โต้ข่าว‘หล่อเล็ก’ถูกดูด
‘มาร์ค’แจง
‘อภิรักษ์’หันไปทำธุรกิจ
ซื้อสับปะรดแจก30ตัน
ช่วยเกษตรกรชาวเหนือ
พท.แฉคสช.อุ้มสามมิตร
งัดคดีในอดีตบีบเป็นพวก
ประชาธิปัตย์ เปิดพรรคซื้อสับปะรดจากเกษตรกรภาคเหนือ 30 ตัน แจกชาวบ้าน หลังราคาตกต่ำ ในขณะที่ “อภิสิทธิ์” ปัดกระแส “หล่อเล็ก-อภิรักษ์ โกษะโยธิน” ถูกดูดไปพลังประชารัฐ ชี้แค่หลบฉากไปทำธุรกิจ ลูกทีมแนะกลุ่มสามมิตรทำเพื่อชาติ ด้านเพื่อไทย โวย คสช.อุ้ม “สามมิตร” ตะลุยดูด ปูดงัดคดีบีบ หว่านเงิน ตำแหน่งล่อใจ
เมื่อเช้าวันที่ 30 มิถุนายน ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า ปชป. ในฐานะประธานมูลนิธิม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็นประธานเปิดงาน “โครงการช่วยสับปะรด 2018” โดยเป็นการรับซื้อสับปะรดจากเกษตรกรทางภาคเหนือที่ขณะนี้ประสบปัญหาราคาตกต่ำอย่างมาก โดยทางพรรคได้รับซื้อจำนวน 30 ตัน เพื่อแจกจ่ายให้กับชาวกรุงเทพมหานคร และเปิดให้ร่วมบริจาคเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรด้วย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีทั้งอดีตส.ส. และประชาชนทั่วไป มาร่วมงาน โดยสับปะรดหมดภายในเวลา 1 ชั่วโมง เนื่องจากบรรดาอดีตส.ส. ส.ก. และส.ข. ได้สนับสนุนร่วมบริจาค คนละ 1-2 ตัน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นการดำเนินการของมูลนิธิแพร่น้ำใจ ได้ร่วมกับอดีตส.ส. และส.ว.จังหวัดลำปาง รับซื้อสับปะรดจากเกษตรกรในราคากิโลกรัมละ 4 บาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งเราอยากให้รัฐบาลดำเนินการในการวางนโยบายเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรอย่างเป็นระบบ แม้ที่ผ่านมาจะมีหน่วยงานของรัฐเข้าไปช่วยรับซื้อก็ตาม แต่ยังไม่เพียงพอ และเวลาที่เหลืออยู่สำหรับเกษตรกรอีกหลายพื้นที่ก็มีไม่มาก ดังนั้น หนทางที่เป็นไปได้คือรัฐบาลต้องเร่งหารือกับบรรดาโรงงานแปรรูปสับปะรด เพื่อหาทางที่จะจัดทำโครงการเข้าไปรับซื้อจากเกษตรกร และจัดทำแผนระบายสินค้าต่อไป ซึ่งเชื่อว่าจะใช้งบประมาณไม่มาก จึงขอให้รัฐบาลใส่ใจและเดินหน้าบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกร อย่างไรก็ตาม กิจกรรมในวันนี้เป็นเพียงการกระตุ้นและการรับรู้ในความช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งโครงการนี้จะดำเนินการต่อในวันข้างหน้า
ปัด”หล่อเล็ก”โดนดูด
นายนายอภิสิทธิ์ ยัง กล่าวถึงมีกระแสข่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ เตรียมดูด นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมพรรคฯ ผ่านทางนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พานิชย์ ว่า ตนไม่เคยได้ยินข่าวดังกล่าว เพราะว่าก่อนหน้านี้ ได้พูดคุยกับนายอภิรักษ์ ซึ่งนายอภิรักษ์ ก็ยืนยันว่า ไม่มีอะไร
เมื่อถามว่า แต่ในช่วงนี้นายอภิรักษ์มีทีท่าว่าจะวางมือทางการเมือง นายอภิสิทธิ์ระบุว่า เท่าที่ตนทราบนายอภิรักษ์ ไปทำธุรกิจอยู่ ก็อยู่ที่ว่างานตรงนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งนายอภิรักษ์ ก็บอกกับตนว่า ช่วงนี้อาจจะไม่ค่อยเข้ามาที่พรรค เพราะว่า ช่วงนี้ยุ่งเรื่องธุรกิจอยู่
เมื่อถามย้ำว่า หากนายอภิรักษ์ ไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐจริง จะส่งผลต่อสนามการเลือกตั้ง ในเขตพื้นที่ กทม. หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ในส่วนของกรุงเทพฯ ไม่มีปัญหาอะไรที่เรากังวล ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า อดีต ส.ส. กทม. ทยอยลาออกนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รองหัวหน้าพรรคที่กำกับดูแล กทม. บอกกับตนว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่มีอะไร
แนะ กลุ่มสามมิตรทำเพื่อชาติ
นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู อดีตรองหัวหน้า ปชป. กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ระบุยืนยันว่า การที่กลุ่มสามมิตร ออกมารวมตัวกัน เกิน 5 คน ไม่มีการพูดคุยเรื่องการเมือง และไม่ทำให้เกิดความวุ่นวายกับรัฐบาลว่า ก็เป็นความเห็นของฟากรัฐบาลคสช. เขาจะว่าอย่างไรแล้วแต่เขา สำหรับกรณีปรากฏรายชื่อส่วนใหญ่ที่จะมาร่วมงานกับพลังประชารัฐ มาจากเครือข่ายทักษิณเดิมนั้น เป็นสิ่งที่รัฐบาล คสช.ต้องคิดเอาเองเช่นกัน ว่าจะไว้วางใจได้หรือไม่ กลุ่มสามมิตร ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านเวทีการเมืองมา น่าจะคิดได้ถ้ายังจมปลักกับเรื่องไม่ดีประเทศชาติก็ไม่ดี เคยอยู่กับใครแล้วบ้านเมืองเป็นแบบไหนเขารู้แน่ แม้เขาจะถูกตำหนิเรื่องเดินสายดูดบ้าง
“แต่ส่วนตัวไม่คิดกล่าวโทษเขาเป็นเรื่องปกติของการเมือง แต่เราต้องมาดูว่า เขาจะสำนึกรักประเทศชาติมากแค่ไหน อายุเยอะกันแล้ว ควรคิดได้ว่าทำให้บ้านเมืองสงบสุขได้บ้าง เดี๋ยวนี้บาปบุญคุณโทษเห็นกันเร็ว ถ้ายังทำแบบเดิมบ้านเมืองเสียหาย กฎหมายก็เข้มกรรมก็ตามทันเร็ว มาช่วยกันทำความดีเพื่อประเทศชาติ ทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากดีกว่า เพราะคนเราตายไปเอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง” นางศิริวรรณกล่าว
พท.โวยคสช.อุ้มสามมิตร
ประเด็นดังกล่าว นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่า ว่าการแสดงความเห็นทางการเมืองต่างๆประชาชนฟังอยู่ การพูดแบบนี้ฟังได้หรือไม่ประชาชนคิดได้ และอยากตั้งคำถามว่า การส่งสัญญาณแบบนี้เป็นการรับลูกทำกันเป็นขบวนการหรือไม่ ฝ่ายหนึ่งเดินสายดูดเต็มที่ อีกฝ่ายก็กางปีกปกป้องคุ้มครองกันในทุกกรณี
“กลุ่มสามมิตรกำลังทำในสิ่งที่ห้ามพรรคอื่นทำหรือไม่ มีการโน้มน้าวจูงใจโดยวิธีต่างๆ เพื่อให้คนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค และทำโดยโจ่งแจ้ง เดินสาย ให้ข่าว เปิดหน้าโชว์ ชุมนุมกันเกิน 5 คนแถลงข่าวสนับสนุนใครเป็นนายกฯก็ทำได้ แต่พรรคเพื่อไทยแถลงประเมินผลงาน 4 ปีรัฐบาลคสช.ทำไม่ได้ จนแกนนำพรรคถูกดำเนินคดีถ้วนหน้า แต่สามมิตรไม่โดนและยังคงทำต่อไป เหมือนกติกาเขียนไว้บังคับใช้กับพรรคที่เห็นต่างฝ่ายเดียว เพียงเพราะกลุ่มสามมิตรประกาศหนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อเท่านั้นหรือ” นายอนุสรณ์ กล่าว
บอกใช้คดีความกดดัน
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า ความจริงการย้ายพรรคของนักการเมืองเป็นเรื่องธรรมดา เหมือนนักฟุตบอลย้ายสโมสร ซึ่งเขาเปิดช่วงเวลาให้เจรจาได้ตอนที่ตลาดนักเตะเปิด ถ้าย้ายแล้วกองเชียร์ไม่พอใจเขาก็ตามโห่นักเตะรายนั้นตลอดชีวิต การแอบไปเจรจากันก่อนหรือนอกช่วงเวลาจะถูกลงโทษ ทั้งตัวนักเตะและสโมสรจะถูกแบน
ทั้งนี้ ในขณะที่พรรคอื่นๆถูกห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง แต่กลุ่มหนุนคสช.ทำได้เต็มที่ ทั้งใช้เงิน ใช้งบประมาณมาล่อ ใช้คดีความมากดดัน ใช้ข้าราชการระดับสูงมาเป็นเครื่องมือในการดูด ใครดูดได้กลุ่มใหญ่ ในพื้นที่รับผิดชอบของใครได้ ส.ส.มาก ก็จะเป็นเกณฑ์ในการประเมินขึ้นสู่ตำแน่งที่สูงขึ้นไปอีก ประเทศใดที่มีข้าราชการวางตัวไม่เป็นกลาง ประเทศชาตินั้นจะเกิดความยุติธรรม เกิดการพัฒนาได้อย่างไร เมื่อความยุติธรรมไม่มีความสามัคคีก็ไม่เกิด และเป็นที่น่าตกใจที่สิ่งเหล่านี้ประชาชนเห็น แต่ กกต.และหน่วยงานที่กำกับดูแลบังคับใช้กฎหมายไม่เห็นหรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี