุกพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราอย่างใกล้ชิด
พล.ต.ท.ยิ่งยศเปิดเผยด้วยว่า โครงการฝากบ้านจะช่วยลดความกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัยในทรัพย์สินช่วงวันหยุดยาว โดยมีตำรวจคอยตรวจตราและอัปเดตข้อมูล ทำให้ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างสบายใจ อย่างไรก็ตาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแนะนำประชาชน ก่อนออกเดินทางควรตรวจสอบความเรียบร้อยของบ้าน อาทิ จัดเก็บทรัพย์สินมีค่า ปิดสวิตช์ไฟฟ้า ปิดแก๊สหุงต้ม ล็อกประตู-หน้าต่างให้เรียบร้อย รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดให้พร้อมใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี