วันอาทิตย์ ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
พรบ.คอมพ์ฉลุย มติสนช.ท่วมท้น168เสียง กลุ่มต้านเปิดฉากโจมตี

พรบ.คอมพ์ฉลุย มติสนช.ท่วมท้น168เสียง กลุ่มต้านเปิดฉากโจมตี

วันเสาร์ ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag : พรบ.คอมพ์ สนช. กลุ่มต้าน
  •  

พรบ.คอมพ์ฉลุย

มติสนช.ท่วมท้น168เสียง

กลุ่มต้านเปิดฉากโจมตี

ถล่มเว็บทหารล่มนับชม.

‘มีชัย’ชูจัดงบลับให้กกต.

มติสนช.ผ่านร่างกม.คอมพ์ฯฉลุย 168 เสียง เพิ่มกก.กลั่นกรองเป็น 9 เผยสอนวิธีการฆ่าตัวตาย ปล้น หรือทำอาวุธถือว่ามีความผิดด้วย ขณะที่กลุ่มต่อต้านเปิดฉากระดมโจมตีเว็บไซต์ของรัฐบาลทันที ด้าน “มีชัย” แย้มจัดงบลับให้กกต.หวังคุมเลือกตั้งโปร่งใสที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ได้มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.ทำหน้าที่ประธานเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์(ฉบับที่...)พ.ศ....ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่…) พ.ศ. … พิจารณาเสร็จแล้ว ในวาระที่ 2 และ 3 ท่ามกลางกระแสคัดค้านร่างดังกล่าวจากกลุ่มเครือข่ายพลเมืองเน็ตที่มีการยื่นรายชื่อ 3 แสนคน

สนช.ติดใจข้อความไม่ชัดเจน


ที่ประชุมเปิดโอกาสให้สมาชิกได้อภิปราย โดยมีรายละเอียดน่าสนใจดังนี้ มาตรา 11 วรรคสอง สมาชิกส่วนใหญ่ขอความชัดเจนของคำว่า “ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ” ว่ามีความหมายว่าอะไร และอะไรที่ทำให้เกิดความรำคาญ นอกจากนี้นายวัลลภ ตั้งคุณานุรักษ์ สมาชิกสนช. สอบถามถึงเจตนาของมาตราดังกล่าวว่าเป็นอย่างไร ความจริงอีเมล์ขยะควรจะต้องขออนุญาตผู้รับก่อนส่งหรือไม่ ไม่ใช่ว่ากฎหมายนี้อนุญาตให้ส่งอีเมล์ขยะมาก่อน แล้วค่อยเปิดช่องให้ผู้รับสามารถยกเลิกได้โดยง่าย

พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ในฐานะประธานวิสามัญฯ ชี้แจงว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เปิดโอกาสให้ผู้รับปฏิเสธอีเมล์ขยะตั้งแต่ต้น เพราะคิดว่าไม่เหมาะสม เนื่องจากจะมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอีคอมเมิร์สซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ส่งให้ผู้รับ เช่นเดียวกับนายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญ กล่าวว่า ในประกาศกระทรวงที่กำลังจะออกจะระบุว่าเรื่องใดที่ทำได้และไม่ก่อให้เกิดความรำคาญ

คาใจคำว่าการบริการสาธารณะ

มาตรา 12 สมาชิกส่วนใหญ่ อาทิ นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ นายดนัย มีชูเวท นายสมชาย แสวงการ นายเจตน์ ศิรธรานนท์ และนายวัลลภ ตั้งคณานุรักษ์ ขอความชัดเจนของคำว่า กระทำต่อข้อมูลหรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับ “การบริการสาธารณะ” ว่ามีความหมายอย่างไร รวมทั้งท้วงติงมาตรา 12 วรรคสี่ การทำให้ผู้อื่นตายแต่ไม่ได้เจตนา เป็นการบัญญัติซ้ำกับประมวลกฎหมายอาญาที่มีอยู่หรือไม่

พล.ต.อ.ชัชวาลย์ ชี้แจงว่า การทำให้ผู้อื่นตายแต่ไม่ได้เจตนา ไม่มีการบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา ขณะเดียวกันกฎหมายอาญาบัญญัติในเรื่อง การทำร้ายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งในระบบคอมพิวเตอร์ไม่ได้ทำร้ายร่างกายโดยตรง แต่เป็นการทำร้ายต่อระบบจนทำให้คนอื่นตาย ดังนั้น การบัญญัติว่า ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายแต่มิได้มีเจตนา จึงไม่ซ้ำซ้อนกับประมวลกฎหมายอาญา

ข้องใจคณะกรรมการกลั่นกรอง

อย่างไรก็ตาม มาตรา 20/1 ให้รัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์ จำนวน 5 คน โดยมาจากภาคเอกชน 2 คน และหากเห็นว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถยื่นคำร้องพร้อมแสดงพยานหลักฐานต่อศาลขอให้มีคำสั่งระงับการแพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งสมาชิกสนช.สอบถามถึงเรื่องที่มาและจำนวนของคณะกรรมการกลั่นกรอง

สมาชิกสนช.อภิปรายว่า การตั้งคณะกรรมการเพียง 5 คน หากมาประชุมเพียงแค่ 3 คนก็สามารถลงมติได้แล้ว ถามว่าจะให้ 3 คน ตัดสินชีวิตใครคนใดคนหนึ่งใช่หรือไม่ ดังนั้นขอความกรุณาคณะกมธ.ช่วยปรับจำนวนเป็น 7 หรือ 9 คน และเชื่อว่าหากมีที่มาชัดเจนจะช่วยลดแรงต้านของสังคมได้ นอกจากนี้สมาชิกยังสอบถามถึงคำจำกัดความ คำนิยมของคำว่า “ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน” หมายถึงอะไร

ห้ามสอนฆ่าตัวตาย ปล้น หรือทำอาวุธ

พล.ต.อ.ชัชวาลย์ ชี้แจงมาตรา 20/1 ว่า ข้อมูลอันขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี เป็นเรื่องที่ไม่ผิดกฎหมาย แต่อาจไปกระทบสิทธิส่วนบุคคล ส่วนความหมายของคำว่า “ขัดต่อความสงบเรียบร้อยฯ” และอะไรที่ขัดต่อความสงบฯนั้น เรียนว่าไม่เคยมีการบัญญัติไว้ในกฎหมาย และที่ประชุมกมธ.ได้หารือกันแล้ว พบว่าศาลจะมีแนวทางพิจารณาอยู่ว่าเรื่องใดที่ขัดต่อความสงบบ้าง ทั้งนี้มาตราดังกล่าวศาลจะพิพากษาให้ระงับหรือลบเท่านั้น ไม่มีความผิดใดๆ แต่ถ้าไม่ทำตามที่ศาลสั่งตรงนั้นถึงจะมีความผิด สำหรับตัวอย่างความผิดตามมาตราดังกล่าว เช่น สอนวิธีการฆ่าตัวตาย ปล้น หรือทำอาวุธ ซึ่งไม่ผิดกฎหมาย แต่เมื่อเผยแพร่แล้วถือว่าขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี เป็นต้น

ยอมเพิ่มกก.กลั่นกรองเป็น9คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อที่ประชุมพิจารณาถึงมาตราดังกล่าว นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. สั่งพักการประชุม 30 นาที เพื่อขอให้กมธ. และผู้ที่ติดใจปรับปรุงร่างกฎหมายดังกล่าวในเรื่องที่มาและจำนวนของคณะกรรมการกลั่นกรอง จนกระทั่งเปิดประชุมอีกครั้ง พล.ต.อ.ชัชวาลย์ชี้แจงว่า หลังจากที่หารือแล้ว เห็นว่าการที่มีคณะกรรมการกลั่นกรอง จำนวน 5 คน แม้คำตัดสินจะไม่มีผลต่อการกระทำผิดหรือถูก แต่นำไปสู่การยื่นคำร้องต่อศาลให้ศาลมีคำสั่งระงับหรือลบข้อมูลดังกล่าวออกไป ซึ่งกมธ.เห็นว่าควรปรับเปลี่ยนจำนวนคณะกรรมการกลั่นกรองจาก 5 เป็น 9 คน และคำตัดสินต้องมีคะแนนเกินครึ่งหนึ่งของคณะกรรมการกลั่นกรอง หรือ 5 คน

นอกจากนี้คุณสมบัติของคณะกรรมการฯ ที่มาจากภาคเอกชน จำนวน 3 คน ให้มาจากด้านสิทธิมนุษยชน ด้านสื่อสารมวลชน และด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

มติสนช.ผ่านฉลุย168เสียง

จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติเป็นรายมาตราในวาระ 2 และวาระ 3 โดยเสียงส่วนใหญ่เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ทั้งฉบับ ด้วยคะแนน 168 ต่อ 0 งดออกเสียง 5 เสียง ประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป

กลุ่มต้านเปิดฉากโจมตีต่อเนื่อง

ขณะที่หลังร่างพรบ.คอมพิเตอร์ผ่านสนช. ปรากฏว่าเพจ “พลเมืองต่อต้าน Single Gateway : Thailand Internet Firewall #opsinglegateway” ในเฟซบุ๊ก ประกาศนัดระดมพลโจมตีเว็บไซต์ http://findept.rta.mi.th หรือ “กรมการเงินทหารบก” โดยการกด F5 ใช้เวลาเพียง 15 นาที เว็บก็ล่ม ใช้งานไม่ได้ โดยทางเพจประกาศให้สมาชิกกด F5 เป็นเวลา 1 ชั่วโมง พร้อมกับมีการนัดโจมตีเว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง

ก่อนหน้านี้ เมื่อคืนวันที่15 ธันวาคม เฟซบุ๊กพลเมืองต่อต้านSingle Gateway ได้ก่อกวนนัดกันไปป่วนเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการจนไม่สามารถเข้าชมได้เพื่อแสดงการต่อต้านร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์โดยระดมสมาชิกเพจทำสงครามออนไลน์ ออกปฏิบัติการ“F5 for All Thai people”คือการเข้าไปถล่มเว็บไซต์ของรัฐสภาจนไม่สามารถใช้งานได้ เพจดังกล่าวระบุเป็นการทดลองเป้าหมายให้เว็บล่ม1ชั่วโมง

ตร.เตือนป่วนเว็บรัฐเจอโทษอ่วม

ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้ที่เข้าไปกระทำความผิดที่หลงเชื่อเข้าไปกระทำความผิด จะมีความผิดตามมาตรา10ของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์โทษจำคุกไม่เกิน5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนกรณีผู้ยุยงส่งเสริมปลุกปั่นเพื่อให้กลุ่มคนกระทำความผิดจะสุ่มเสียงต่อความผิดมาตรา116 (3) ฐานยุยงปลุกปั่นเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินมีโทษจำคุกไม่เกิน7 ปี

‘มีชัย’เผยตั้งงบลับให้’กกต.’

วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวในงานสัมมนาเพื่อรับฟังความเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พรป.) ซึ่งมีพรรคขนาดเล็กเข้ารับฟัง ว่า ร่าง พรป.กกต.นั้น เป็นความหวังว่า กกต.จะดูแลการเลือกตั้งอย่างเต็มที่ เช่น ให้อำนาจกกต.คนเดียว สั่งระงับเลือกตั้งได้ หากพบทุจริต พร้อมกำหนดให้ กกต.มีงบลับคล้ายกับหน่วยข่าวกรอง เพื่อไว้สืบราชการลับ หรือสอบสวนไต่สวน

ทั้งนี้ กกต.อาจตั้งหน่วยข่าวกรองของสำนักงาน หรือขอให้หน่วยข่าวกรองของรัฐ สืบสวนสอบสวนคดีที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งได้ ขณะที่คุณสมบัติของ กกต.นั้น กำหนดให้คณะกรรมการสรรหาต้องคัดเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติ คือ ซื่อสัตย์ กล้าหาญและปราศจากอคติ มาทำหน้าที่ เพื่อให้คนที่มาทำหน้าที่นั้น ไม่เกิดความเกรงใจ หรือใจอ่อนระหว่างการทำงาน และทำงานได้อย่างมีประสิทธิผล

ติดดาบ-เพิ่มงบหวังลต.บริสุทธิ์

นายมีชัย ยังล่าวถึงกรณีที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารกลาง กังวลเรื่องผู้ตรวจการเลือกตั้งจะไม่ช่วยป้องกันการทุจริต ว่า ใครเสนอว่ามีปัญหาก็พร้อมทบทวน เหตุผลที่เปลี่ยนกกต.จังหวัดมาเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้ง เพราะกกต.จังหวัดอยู่ประจำที่และใช้ข้าราชการในพื้นที่ จึงคิดว่ากกต.จำเป็นต้องมีเครื่องมือ แต่ไม่ควรให้เกิดการฝังราก หรือเกิดอิทธิพล เมื่อถามว่า นายสมชัย ยังระบุว่า หากกฎหมายบัญญัติไว้ก็พร้อมปฏิบัติ แต่หากไม่สามารถป้องกันทุจริตได้คนคิดต้องรับผิดชอบ นายมีชัย กล่าวว่า ถ้าคนทำไม่ทำตามกฎกติกา จะโทษคนคิดได้อย่างไร

‘บิ๊กตู่’ปิดปากข่าวปรับ’ครม.’

ส่วนความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) เช้าวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางเข้าปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่เวลา 8.10น. แต่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใดและกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวเรื่องการปรับครม. โดยเฉพาะข่าวพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม

บิ๊กป้อมว๊ากสั่งล่าตัวคนปล่อยข่าว

ด้านพล.อ.ประวิตร ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวดังกล่าวด้วยความไม่พอใจอย่างรุนแรงว่า เป็นการเขียนข่าวมั่วที่ต้องการให้ตนกับนายกฯทะเลาะกันแล้วทำให้รัฐบาลพัง”ผมไม่ฟ้องหรอก แต่จะดูเองทั้งหมดว่า ใครเขียนข่าวโจมตีตน เบื้องต้นทราบแล้วว่า ข่าวออกมาจากไหน เป็นวิธีการของสื่อในการขายข่าว ผมมองว่าอยากให้รัฐบาลพัง ถ้าตนออกสักคนก็หลุดไปเยอะ เพราะดูแลทั้งทหารและตำรวจ”พล.อ.ประวิตร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้พล.อ.ประวิตรออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวเสียงแข็ง แต่ในวันเดียวกันนี้ก็ยังมือดีปล่อยข่าวโหมสะพัดอย่างต่อเนื่องในทำนองว่า ครม.ประยุทธ์ 4 ชัดเจนแล้ว และพล.อ.ประวิตรพ้นจากตำแหน่งในครม.ด้วย

ให้ประกันนปช.มั่วสุมเกิน5คน

ที่ศาลทหารกรุงเทพ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีคณะทำงานพิเศษฝ่ายกฎหมาย คสช.เข้า แจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปราม ดำเนินคดีแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคสช.ฐานมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองเกิน 5คนขึ้นไป กรณีร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวศูนย์ปราบโกงประชามติ ที่อิมพีเรียลลาดพร้าว เมื่อวันที่ 5มิถุนายนที่ผ่านมา โดยทั้งหมดได้เดินทางมาตามนัดอัยการศาลทหาร

ต่อมานายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ นปช.เปิดเผยว่า ศาลทหารกรุงเทพรับฟ้องคดีดังกล่าวไว้แล้ว ก่อนจะควบคุมตัวแกนนำทั้ง 18คน ยกเว้น นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.ที่ถูกควบคุมตัวอยู่แล้วไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยทีมทนายได้ยื่นประกันตัวต่อศาลเพื่อขอให้ปล่อยตัวชั่วคราวด้วยหลักทรัพย์เงินสดคนละ 2หมื่นบาท โดยศาลให้ประกันตัวภายใต้ 3เงื่อนไข คือ ห้ามออกนอกประเทศ ห้ามแสดงความคิดเห็นทางการเมืองและ ห้ามปลุกปั่นทางการเมือง

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ตร.สั่งฟ้อง‘ปิยบุตร’ผิด ม.116-พรบ.คอมพ์ จัดคลับเฮ้าส์ปลุกปั่น อัยการนัดฟังคำสั่ง 8 ก.พ. ตร.สั่งฟ้อง‘ปิยบุตร’ผิด ม.116-พรบ.คอมพ์ จัดคลับเฮ้าส์ปลุกปั่น อัยการนัดฟังคำสั่ง 8 ก.พ.
  •  

Breaking News

ทหารเมียนมาโจมตีค่าย KNDF อย่างหนัก หวังยึดรัฐคาเรนนีกลับคืน

‘มท.1’บิน ฮ.ลงพื้นที่อุบลราชธานี​ เกาะติดสถานการณ์ชายแดน‘ไทย-กัมพูชา’

เปิดรายงาน‘กัมพูชาในเงาทุนเทา’รัฐกลายเป็นเจ้าบ้านอาชญากรรมข้ามชาติ ไทยไม่ควรนิ่งเฉย

The Never Ending Story ศึกชิงแชมป์สโมสรโลก2025

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved