ฮือฮาบิ๊กจิ๋วมีเมียใหม่

พบรักสาวปากน้ำโพ/ใกล้ชิดจนรู้ใจ

โพสต์ภาพคู่หวานเจี๊ยบ

‘บิ๊กป้อม’รู้ข่าวร้อง‘โห้’

ปัดตอบคิวตัวเองเข้าหอ

ฮือฮา “บิ๊กจิ๋ว” วัย 86 ปี ยังฟิตปั๋ง สารภาพได้เมียใหม่สาวปากน้ำโพ เผยหย่า “คุณหญิงพันธุ์เครือ” เรียบร้อยมา 10 ปีแล้ว ย้ายสร้างเรือนหอย่านวมินทร์ ระบุรักเกิดเพราะความใกล้ชิด-รู้ใจกัน ขณะที่ “บิ๊กป้อม” รู้ข่าวถึงกับร้อง “โห้” ปัดตอบถึงคิวตัวเองเข้าขอ ด้าน “บิ๊กตู่” บอกยังไม่ตัดสินใจทางการเมือง พร้อมกวักมือคนแดนไกลให้มาสู้คดีรับประกันไม่มีการรังแก

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเช้าวันที่ 9 กรกฎาคม ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้คณะต่างๆเข้าพบอาทิ พล.อ.ธันวาคม ทิพยจันทร์ ประธานสมาคมพันธมิตรมวยไทยโลก นำศิลปินดารา นักร้อง และอดีตนักมวยไทย 16คน อาทิ นายสมบัติ เมทะนี ศิลปินแห่งชาติ นายรอง เค้ามูลคดี ศิลปินแห่งชาติ นายกรุง ศรีวิไล นักแสดงและอดีตส.ส.พรรคภูมิใจไทย นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ นักแสดงและผู้กำกับ นางดาวใจ ไพจิตร นักร้องชื่อดัง นายศิริมงคล ลูกศิริพัฒน์ ครูมวย เข้าพบ เพื่อนำเสนอผลทำจกรรมCSR เพื่อสังคมโดยนายกฯได้สอบถามสารทุกข์สุกดิบแต่ละคน พร้อมกล่าวว่า ตนรู้จักทุกคนดี ติดตามผลงานอยู่เสมอ

โดย นายกฯกล่าวว่า สิ่งที่ทำวันนี้ก็เพื่อวันหน้า แก้ไขปัญหาที่คนเดิมๆสร้างไว้เป็นร้อยแปดปัญหาไม่มีใครรู้หรอก แต่ตนไม่โทษใคร ตนรู้จักพี่ๆทุกคน และรู้ว่าทุกคนทำอะไรมาก่อน แต่วันนี้โลกมันเปลี่ยนแปลงแล้ว ประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลง

บอกไม่ต้องการรักษาอำนาจ

“ไม่ใช่ผมต้องการรักษาอำนาจ หรือต้องการรักษาผลประโยชน์ ผมไม่เคยได้ประโยชน์ จากการเป็นนายกรัฐมนตรี หรือเป็นอะไรก็ตามแม้แต่บาทเดียว ดังนั้นเกิดอะไรขึ้นให้ไปหามา ผมจะลงโทษให้หมด เพราะนี่คือส่ิงที่ทุกคนที่เป็นรัฐบาลต้องทำแบบนี้ และผมไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการธุรกิจอะไรเลยแม้แต่สักอย่างเดียว ดังนั้นผมไม่จำเป็นต้องไปหาผลประโยชน์ เพราะผมพอเพียงแล้ว ลูกเมียผมไม่ได้ลำบากอะไร”

นายกฯ กล่าวว่า ส่ิงที่ตนคาดหวังจากพวกพี่ๆคือคิดใหม่ คือการคิดโดยคนรุ่นเรา คนรุ่นกลางๆที่จะสามารถรักษาประเทศไทยไว้ให้ได้ด้วยอัตลักษณ์ของประเทศ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความสมานฉันท์ พบปะพูดคุยกันได้ตลอดเวลา

กวักมือคนแดนไกลมาสู้คดี

“กลับไปทบทวนดูว่าเกิดอะไรขึ้น ใครเป็นคนทำให้เกิด และสาเหตุเกิดจากอะไร ความไม่เป็นธรรมหรือกฎหมายไม่ถูกต้องหรือยังไง ต้องไปคิดใคร่ครวญตรงนี้ใหม่ ผมไม่ได้ว่าใครผิดใครถูก แต่อะไรก็ตามที่เป็นกระบวนการยุติธรรม ถ้าเราไม่เชื่อมั่นเชื่อถืออยู่ไม่ได้ประเทศไทย เพราะฉะนั้นใครก็ตาม คิดไม่เป็นธรรมกลับมาต่อสู้คดี ผมให้ต่อสู้คดีได้ทุกคน ไม่ต้องกลัว ใครรังแกไม่ได้ทั้งนั้น เพราะเป็นเรื่องกฎหมาย ผมเคารพกฎหมาย ไม่ใช่ว่าผมไม่ต้องรับการตรวจสอบอะไร ผมโดนตรวจสอบทุกอัน โดนไป 400 คดีในฐานะหัวหน้าคสช.หัวหน้ารัฐบาล หัวหน้าโครงการ แต่ผมไม่กลัวซักคดี เพราะผมบริสุทธิ์ใจในการทำงานของผม การใช้มาตรา 44 ผมใช้เท่าที่จำเป็น คนไม่ดีต้องถูกย้ายออกไปอย่างคนทุจริต”นายกฯกล่าว

เบื่อสื่อวอนเลิกถามข่าวดูดสส.

หลังการประชุม ครม.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีอดีตสส.พรรคเพื่อไทย(พท.) ยังคงออกมาแฉว่า จังหวัดที่มีหน่วยที่ตั้งของทหารยังมีความเคลื่อนไหวเดินหน้าดูด สส.อยู่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้อีกแล้ว ไม่ดูดสักวันไม่ได้หรืออย่างไร ตนไม่พูดดีกว่า พูดไปจะหาว่าแก้ตัว ไม่เกิดอะไรเวลานี้ ไม่อยากให้วุ่นวาย ถึงเวลาก็ไปเลือกตั้ง ที่บอกดูดกันไปดูดกันมาสุดท้ายประชาชนจะเลือกหรือไม่ยังไม่รู้ ขออย่าสนใจกันมากนักเลย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนแถลงข่าวนายกรัฐมนตรี เดินลงจากห้องประชุมครม. ด้วยสีหน้าหน้าที่ผ่อนคลายมากขึ้นโดยได้หยุดนั่งลงบนโซฟาก่อนถึงโพเดียมแถลงข่าว โดยระบุว่า นั่งเพราะเมื่อย สื่อนั่งอยู่ตนก็นั่งบ้าง เมื่อถามว่า เกี่ยวที่นายกฯ ระบุว่า ไม่เดินสายดูดส.ส.ให้เมื่อยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ฉันไม่เคยเมื่อยอยู่แล้ว”ผู้สื่อข่าวเลยถามว่า เหนื่อยหรือไม่หลังจากลงพื้นที่ตั้งแต่เช้าถึงดึกของวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่เหนื่อย ตอนเป็นทหารเหนื่อยกว่านี้

