"ผบ.ทร."ย้ำ"ภูมิธรรม"ได้ข้อมูลเรือดำน้ำครบถ้วนแล้ว รอเคาะเดินหน้าหรือยกเลิก เผย"ทร.ปากีสถาน"ทดลองใช้เครื่องยนต์ CHD620 ที่จีนผลิต ได้คำตอบดี
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ที่อู่เอเชียนมารีน พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีปล่อยเรืออุทกศาสตร์ลำใหม่ ที่จัดสร้างโดยบริษัทเอกชนในประเทศ ลงน้ำ ที่ จ.สมุทรปราการ ว่า แนวคิดการต่อเรือใหม่ทดแทนเรือเก่าของกองทัพเรือ ถ้าเป็นเรือขนาดกลางจะเน้นใช้อุตสาหกรรมในประเทศเป็นหลัก
ส่วนความคืบหน้าการจัดหาเรือฟริเกตเพิ่มเติม ต้องรอขั้นตอนสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ซึ่งกองทัพเรือได้เสนอผ่านกระทรวงกลาโหมเรียบร้อยแล้ว และทางรัฐบาลน่าจะเห็นชอบจากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรว่าจะมีความเห็นอย่างไร โดยแนวคิดของกองทัพเรือนอกจากได้เรือรบแล้วจะพยายามส่งเสริมให้เกิดการต่อเรือในประเทศ เพราะปัจจุบันสามารถต่อเรือขนาดกลางได้แล้ว จึงต้องเพิ่มโอกาสการต่อเรือระดับเรือฟริเกตให้ได้มากที่สุด
พร้อมย้ำว่า การพิจารณาในแต่ละขั้นตอนอาจจะมีความคิดเห็นแตกต่างกันไป แต่เป้าหมายของกองทัพเรือในการจัดหาเรือรบชั้นเดียวกันไม่ควรจะจัดหาเพียงลำเดียว แต่ควรดำเนินการจัดหาในรูปแบบ 2 - 3 หรือ 4 ลำ เพื่อให้การบำรุงรักษาง่ายขึ้น หากต่อเรือทีละลำ และระบบภายในเรือไม่เหมือนกันจะประสบปัญหาในการดูแลรักษา
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2569 กองทัพเรือได้เสนอจัดซื้อเรือฟริเกตไป 2 ลำ ซึ่งกองทัพเรือเข้าใจดีว่า เรือฟริเกตมีราคาสูง แต่ในขณะนี้มีความจำเป็นและถึงเวลาที่ต้องจัดหา หากจัดหาเพียงลำเดียวจะมีปัญหาในการดูแลรักษา ดังนั้น กองทัพเรือจึงตั้งเป็นโครงการจัดซื้อเรือฟริเกต 2 ลำ และส่งเสริมอุตสาหกรรมในประเทศ รวมทั้งจะมีการพูดคุยถึงเรื่อง offset policy โดยอยู่ระหว่างการเจรจา เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของกองทัพเรือและของประเทศ
ส่วนท่าทีของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ที่เห็นด้วยกับการจัดหาเรือฟริเกตรองรับยุทธศาสตร์ และสนับสนุนแนวคิด Offset Policy ถือว่านายวิโรจน์เข้าใจแนวคิดของกองทัพเรือว่าการมีเรือฟริเกตเพียงลำเดียวคงไม่เหมาะ และเห็นพ้องกันในเรื่องของการส่งเสริมอุตสาหกรรมในประเทศรวมถึงแนวคิด offset policy แต่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับการเจรจา
ผบ.ทร.ยังระบุถึงความคืบหน้าโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ว่าสิ่งที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ต้องการทราบ ก็ได้คำตอบครบถ้วนแล้วใน 2 เรื่อง และขึ้นอยู่กับนายภูมิธรรม ที่จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร
โดย 2 เรื่อง ที่กองทัพเรือได้สรุปให้กับนายภูมิธรรมรับทราบ คือ กรณีที่ทางเยอรมันจะขายเครื่องยนต์เรือดำน้ำให้ไทยได้หรือไม่ และได้รับคำตอบเบื้องต้นแล้วจากที่ทราบกัน ส่วนเรื่องที่ 2 คือ การสอบถามข้อมูลไปทางปากีสถานในฐานะที่ได้ใช้เครื่องยนต์ CHD620 เรือดำน้ำที่ผลิตในจีนแล้ว และคำตอบที่ได้ถือเป็นเรื่องที่ดี รวมถึงทางปากีสถานก็ให้ความร่วมมือกับกองทัพเรืออย่างดี
ทั้งนี้ ยอมรับว่า ในงบประมาณปี 2569 คงยังไม่มีการตั้งเรื่องของบฯเกี่ยวกับเรือดำน้ำ เพราะต้องทำเรื่องสัญญาให้ชัดเจนก่อน หากสัญญายังไม่ชัดก็คงจะตั้งงบประมาณไม่ได้
ส่วนกระแสข่าวลือต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เช่นข่าวลือการยกเลิกโครงการ หรือการโอนเรือดำน้ำที่ต่อไปแล้วให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ก็เป็นแค่กระแสข่าวในโซเชียลมีเดียเท่านั้น ขอให้รับฟังข้อมูลข่าวสารโดยตรงจากกองทัพเรือเพราะข่าวในโซเชียลมีเดียมีความหลากหลายซึ่งข่าวลือต่างๆ ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่อยู่ที่ใครจะหยิบยกขึ้นมาพูด ขอให้ใช้วิจารณญาณในการวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสาร
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี