23 มี.ค.61 นายพชร นริพทะพันธุ์ สมาชิกกลุ่มคนรุ่นใหม่พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นบุตรชาย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พลังงาน ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว "พชร นริพทะพันธุ์ - Pachara Naripthaphan" ร่ายยาวถึงประสบการณ์ทางการเมือง 15 ปีที่ไม่เคยเสียดาย โดยระบุว่า

"ท่านสุวิทย์ คุณกิตติ" อดีตรองนายกรัฐมนตรี คือ ครูการเมืองคนแรกผม นับจากปี 2546 ซึ่งก็ครบ 15 ปีพอดีสำหรับงานการเมือง ว่าที่จริง "การรอ หอบเอกสาร รับแขกฝรั่ง" คือ งานเริ่มแรกทางการเมืองของผม สำหรับผมมันไม่ได้ต้อยต่ำอะไร แต่มันคือการฝึกความอดทน เรียนรู้ระบบ และความเป็นไป เห็นชีวิตคนเมืองทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลัง เช้ายันเที่ยงคืน วันแล้ววันเล่า โดยไม่มีเงินเดือน จำได้ดีว่า นั่งหน้าห้องบัญชาการ 1 มี "นายกฯ ทักษิณ" ท่านนั่งชั้น 5 รอตึกไทยคู่ฟ้าซ่อมให้เสร็จทัน APEC

1 ปีผ่านไป ผมย้ายไป กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำงานกับ "ปลัดฝน" นักอนุรักษ์ ตอนนั้นมีเรื่องหนึ่งที่จำได้ไม่ลืม คราวเกิดสึนามิพัดถล่มประเทศไทย ผมอยู่ที่จังหวัดขอนแก่นกับท่านสุวิทย์ ลงพื้นที่พรรคไทยรักไทย เมื่อเกิดเหตุ ดร.ทักษิณ นายกรัฐมนตรีขณะนั้น สั่งการให้เราลงพื้นทันที

จำได้ว่า นั่งเครื่องบินกองทัพบกเข้าพื้นที่ สภาพตอนนั้นไม่ต่างจากหนังสารคดีฮิโรชิม่า ทุกอย่างเรียบเป็นหน้ากลอง ถนนเข้าพื้นที่ ไม่มีอีกแล้ว ต้องคลำทางกันจ้าละหวั่น โชคดีได้รถ VX100 โกวัมป์ ไม่งั้นคงไม่รอดติดโคลนกันตามระเบียบ

เราปฏิบัติภารกิจกันทั้งคืนครับ ผมเองต่อเนื่องจนจบ 1 เดือน ร่วมกับ "นายอำเภอสราวุธ" ยึดออฟฟิศท่านเป็นที่ทำงาน มีพี่เลี้ยงเป็น "อธิบดีจตุพร" "อธิบดีอนุชา" สุดยอดฝีมือ มท. กับ ทส. ส่วนตัวผูกพันกับที่นี่ เพราะแม่ และน้าๆอยู่ที่นี่ พวกท่านรอดชีวิต แต่โรงแรมทั้ง 3 หลังหายไปกับน้ำ เป็นสิ่งที่คนในพื้นที่ไม่มีวันลืม

ปีต่อมา ผมไปอยู่ที่กระทรวงไอซีที โชคดีได้ต้อนรับ #BillGates กับความสง่างามของรัฐบาลนายกฯทักษิณ หลังจากนั้นไม่นาน #ไทยรักไทยnomore กระจัดกระจายกันไป

จนจบยุคคมช. ปี 50 ผมไปอยู่กับพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้รับความรู้จากปรมาจารย์การเมืองหลากหลาย ทั้ง "นายอำเภอไพโรจน์" ผู้ล่วงลับ "อานก" สุดสวย "อาจารย์สุรเกียรติ" "รัฐมนตรีพินิจ" "รัฐมนตรีปรีชา" "รัฐมนตรีสุรนันท์" เวียนมาถึงคุณพ่อ "รัฐมนตรีพิชัยฯ" ที่ไปนั่งคลัง สมัย "ท่านสมัครฯ" นายกฯผู้ถ่อมตนที่สุดในโลก แม้ว่าสุดท้ายต้องปีนกำแพงกระทรวง หนีไปทำงานอยู่กองบัญชาการกองทัพไทย

พอมาถึงสมัย "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" ผมก็ไปทำงานร่วมกับรัฐมนตรีพิชัย พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง ผ่านน้ำท่วม กทม.มาได้ แต่สุดท้ายไม่พ้นมือลุงตู่

จากวันนั้น ถึงวันนี้ 15 ปีแล้ว

สำหรับผม ไม่มีคำว่าหยุด

โลกหมุนเร็ว ปัญหาก้าวกระโดด เราต้องตามให้ทัน

ว่าแต่ว่าสถานการณ์แบบนี้ ไม่รู้วันไหนจะมีโอกาสเสนอตัวเป็นผู้แทนได้สักที?

#ประชาชนจะเลือกรึเปล่า

#รอใจจดใจจ่อจะเป็นตัวแทนประชาชน

#การมืองไม่ใช่มีแค่ทะเลาะกันและผลประโยชน์ส่วนบุคคลนะ

#เป็นคนแบบนี้ไม่รู้จะมีโอกาสรึเปล่า?

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายพชรได้ออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในฐานะคนรุ่นใหม่ของพรรค วิพากษ์วิจารณ์ประเด็นการให้สัมภาษณ์และบทบาทภายในพรรคของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย อย่างดุเดือดอ้างศาสนาความดีเอาประโยชน์เข้าตัวเอง จากนั้นได้มีอดีตสส.พรรคเพื่อไทยดาหน้าออกมาปกป้องความเป็นหญิงแกร่งของคุณหญิงสุดารัตน์ และทุ่มเททำงานให้กับพรรคโดยเพาะการกวาดที่นั่ง ส.ส.ในพื้นที่ กทม.

แต่ประเด็นที่สร้างความฮือฮามากที่สุดก็คือ นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือ "โอ๊ค" บุตรชายคนโตของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่า "คิดจะแจ้งเกิดแบบผิดๆ อาจกลายเป็นแจ้งดับได้" โดยวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของนายพชรที่ก้าวร้าวต่อผู้ใหญ่ รวมทั้งตำหนิ "ผู้ใหญ่" ที่อยู่เบื้องหลังจัดฉากปล่อยให้เด็กโพสต์ แล้วผู้ใหญ่ช่วยกระจายข่าว ปั่นกระแสให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง แก่งแย่งชิงดีกันในพรรค

ข้ออ้างที่บอกว่าทำไปเพื่อดึงกระแสคนรุ่นใหม่ ที่กำลังจัดตั้งพรรคฯอยู่ ผมบอกเลยมวยคนละชั้น ฝ่ายโน้นเขามีจุดยืนเรื่องประชาธิปไตยมานาน ไม่ใช่เพิ่งมาเปิดเพจแค่วันสองวัน เพื่อมาก้าวร้าวผู้ใหญ่เช่นนี้ และถ้าพรรคการเมืองที่อยู่ข้างประชาชนคนรักประชาธิปไตยไม่เป็นพันธมิตรกัน มัวแต่งแก่งแย่งชิงคะแนน และคิดกันได้แค่นี้ ไม่มีทางที่จะชนะพรรคเผด็จการฯได้...พูดเลย

คนการเมือง จะรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ ผมว่าอยู่ที่การกระทำมากกว่าอายุนะครับ

ถ้าคิดว่ายังสามารถจะปรับแนวทางการเมืองให้ตรงกันได้ ผมขอสนับสนุนแนวทางที่พี่ไก่วัฒนาได้นำเสนอไว้ครับ”เฟชบุ๊คของนายพานทองแท้ระบุในช่วงท้าย