พท.ยันบิ๊กตู่ให้ลูกน้องทัวร์ดูด

ด้าน นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานภาคอีสาน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุไม่ดูด ส.ส.ให้เมื่อยปากว่า คุณไม่ได้ดูดจริง คุณอยู่เฉยๆ ทั้งที่คุณก็รู้ว่าใครทำอะไร เข้าข่ายพี่ไม่ต้อง น้องทำเอง เพราะคุณไม่ได้ทำเองจริงๆ แต่คุณให้คนอื่นทำให้ คุณไปเที่ยวขู่คนอื่นว่าตรงนั้นก็จะผิดกฎหมาย ตรงนี้ก็จะผิดกฎหมาย ทำอะไรก็ผิดกฎหมายไปหมด คนเขาก็กลัว แต่ตนก็บอกกับพรรคพวกเราว่า อย่าไปกลัว ถ้ามาขู่แบบนี้หมายความว่าคนไปไม่ผิด แล้วคนไม่ไปผิดอย่างนั้นหรือ แล้วแบบนี้บ้านเมืองจะอยู่อย่างไร กฎหมายที่บังคับใช้ในบ้านเมืองนี้จะเป็นอย่างไร อีกประการหนึ่งพวกคุณน่าจะรู้ว่า หากชาวบ้านไม่ตอบรับก็ไปไม่ได้ ถ้าไปก็คือไปตายเปล่า คุณเริ่มต้นโดยการทำให้คนกลัว แต่ต่อไปคนจะไม่กลัวแล้ว และวันนี้คนภาคอีสานก็ไม่กลัวแล้ว แน่จริงก็ปลดล็อกสิ จะได้รู้ว่าใครเป็นใคร

สังคมฮือฮา”บิ๊กจิ๋ว”ได้เมียใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี วัย 86 ปี กับสาวใหญ่คนหนึ่ง ทราบชื่อคือ น.ส.อรทัย สรการ ยงใจยุทธ หรืออรทัย สรการ หรือเธียรอุทก บุตรสาวของนายนิพนธ์ สรการ อายุ 53 ปี อดีตนายกกำนันผู้ใหญ่บ้านสุราษฎร์ธานี และอดีตสมาชิกวุฒิสภา

ทั้งนี้ พบว่าฝ่ายหญิงได้เปิดเฟซบุ๊กโพสต์ภาพคู่พร้อมข้อความว่า “ความสุขและบั้นปลายชีวิตที่เหลืออยู่/ดูแลใส่ใจ-เป็นกำลังใจให้ท่านอย่างที่สุด”ในลักษณะเป็นการขอแต่งงาน โดยมีบุตรชายคนโตและลูกสะใภ้ของ พล.อ.ชวลิตร่วมเป็นสักขีพยาน เผยแพร่ภาพในสังคมโซเชียลมีเดียนั้น

พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ได้แต่งงานกับหญิงคนดังกล่าวจริง เมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา และได้อยู่กินร่วมกัน ซึ่งขณะนี้ได้หย่าขาดกับคุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้ปรากฏเป็นข่าว และได้ย้ายออกจากบ้านพักซอยปิ่นประภาคมที่เคยอยู่กับคุณหญิงพันธุ์เครือ และมาซื้อบ้านใหม่ย่านเกษตรนวมินทร์ เพื่ออยู่กินกับหญิงคนดังกล่าว ส่วนภาพที่ปรากฏทางโซเชียลนั้นไม่ได้ออกมาจากคนรักของตน แต่น่าจะออกมาจากผู้ไม่หวังดีมากกว่า

พล.อ.ชวลิตกล่าวต่อว่า คนรักใหม่นั้นเป็นคน จ.นครสวรรค์ มีความใกล้ชิดและดูแลตนมาตลอดในช่วงที่สุขภาพไม่แข็งแรง จึงเกิดความใกล้ชิดและรู้ใจกัน เลยตกลงใจอยู่ร่วมกันแบบสามีภรรยา อย่างไรก็ตาม ตนให้เกียรติฝ่ายหญิงและพาออกงานสังคมด้วยตลอด

ในประเด็นดังกล่าวทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ถึงกับถามถามผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้าตื่นเต้นว่า “แต่งจริงป่าว แต่งจริงเหรอ ยังไม่รู้เลย”

เมื่อถามว่าแล้วเมื่อไรจะถึงคิวลุงป้อมแต่งงาน พล.อ.ประวิตร กล่าวเพียง “โห้” จากนั้นพล.อ.ประวิตรได้สอบถามผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่พล.อ.ชวลิต แต่งงานใหม่ว่าแต่งกับใคร เรื่องเป็นอย่างไร ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับ