เปิดโปงเกม‘หญิงหน่อย’

‘บิ๊กตู่’ชี้รู้ทัน

ต่อรองนิรโทษ-ปรองดอง

ปิดประตูไม่รับข้อเสนอใคร

ประวิตรขู่คุยได้อย่าเกิน5คน

‘นิพิฏฐ์’ยกหูเลื่อนนัดสุมหัว

กกต.จ่อเชือดวัฒนาเซ่นเสื้อ

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย(พท.)นัดหารือกับนักการเมืองเพื่อหาทางออกประเทศในสัปดาห์หน้าว่า ตนไม่รับรู้ จะไปคุยก็ไปคุย แต่อย่าทำผิดกฎหมายก็แล้วกัน คำสั่งคสช.เขียนไว้ว่าอย่างไร ตนไม่ได้อนุญาต หรืออนุญาต แต่บอกว่าใครจะทำอะไรก็ได้แต่อย่าผิดกฎหมาย

เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าหารือเกิน 5 คนไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่ต้องมาแปลไปแปลมา ติดนิสัยชอบสู้กันด้วยกฎหมาย หาช่องว่างช่องโหว่กันแบบนี้ แล้วที่ผ่านมาเขาไม่เคยคุยกันเลยหรืออย่างไร ก็คุยกันลับ ๆ ครั้งนี้จะมาคุยเปิดเผยสื่อจะรับผิดชอบด้วยหรือไม่ จะรับได้หรือไม่ถ้าตีกันอีก”

แฉเตรียมชงนิรโทษ-ปรองดอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางกลุ่มการเมืองดังกล่าวอ้างว่า เป็นการคุยเพื่อบ้านเมือง เพื่อเสนอแนะมายังรัฐบาล รับได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปฏิเสธทันทีว่า ไม่ได้ ก็ไปคุยกันเงียบๆแล้วส่งมา แต่เท่าที่รู้ตอนนี้ที่จะส่งมาคือ เรื่องทำอย่างไรจะเร่งเรื่องนิรโทษกรรม ทำอย่างไรจะมีเรื่องการปรองดอง โดยที่จะต้องลดความขัดแย้งการไล่ล่าฆ่าฟันพวกเขา

ปิดประตูตายไม่รับข้อเสนอ

“ผมถามว่าผมไปไล่ล่าฆ่าฟันพวกเขาเรื่องอะไร ผมไม่ใช่ศัตรูกับเขา พวกเขาเป็นศัตรูกับกฎหมาย ทำผิดกฎหมายก็ให้ออกมาว่ากันตามกฎหมายก็จบไปแล้ว แล้วค่อยมาพูดอย่างอื่น เรื่องการเมืองผิดหรือถูกอย่ามาถามผม ไม่ใช่หน้าที่ของผม คนชี้ผิดชี้ถูกคือ กกต.เมื่อรับแจ้งมาก็เข้าสู่กระบวนการพิจารณา คสช.กับตำรวจก็ต้องจับกุม จับได้ก็จับ มีปัญหาก็ชะลอ ถ้าละเลยก็ผิด157และหลายคนเข้าคุกไปกี่รอบแล้ว”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีนายกฯระบุว่า มีการส่งสัญญาณจากฝ่ายการเมืองถึงการนิรโทษกรรม ปรองดอง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สื่อก็สนใจแต่เรื่องแบบนี้ ไม่ได้มีการส่งสัญญาณใดๆ แต่ตนฟังจากที่มีการพูดกันทั่วไป ตนไม่พูดกับใคร พูดกับสื่อก็มากแล้ว

แจงยูเอ็นเข้าใจก้าวสู่เลือกตั้ง

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ตัวแทนรัฐบาลเดินทางไปชี้แจงการดำเนินการต่างๆหลัง คสช.เข้ามายึดอำนาจต่อรองเลขาธิการสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ว่า ได้รับรายงานแล้ว ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยยูเอ็นได้เตรียมคณะรับฟัง รับทราบการทำความเข้าใจ ทั้งนี้ ตนได้ส่งเอกสาร รูปภาพ บันทึกการปฏิบัติทั้งหมด ทั้งของรัฐบาลและอีกฝ่ายได้ให้ยูเอ็นพิจารณา เพื่อจะได้รู้ถึงเหตุผลและความจำเป็น รู้สิ่งที่ผิดหรือถูก ทั้งนี้ก็แล้วแต่การพิจารณาของยูเอ็น เบื้องต้นยูเอ็นเกิดความเข้าใจ ขอให้ไทยเดินหน้าประเทศตามโรดแมป เพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง

นศ.ฝึกงานฟังแถลงจนเป็นลมฟุบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ เสร็จสิ้นการแถลงข่าวซึ่งใช้เวลาประมาณ 20นาที ก็ได้เดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ปรากฎว่าเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อนักศึกษาฝึกงานผู้หญิง ที่ฝึกงานกับสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง เกิดอาการหน้ามืดและล้มลงกับพื้น ทำให้สื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ ต่างพากันตกใจและรุดเข้าไปประคองร่างไว้ จากนั้นได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาลวชิระพยาบาล เพื่อรักษาอาการต่อไป

บิ๊กป้อมไฟเขียว-แต่อย่าเกิน5คน

ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกล่าวถึงกรณี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) จะนัดนักการเมืองพูดคุยเพื่อแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในสัปดาห์หน้าว่า“จะคุยก็คุยไป แต่อย่าคุยกันหลายคนก็แล้วกัน เพราะเรามีกฎหมายอยู่ ผมเองไม่ได้ว่าอะไร เพราะรู้ว่าทุกคนหวังดีต่อประเทศทั้งนั้น แต่ว่าอย่าให้ผิดกฎหมายก็แล้วกัน เพราะหากผิดกฎหมายก็ต้องว่า ไปตามกฎหมาย อย่าพูดเกินเลยและอย่าไปชักจูงหรือแนะนำในสิ่งที่ไม่ใช่หน้าที่ของตน อย่าไปโฆษณาชวนเชื่อ

โยน’กกต.’เชือด’วัฒนา’ป่วน

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย เดินทางไปพบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยใส่เสื้อสกรีนคำว่า”ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ”ถ่ายรูปร่วมกันแล้วโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว เพราะหลายกังวลว่า จะมีผลต่อการลงประชามติ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องไปถาม กกต.ให้เขาเป็นคนตัดสิน ถ้าผิดก็ว่ากันไปตามกฎหมาย กกต.เขารับผิดชอบอยู่แล้วเรื่องนี้ เมื่อถามว่า คสช.จะทบทวนคำสั่งปลดล็อกนักเมืองเดินทางออกนอกประเทศอีกครั้งหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ทบทวน เรื่องนี้เป็นอำนาจของศาล

‘สมชัย’ไฟเขียว’ตู่’วิจารณ์รธน.

ขณะที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร ขอให้กกต.พิจารณากรณี นายวัฒนา สวมเสื้อไม่รับร่างรัฐธรรมนูญถ่ายภาพคู่กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯโพสต์ลงเฟสบุ๊คจะผิด พรบ.ประชามติหรือไม่ ว่า หากจะให้กกต.พิจารณาต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม กกต.แต่เบื้องต้นการใส่เสื้อรณรงค์รับหรือไม่รับ ไม่ผิดกฎหมาย แต่ต้องดูเจตนาว่า มุ่งจะทำให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่ ซึ่งขอไปดูรายละเอียดส่วนนี้ก่อน

‘มาร์ค’ไม่โต้ปม‘หญิงหน่อย’

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเย็นวันที่ 30มิถุนายนที่ผ่านมา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย(พท.)โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ค โดยแสดงความเห็นถึงท่าทีของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ต่อกรณีการนัดพูดคุยกันระหว่าง นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา(ชพน.) โดยระบุว่า นายอภิสิทธิ์ เป็นต้นเหตุของการปิดฉากการพูดคุยของอดีตนักการเมืองเพื่อหาทางออกประเทศ นั้น

ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามประเด็นนี้จาก นายอภิสิทธิ์ แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยเลี่ยงไปขึ้นรถเพื่อไปร่วมงานภารกิจส่วนตัว

ลูกพรรคออกโรงซัดหญิงหน่อย

ด้าน นายธนา ชีรวินิจ อดีต สส.กทม.พรรคปชป. ได้แถลงข่าวต่อกรณีดังกล่าวว่า ข้อมูลที่ คุณหญิงสุดารัตน์ โพสต์ในเฟซบุ๊กนั้น บิดเบือนข้อเท็จจริง เป็นการยกตนข่มท่าน ทั้งที่นายอภิสิทธิ์ ได้พูดและแสดงออกในหลายโอกาสว่า จะนำพาประเทศไปสู่ความสงบสุข ซึ่งยืนยันว่าโดยปกติ นายอภิสิทธิ์ ก็คุยกับทุกฝ่ายทั้งนักการเมือง ข้าราชการและภาคเอกชน ไม่จำเป็นต้องมีการแถลงข่าวออกมาเป็นประเด็นทางการเมือง หรือเรียกร้องความสนใจจากประชาชน

ปูดเดินเกมรวมรวมพรรคเล็ก

ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ สนับสนุนให้พูดคุย แต่ไม่ใช่สร้างประเด็นทางการเมือง ไม่เช่นนั้นการพูดคุยหาทางออกประเทศ ไม่มีทางสำเร็จ ซึ่งการที่ คุณหญิงสุดารัตน์ พูดคุยกับ นายนิพิฎฐ์ ถือเป็นการพูดคุยกันนอกรอบก่อนขึ้นเวทีเสวนา แต่ คุณหญิงสุดารัตน์ กลับหยิบยกขึ้นมาพูดคุยกลางวงเสวนาจนเป็นประเด็น ทำเสมือนเป็นผู้นำการพูดคุยครั้งนี้ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า คุณหญิงสุดารัตน์ จะเป็นหัวหน้า พท.หรืออาจรวบรวมพรรคเล็กๆเพื่อเชื่อมสัมพันธ์กับทหาร

‘นิพิฏฐ์’ต่อสายเจ๊หน่อยขอเลื่อนคุย

ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคปชป.กล่าวถึงความคืบหน้าการนัดคุยกับ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย(พท.)และนายสมศักดิ์ ปริศนานนันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) ว่า ตนได้โทรศัพท์พูดคุยกับคุณหญิงสุดารัตน์ โดยได้แจ้งให้ทราบว่า ตนขอเลื่อนนัดคุยออกไปก่อน เพราะมีความหวาดระแวงเกิดขึ้น

“แม้เราจะมีเจตนาที่ดี แต่ผมขอไปทำความเข้าใจกับหลายฝ่าย โดยเฉพาะผู้มีอำนาจว่า อย่าหวาดระแวงนักการเมืองที่คิดแบบกลางๆ และขอโอกาสคนที่เห็นต่างและมีแนวคิดกลางๆอย่างเราได้มีที่ยืนบ้าง ขอเวลาทำความเข้าใจในส่วนนี้ต่อสังคม ให้เข้าใจจุดยืนและหลักคิดนี้ก่อน”นายนิพิฏฐ์

‘เจ๊หน่อย’ปัดเตรียมคุยนิรโทษ

ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคพท. ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่าตนไม่ใช่แกนนำนัดพูดคุย แต่วงพูดคุยนี้เกิดจากการเสวนาที่มหาวิทยาลัยมหิดล ต่อมา นายนายนิพิฏฐ์ ได้โทรศัพท์มาเสนอว่า ขอเลื่อนการพูดคุยออกไปก่อน ซึ่งคิดว่า นายนิพิฏฐ์ คงจะแจ้งคนอื่นแล้วเช่นกัน ทั้งนี้ต้องฟังคนอื่นที่ร่วมเสวนาด้วยว่า จะเอาอย่างไรต่อไป อยากให้ทุกฝ่ายสบายใจว่า ความคิดนี้เกิดบนพื้นฐานว่าทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาควรคุยกันว่า จะทำอย่างไรให้ลดปัญหาลงเพื่อให้ประเทศมีทางออก ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของนักการเมือง หรือพรรคการเมืองใด ส่วนกรณีพล.อ.ประยุทธ์ระบุรับไม่ได้ที่บอกว่า มาคุยกันเพื่อหาทางออกประเทศ เพราะนักการเมืองพูดแต่เรื่องนิรโทษกรรมนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า สำหรับตนไม่เคยพูด แต่ไม่ทราบคนอื่นว่าอย่างไร

‘สุเทพ’ชูสว.‘คนกลางของแผ่นดิน’

ทางด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ได้เผยแพร่ภาพสดผ่านเฟซบุ๊คไลฟ์ เพื่อชี้แจงถึงเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการปฏิรูป สว.โดยการออกอากาศครั้งนี้ล่าช้าออกไป 2ชั่วโมง เนื่องจากความขัดข้องทางเทคนิค
โดยนายสุเทพระบุว่า ตนชอบใจบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญที่ระบุว่า สว.ต้องประกอบด้วยสมาชิก 200คน ซึ่งมาจากการเลือกกันเองของประชาชนผู้มีความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ ในสาขาอาชีพต่างๆ เพราะฉะนั้น แม้จะเป็นการเลือกตั้งก็มีวิธีที่แตกต่างจากการเลือก สส.เพราะมีคุณสมบัติที่พิเศษออกไป เช่น จะต้องมีอายุ 40ปีขึ้นไป เน้นเรื่องวัยวุฒิและคุณวุฒิ สว.จะเกี่ยวพันกับนักการเมืองและพรรคการเมืองไม่ได้ ที่สำคัญคือ ให้เป็นได้เพียงสมัยเดียว ไม่มีอาชีพเป็น ส.แล้วจะต้องทำหน้าที่เป็นคนกลางของแผ่นดิน จะต้องรับผิดชอบบ้านเมืองจริงๆ ถือเป็นการแก้ปัญหาตรงจุด เพราะเมื่อก่อนรัฐบาลสามารถสั่งให้ สว.ซ้ายหันขวาหันได้