วันพุธ ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
กลาโหมโชว์ศักยภาพกำลังสำรอง3เหล่าทัพ เข้มฝึกแข็งแรงลุยภารกิจ

กลาโหมโชว์ศักยภาพกำลังสำรอง3เหล่าทัพ เข้มฝึกแข็งแรงลุยภารกิจ

วันพุธ ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2561, 12.11 น.
Tag : โชว์ศักยภาพ กำลังสำรอง 3เหล่าทัพ กลาโหม
  •  

16 พ.ค. 61  ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (ศรีสมาน) พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดการแสดงศักยภาพของกำลังพลสำรอง 3 เหล่าทัพ ประจำปี 2561 มียอดรวมทั้งสิ้น 377 นาย แยกเป็น กองทัพบก 207 นาย กองทัพเรือ 110 นาย และกองทัพอากาศ 60 นาย ซึ่งเป็นบุคคลที่ผ่านการฝึกวิชาทหาร ในสถานะนักศึกษาวิชาทหารหรือทหารกองประจำการจากกองทัพมาแล้ว ที่ปัจจุบันกระทรวงกลาโหมได้นำพ.ร.บ.กำลังพลสำรอง พ.ศ. 2558 มาบริหารจัดการกลุ่มบุคคลที่เป็นกำลังพลสำรองให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 

"ในวันนี้มีการปฏิบัติในการแสดงศักยภาพของกำลังพลสำรอง กองทัพบกสาธิตการตรวจสอบสภาพความพร้อมรบ ของกำลังพลสำรองระดับหน่วยกองร้อยอาวุธเบาและแสดงการใช้อาวุธประจำหน่วย กองทัพเรือสาธิตการตรวจค้นเรือประมง รวมถึงการนำเรือด้วยเครื่องฝึกเดินเรือจำลอง และกองทัพอากาศสาธิตการป้องกันฐานบิน นอกจากนี้ทางกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ได้จัดทำบอร์ดประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับกิจการกำลังพลสำรองด้วย" 


พล.อ.เทพพงศ์ กล่าวว่า ตามพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 กำหนดให้กระทรวงกลาโหมมีบทบาทหน้าที่พิทักษ์เอกราช ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ รักษาผลประโยชน์ของชาติ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พัฒนาประเทศเพื่อความมั่นคง และการแก้ไขปัญหาช่วยเหลือประชาชน ซึ่งจากบทบาทหน้าที่ต่างๆกระทรวงกลาโหมจำเป็นต้องจัดให้มีกำลังประจำการและกำลังสำรองที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพสามารถปฏิบัติบทบาทหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดหรือได้รับมอบหมาย 

พล.อ.เทพพงศ์ กล่าวว่า ตามพ.ร.บ.กำลังพลสำรองพ.ศ. 2558 กำลังพลสำรองจะมีหน้าที่ความรับผิดชอบหลักโดยทั่วไปคือการรับการเรียกพล เพื่อตรวจสอบการฝึกวิชาทหาร เพื่อปฏิบัติราชการและเพื่อทดลองความพรั่งพร้อมจนถึงการระดมพล ในกรณีประเทศชาติอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือเข้าสู่ภาวะสงคราม โดยเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่า กำลังพลสำรองเป็นกำลังทางยุทธศาสตร์ที่จะตัดสินผลของสงคราม จึงมีความสำคัญต่อความมั่นคงและอธิปไตยของชาติอย่างแท้จริง ในยามปกติหน้าที่ตามกฎหมายกองกำลังพลสำรอง คือ การรับการเรียกพลเพื่อปฏิบัติราชการในภารกิจที่จะต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญ เป็นการเฉพาะหรือเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาจากภัยพิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ถือเป็นการรักษาความมั่นคงภายในของประเทศชาติอีกด้วย 

"ผมรู้สึกชื่นชมที่เห็นการพัฒนาศักยภาพ และความพร้อมของกำลังพลสำรองทั้ง 3 เหล่าทัพ และเชื่อมั่นว่า จะสามารถตอบสนองภารกิจต่างๆที่ได้รับมอบหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ" ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าว 

ด้านพล.ท.ปรีชา สายเพ็ชร เจ้ากรมสรรพกำลังกลาโหม กล่าวว่า การแสดงศักยภาพของกำลังพลสำรองครั้งนี้ เพื่อทดสอบผลการดำเนินการของกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศในการพัฒนาขีดความสามารถของกำลังพลสำรอง ให้สามารถปฏิบัติภารกิจร่วมกับกำลังประจำการ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาชั้นสูง เห็นถึงความสามารถของกำลังพลสำรอง และมีความเชื่อมั่นในการเตรียมความพร้อมให้กับกำลังพลสำรองของเหล่าทัพ และเพื่อประชาสัมพันธ์ให้สาธารณะ ได้รับทราบถึงบทบาทและความสำคัญของกำลังพลสำรอง ที่มีผลต่อความมั่นคงของประเทศ 

"การฝึกกำลังพลสำรองถือว่าเป็นการสร้างพื้นฐานที่ดี โดยหัวใจหลักสำคัญเราต้องการให้เห็นว่า เมื่อได้ฝึกกำลังพลของตัวเองไปแล้ว มีผลเป็นอย่างไรก็จะให้มาแสดงขีดความสามารถให้กับคนทั่วไปได้เห็นว่ากองทัพบริหารจัดการอย่างไร พร้อมทั้งให้ผู้บังคับบัญชาในกองทัพทุกระดับชั้นได้ตระหนักเห็นความสำคัญของกำลังพลสำรองที่มีอยู่จำนวนมหาศาลที่ผ่านการฝึกมา และต้องการให้สาธารณชนทราบว่าประเทศเรามีกำลังสำรองที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง ที่สำคัญที่สุดทั้งด้านการสงครามและการบรรเทาสาธารณภัย" เจ้ากรมสรรพกำลังกลาโหม กล่าว 

พล.ท.ปรีชา กล่าวต่อว่า  การฝึกกำลังสำรองถือว่ามีความจำเป็น ทำให้คนในชาติมีความเข้มแข็ง เราประมาทไม่ได้ในทางทหาร ไม่ทราบว่า ในอนาคตสถานการณ์บ้านเมืองในประเทศเราจะเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นภัยสงครามบางครั้งเราไม่คิดว่าจะเกิดก็เกิด ก็ต้องมีการเตรียมการไว้ตลอด รวมถึงภัยพิบัติต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวดังนั้น กำลังพลสำรองดังกล่าวต้องได้รับการฝึกตลอดเวลา 

"กำลังสำรองเหมือนเป็นการทำกล้ามเนื้อ  จำเป็นต้องฝึกให้แข็งแรง เพราะสงครามไม่รู้เกิดเมื่อไหร่ เราต้องฝึกไปเรื่อยๆ ไม่มีประเทศไหน ไม่มีกล้ามเนื้อ และยุทโธปกรณ์ เราไม่รู้ภัยคุกคามในอนาคตจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ยุคเราไม่เกิด แต่ต้องเตรียมการ ต้องฝึก" พล.ท.ปรีชา กล่าว 

อย่างไรก็ตามการฝึกกำลังพลสำรองไม่ได้มุ่งเน้นในการดูแลสถานการณ์ทางด้านการเมืองแต่มองเรื่องความมั่นคง เพื่อรองรับภารกิจของกองทัพ ทั้งเรื่องภัยสงครามและบรรเทาสาธารณภัย นอกจากนี้การรักษาความมั่นคงภายใน เช่นกันรักษาที่ตั้งการ ก็ถือมีความจำเป็นที่จะต้องใช้กำลังสำรอง แต่ไม่ถึงขั้นไปปฏิบัติการที่ใช้ความรุนแรง

เมื่อถามว่า ความกังวลใจของคนที่จะเข้ามาเป็นกำลังสำรองนั้น พล.ท.ปรีชา กล่าวว่า อยากให้ตัดประเด็นนี้ทิ้งไปได้เลย เนื่องจากกองทัพมีกระบวนการบริหารจัดการ เราเรียกกำลังพลสำรองมาฝึกเป็นวงรอบของแต่ละปีไม่มาก เช่น 9 วันต่อครั้งและไม่กระทบการทำงาน และจำนวนที่มาฝึกเมื่อเปรียบเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของแต่ละปี ส่วนกระบวนการในการพิจารณาคนเข้ามาก็อยู่ในบัญชี กองกำลังกองทัพก็มีคณะกรรมการพิจารณาด้วยความรอบคอบว่าจะส่งผลกระทบหรือไม่ ทั้งนี้ที่ผ่านมาผู้ประกอบการให้ความร่วมมือและสมัครใจมากขึ้น เนื่องจากทราบดีว่าเมื่อกำลังพลสำรองมาฝึกเมื่อกลับไปจะได้ความมีวินัยของบุคคล

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'กลาโหม\'พร้อมแจงงบปี’69 ให้เป็นไปตามกติกา แม้ถูกฝ่ายค้านพุ่งเป้า 'กลาโหม'พร้อมแจงงบปี’69 ให้เป็นไปตามกติกา แม้ถูกฝ่ายค้านพุ่งเป้า
  • อุดมการณ์สิ้นสูญ! \'สหายใหญ่\'โดนชาวเน็ตเขียนกลอนแขวะแรง อุดมการณ์สิ้นสูญ! 'สหายใหญ่'โดนชาวเน็ตเขียนกลอนแขวะแรง
  • \'ภูมิธรรม\'โต้\'รังสิมันต์\' สร้างเขื่อนหรือฝาย​กั้น\'ลำน้ำกก\'ขึ้นอยู่กับผู้พิจารณา 'ภูมิธรรม'โต้'รังสิมันต์' สร้างเขื่อนหรือฝาย​กั้น'ลำน้ำกก'ขึ้นอยู่กับผู้พิจารณา
  • ‘ภูมิธรรม’ไม่ฟันธง‘รัฐประหาร’ไม่เกิดขึ้นอีก เผยทหารเข้าใจผลกระทบมากขึ้น ‘ภูมิธรรม’ไม่ฟันธง‘รัฐประหาร’ไม่เกิดขึ้นอีก เผยทหารเข้าใจผลกระทบมากขึ้น
  • รอเคาะ!เดินหน้าหรือยกเลิก \'ผบ.ทร.\'ย้ำ\'ภูมิธรรม\'ได้ข้อมูล\'เรือดำน้ำ\'ครบถ้วน รอเคาะ!เดินหน้าหรือยกเลิก 'ผบ.ทร.'ย้ำ'ภูมิธรรม'ได้ข้อมูล'เรือดำน้ำ'ครบถ้วน
  • \'ภูมิธรรม\'ถึงเยอรมนี ร่วมประชุม UN จับตาเจรจา\'เครื่องยนต์เรือดำน้ำ\'หรือไม่ 'ภูมิธรรม'ถึงเยอรมนี ร่วมประชุม UN จับตาเจรจา'เครื่องยนต์เรือดำน้ำ'หรือไม่
  •  

Breaking News

‘ลุงป้อม’เข้าสภาฯลงชื่อร่วมพิจารณางบฯปี69 กำชับสส.พปชร. ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

'ไหม'ซัด'ทักษิณ'ชักจะเกินเลย โยกงบฯมั่วซั่ว ใช้ปรายยาเสพติด ไล่ไปของบกลาง'ลูกอิ๊งค์'แทน

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันพุธ 28 พฤษภาคม​ 2568

'ชวน-นิพนธ์'เชิญนักลงทุนจีนเปิดโรงงานในภาคใต้ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน เพิ่มรายได้ประชาชน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved