ท่าทีรบ.ไทยยังอ่อน!จี้วางโรดแมปให้ชัดก่อนถกเขมร

ท่าทีรบ.ไทยยังอ่อน!จี้วางโรดแมปให้ชัดก่อนถกเขมร

วันศุกร์ ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 11.37 น.

‘กัณวีร์’ จี้รัฐบาลวางโรดแมปให้ชัดก่อนถก‘เขมร’  ชี้ท่าทีตอบโต้ยังเบาไป  แนะใช้ความสัมพันธ์การทูตมากกว่าสัมพันธ์ส่วนตัว  มองกระแสวิเคราะห์คดี"ทักษิณ"หลัง13 มิ.ย.เป็นไปได้  ทำไทยยังเงียบไม่กล้าตอบโต้

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ที่รัฐสภา นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวถึงสถานการณ์ขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาว่า  ตอนนี้ต้องดูการตอบสนองของกัมพูชา เพราะตอนแรกเรารับทราบว่าเขาจะไม่เข้าร่วมการเจรจาในกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา (JBC) วันที่ 14 มิถุนายน แต่เขาก็เปลี่ยนใจเข้าร่วม  แต่ไม่พูดหรือหารือ เรื่องข้อพิพาทตรงช่องบก  เพราะสภาของเขาตัดสินใจยื่นฟ้องศาลโลก จึงต้องรู้ว่าทางการไทยจะเตรียมความพร้อมประชุม JBC จะไปพูดอะไรกับเขา และเตรียมความพร้อมในเรื่อง 30 จุดที่เป็นกรณีข้อพิพาทชายแดนไทยมากน้อยแค่ไหน


 ส่วนกัมพูชาจะยอมอ่อนข้อให้ไทยหรือไม่หลังพูดคุย  นายกัณวีร์เห็นว่า  ถ้าดูการจัดการในฝ่ายบริหารและสภานิติบัญญัติค่อนข้างแรงพอสมควร  ครั้งนี้น่าแปลกใจ สำหรับตนที่ติดตามงานชายแดนมาตลอด ครั้งนี้กัมพูชาให้ความสำคัญมากๆ  เร่งรัดกระบวนการค่อนข้างรวดเร็ว แล้วไปถึงศาลโลกทันที  ทั้งที่ยังไม่ได้คุยกับไทย และใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนที่ทำให้สถานการณ์ขึ้นจากระดับ 0 ไปถึง 80, 90   ดังนั้น มองว่าน่าจะมีประเด็นบางอย่างที่เกิดขึ้นในรัฐบาลกัมพูชาด้วย  รวมไปถึงการเมืองภายใน หรืออาจใช้ประเด็นนี้เรียกร้องความนิยม และอย่าลืมว่านายกรัฐมนตรีฮุน  มาเนตคือ ผบ.ทบ.ในสมัยที่มีข้อพิพาทเขาพระวิหาร และเป็นคนนำยิงต่อสู้กับฝั่งไทย  ตอนนี้เขาขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว  อาจใช้ประเด็นนี้ดึงความสนใจการเมืองภายในกัมพูชา ดังนั้น ไทยต้องวางจุดยืนให้ชัดเจนว่าเราจะยอมหรือไม่ยอมได้แค่ไหน

 “หากดูท่าทีของรัฐบาลไทยการตั้งการ์ดน่าจะหลวมตั้งแต่แรก แล้ว ถ้าเปรียบเทียบกับรัฐบาลฝั่งกัมพูชา ค่อนข้างจะเบากว่าเขาเยอะ แต่ในทางข้อมูล ผมมั่นใจว่ากระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) น่าจะมีข้อมูลเยอะอยู่  แต่การแสดงออกของฝ่ายบริหารค่อนข้างที่จะเบาๆ ทั้งที่น่าจะเข้มแข็งมากกว่านี้ รวมทั้งควรจะชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร และหลังพูดคุยจะทำอย่างไรต่อไป  ต้องเตรียมพร้อมให้เสร็จ เพราะเสร็จจาก JBC แล้วจะไปคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย -กัมพูชา (GBC)วันที่ 16 - 20 มิถุนายน ดังนั้นรัฐบาลต้องมีโรดแมพให้ชัด”นายกัณวีร์กล่าว

ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลชินวัตรกับสมเด็จฮุน เซน มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์นี้หรือไม่ นายกัณวีร์ยอมรับว่าความสัมพันธ์ของระหว่างสองตระกูลนี้มีส่วนกับสถานการณ์แน่นอน  ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะต้องเริ่มจากโครงสร้างระบบความสัมพันธ์ด้านการทูตทั้งสองประเทศ  แต่ขณะนี้ที่เราเห็นกลายเป็นพีระมิดกลับหัว  นำความสัมพันธ์ส่วนตัวของครอบครัวมาเป็นการนำ  แม้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บอกชัดเจนว่าพูดคุยกันเป็นประจำ  แต่ไม่ใช่การแก้ปัญหา ยิ่งทำให้สถานการณ์คลุมเครือมากยิ่งขึ้น และความสัมพันธ์ส่วนตัวของทั้งสองครอบครัวอาจทำให้เราลืมความสัมพันธ์ในบริบทเชิงโครงสร้าง

นายกัณวีร์กล่าวต่อว่า ตอนนี้มีหลายคนวิเคราะห์เรื่องคดีของนายทักษิณที่จะเกิดขึ้นวันที่ 13 มิถุนายน ทำให้ท่าทีของรัฐบาลตอนนี้ดูเหมือนยอมเหลือเกิน ขณะที่ฝั่งกัมพูชาก็รุกเร้าตีกลองรบ แต่ฝั่งเราดูเงียบๆ จึงประเมินกันไปต่างๆนานา  แต่ตนมองเรื่องความพร้อมการพูดคุยของฝั่งไทยมากกว่า ที่เรายังมีความพร้อมไม่เต็มร้อย ฝั่งกัมพูชารุกคืบเข้ามาแล้ว ในโซนโนแมนแลนด์  จุดยืนของไทยจะทำอย่างไรในการที่เขาเข้ามารุกคืบ แล้วจะทำอย่างไรให้ทหารกัมพูชาออกไปจากพื้นที่ดังกล่าว  ตนมองประเด็นนี้มากกว่า

"การประเมินสถานการณ์ทางการเมืองก็อาจมองว่าเป็นไปได้ที่คุณทักษิณกังวลว่า ถ้าเกิดทำอะไรออกไปแล้ว อาจทำให้ฝั่งกัมพูชา โดยเฉพาะฮุนเซน ฮุนมาเน็ต ไม่พอใจ อาจทำให้ไม่สามารถเดินข้ามไปฝั่งกัมพูชาได้ หากมีอะไรเกิดขึ้น  ถามว่าเป็นไปได้หรือไม่  ก็อาจเป็นไปได้ แต่จะร้อยเปอร์เซ็นต์ไหม ผมว่ายังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์"นายกันวีร์กล่าว

 ถามย้ำว่าท่าทีรัฐบาลไม่ได้หมายถึงว่าเรายอมกัมพูชาใช่หรือไม่  นายกันวีร์กล่าวว่า  ดูแล้ว ก็ไม่ได้หมายถึงว่าเขายอม นายกฯก็มาร้องเพลงชาติไทยเรียบร้อยแล้ว  เราไม่ได้ยอมฝั่งกัมพูชาแน่นอน แต่มันจำเป็นที่ต้องเตรียมข้อมูลในการเจรจา

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top