4 ก.ค. 59 จากกรณีที่ นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน และเลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความลงบนเฟซบุ๊ก "Veera Somkwamkid" เนื่องในวันครบรอบ 2 ปี ที่ออกจากเรือนจำเปรยซอร์ ที่ประเทศกัมพูชา หลังจากถูกทางการเขมรจับกุมในข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย บุกรุกเขตทหาร และจารกรรมข้อมูลว่าไม่ใช่ผลงานของ คสช. ซึ่งต่อมาในโลกสังคมออนไลน์ได้มีการตั้งข้อสงสัยว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 57 นายวีระ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากที่ถูกปล่อยตัว โดยขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)นั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (3 ก.ค.) นายวีระ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Veera Somkwamkid" ถึงข้อสงสัยดังกล่าวว่า "หลังจากผมได้เปิดเผยตวามจริงบางประการที่เกี่ยวกับการที่ผมและคุณราตรีต้องไปถูกจองจำที่เรือนจำประเทศกัมพูชาเมื่อหลายปีก่อน มีการตั้งข้อสงสัยว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ค.2557 ผมให้สัมภาษณ์ที่ประเทศกัมพูชาก่อนเดินทางกลับประเทศไทย โดยกล่าวขอบคุณนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และพล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา ผบ.ทบ. ในฐานะคณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติ(คสช.) ที่ฝากให้ดูแลในเรื่องดังกล่าว แต่ต่อมาในวันที่ 1 ก.ค.2559 ผมกลับพูดว่า คสช.ไม่ได้ช่วยผมนั้น หมายความอย่างไร อันไหนพูดจริง อันไหนพูดเท็จ

ผมขอชี้แจงดังนี้ เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2557 หลังถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำเปร์ยซอว์ ผมถูกพาไปพักยังสถานฑูตไทย ในกรุงพนมเปญ เมื่อเดินทางไปถึงสถานฑูตไทยได้สักพัก ภรรยาท่านฑูตได้แจ้งว่าพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชาจะโทร.มาหาผม ให้เตรียมตัว แต่เมื่อเวลาผ่านไปพักใหญ่ นายสีหศักดิ์ ได้โทร.เข้าสถานฑูตเพื่อคุยกับผม เนื้อหามีดังนี้ พล.อ.ประยุทธติดภารกิจด่วนจึงไม่สามารถคุยกับผมได้โดยตรง จึงให้คุณสีหศักดิ์แจ้งกับผมว่า ไม่อยากให้ผมให้สัมภาษณ์ใดๆที่จะไปทำให้เกิดความเสียหายกับฮุนเซน หรือประเทศกัมพูชา ถ้าเป็นไปได้ ขอให้ผมขอบคุณฮุนเซนที่ได้ปล่อยตัวผม เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ โดยที่ขณะนั้นผมยังไม่ทราบความจริงบางประการ ผมจึงตั้งใจว่าผมจะเลือกขอบคุณนายสีหศักดิ์ และพล.อ.ประยุทธ์ เท่านั้น แต่ผมไม่สามารถที่จะขอบคุณฮุนเซนได้ ตราบใดที่เขายังไม่หยุดรังแกและเอาเปรียบประเทศไทย จึงเป็นที่มาว่าเมื่อถึงเวลาที่ผมได้พบกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกในวันที่ 2 ก.ค.2557 ผมจึงได้กล่าวขอบคุณนายสีหศักดิ์และพล.อ.ประยุทธ์ แต่ไม่พูดถึงฮุนเซนเลย

หลังจากผมกลับมาถึงเมืองไทย ได้มีผู้มาให้ข้อมูลจำนวนมาก ทำให้ผมทราบว่าเบื้องลึกในการการปล่อยตัวผมเป็นอย่างไร ฮุนเซน ทำทุกอย่างเพื่อหวังผลประโยชน์ของเขาทั้งสิ้น ส่วนเหตุผลที่ผมเพิ่งมาเปิดเผยความจริงในวันนี้ เนื่องจากเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ผมต้องการให้เวลากับ คสช.ในการปฏิรูปประเทศตามที่ คสช.ได้ให้คำมั่นสัญญากับคนไทยทั้งประเทศ ผมไม่ต้องการทำลายความหวังของคนทั้งประเทศ ที่มีความหวังอย่างมากกับรัฐบาล คสช. แต่ในที่สุดเมื่อเวลาผ่านไป 2 ปี นอกจาก คสช.จะไม่ได้มีความจริงใจในการปฏิรูปประเทศในเรื่องที่สำคัญๆ เช่นการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ ตำรวจ อัยการ ศาล การปฏิรูประบบราชการ การปฏิรูประะบบการศึกษา เป็นต้น เพื่อเตรียมเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประเทศ รองรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นภายหลังมีรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่พบกับวงจรอุบาทว์อีก

เมื่อปรากฎว่านอกจากรัฐบาล คสช.จะไม่ได้ปฏิรูปประเทศแล้ว ยังถูกกล่าวหาว่าได้เข้าไปเกี่ยวข้องการทุจริตคอร์รัปชันจำนวนมาก เช่นการใช้วิธีจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษเกือบจะทุกโครงการในรัฐบาล คสช.นี้ กรณีเชื่อว่ามีการทุจริตในโครงการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ กรณีมีกล่าวหาว่ามีการซื้อขายตำแหน่งเพื่อโยกย้ายนายตำรวจชนิดเลวร้ายที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน กรณีองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเข้าไปรับงานของทางราชการเพื่อหวังผลประโยชน์โดยมิชอบ นอกจากนี้รัฐบาล คสช.ยังดำเนินนโยบายหลายเรื่องที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อสังคม เช่น กรณีนโยบายพลังงาน กรณีเขตเศรษฐกิจพิเศษ และกรณีอื่นๆอีกมากมาย

สองปีที่ผ่านมาผมหวังว่าบิ๊ก คสช.ที่ผลักไสผมเข้าคุกคือพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะเข้ามานำพาประเทศให้พ้นจากวงจรอุบาทว์ แต่ผมก็ต้องผิดหวัง เพราะนอกจากไม่ทำในสิ่งที่ควรทำแล้ว กลับทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ ดังนั้น เมื่อครบรอบ 2 ปีที่ผมได้รับอิสรภาพ จึงถึงเวลาที่คนไทยจะได้เข้าถึงอิสรภาพทางความคิด ได้รับฟังความจริงที่เคยเกิดขึ้นกับผมและคุณราตรี เพื่อให้นำมาวิเคราะห์เปรียบเทียบกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งตัวละครที่มีบทบาทสำคัญยังเป็นตัวเดิมๆ และอยากให้สังคมไทยได้ใช้ความคิด พิจารณาสิ่งต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะผู้มีอำนาจทั้งหลายเมื่อความจริงถูกเปิดเผยแล้ว ขอให้พวกคุณหยุดทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ แล้วรีบหันกลับมาทำในสิ่งที่ควรทำเสียที ซึ่งเกือบจะสายเกินแก้แล้ว ผมเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ให้โอกาสพวกคุณมาโดยตลอด แต่พวกคุณกลับไม่ใช้โอกาสที่มีทำในสิ่งที่ควรทำ ผมอาจทำผิดที่ไม่พูดความจริงให้สังคมรับทราบในทันที ที่ผมทราบความจริง ผมยอมให้โอกาสแก่พวกเขาโกหก หลอกลวง ทำร้ายประเทศชาติมามากพอแล้ว จากนี้ไปหากพวกเขายังไม่หันกลับมาทำในสิ่งที่ควรทำ ก็สมควรได้รับผลกรรมที่ก่อเอาไว้"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'วีระ'แฉคสช.ไม่ได้ช่วยพ้นคุกเขมร ปูดรบ.'มาร์ค'บีบแม่ให้มากล่อม