ศุภชัยตอกไม่รอบคอบ
ตบหน้าสนช.
ขวางจุ้นผู้ตรวจเลือกตั้ง
ฉะหัดโทษตัวเองบ้าง
ดันออกกม.ไม่รัดกุม
แฉพวก‘อกหัก’ป่วน
‘วิษณุ’ยันโละไม่ได้
ประธาน กกต. ตอกกลับ สนช. ออกกฎหมายไม่รัดกุมเอง แล้วจะมาจุ้นการเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้ง ยันเดินหน้าพิจารณาโผ 616 คนทั่วประเทศต่อไป วอนประชาชนช่วยตรวจสอบหากใครขาดคุณสมบัติปลดได้ แต่โละทั้งบัญชีไม่ได้ เผยเบื้องหลังข้อขัดแย้งเพราะพวกอกหักร้องเรียน “วิษณุ” ระบุถ้าล้มกระดานก็กระทบเลือกตั้ง สว.
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ออกมาตอบโต้กรณีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) บางรายระบุกกต. เร่งรีบในการสรรหาผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด ถึงขั้นเสนอให้แก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พรป.)ว่าด้วยกกต.
“ผมไม่อยากตอบโต้ให้เสียเวลา เพราะทุกท่านที่ออกมาให้ความเห็นเป็นบุคคลที่รู้จัก ชอบพอกัน สนช.เป็นคนกำหนดให้กกต.เป็นผู้ระเบียบดังกล่าว กว่าจะออกเป็นระเบียบ กกต. ได้มีการถกเถียงทุกแง่มุม เพื่อไม่ให้ขัดหรือแย้ง เพื่อให้สอดคล้องกับ พรป.ว่าด้วยกกต.” นายศุภชัย กล่าว และว่า สนช.จะมาโทษว่าระเบียบ กกต. ไม่รอบคอบรัดกุมไม่ได้ ต้องโทษตัวท่านเองว่าออกกฎหมายไม่รัดกุมหรือไม่ สำหรับเหตุผลที่กกต.ชุดตนจำเป็นต้องคัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งนั้น พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. นายกรัฐมนตรี ได้นำขึ้นทูลเกล้าฯเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. และจะครบ 90 วันในวันที่ 13 ก.ย. นี้
ประธานกกต. กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ตรวจการเลือกตั้งที่คัดเลือกไว้จำนวน 616 คน ได้ส่งไปปิดประกาศให้ประชาชนในแต่ละจังหวัดตรวจสอบ หากมีข้อมูลหรือเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้าม หรือพฤติการณ์ของผู้ได้รับการคัดเลือก ประชาชนสามารถแจ้งมายังกกต.ประจำจังหวัดภายใน 15 วันนับแต่วันประกาศรายชื่อ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็วแล้วแจ้งผลการตรวจสอบให้สำนักงานกกต.ทราบภายใน 10 วัน เพื่อเสนอกกต.ประกอบการพิจารณาแต่งตั้ง สำหรับผู้ตรวจการเลือกตั้งที่กกต.แต่งตั้งตามพ.ร.ป.ว่าด้วยกกต.เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา หากกระทำทุจริตหรือประพฤติมิชอบ ก็จะต้องรับโทษเป็นสองเท่า และหากผู้ตรวจการเลือกตั้งขาดความสุจริต เที่ยงธรรม ขาดคุณสมบัติ ขาดประสิทธิภาพในการทำหน้าที่ ไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่ กกต.ชุดใหม่มีมติให้ผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งและคัดออกจากบัญชีรายชื่อได้ทันที
พร้อมกันนี้ ผู้ตรวจการเลือกตั้งไม่มีอำนาจในการทำสำนวนร้องเรียน แต่มีหน้าที่ตรวจสอบการเลือกตั้งเท่านั้น
เมื่อถามว่ามองวัตถุประสงค์การเคลื่อนไหวแก้ไขเรื่องผู้ตรวจการเลือกตั้งอย่างไร นายศุภชัยกล่าวว่า มีคนที่ไม่ได้รับเลือกในระดับจังหวัดไปร้องเรียนสนช.ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ดังนั้นถ้าสนช.มีข้อมูลว่าผู้ได้รับคัดเลือก ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม สามารถส่งมาให้สำนักงานกกต.พิจารณาได้ ส่วนหากมีการโละผู้ที่ได้รับคัดเลือกทั้ง 616 คน คงจะไม่ชี้นำให้ไปฟ้องร้อง เพราะตนถูกสั่งสอนมาว่าไม่ให้ให้เป็นความกันมันไม่ดี เป็นเรื่องที่ทั้ง 616 คน จะไปว่ากันเอง ส่วนเราคัดเลือกมาแล้วถือว่าทำตามหน้าที่ หากไม่ทำเขาจะถูกต่อว่าหาว่ากินเงินเดือนไปวันๆไม่ทำงาน ทั้งนี้คิดว่าการจะโละผู้ได้รับคัดเลือกทำได้เป็นรายบุคคล หากบุคคลดังกล่าวถูกร้องเรียน แต่ไม่สามารถจะโละทั้งหมดได้
ประเด็นดังกล่าว นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าความเห็นต่างที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ความขัดแย้ง ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง กกต.ชุดปัจจุบันเขาทำตามอำนาจที่มี ส่วนจะควรหรือไม่นั้นแล้วแต่มุมมอง ขณะที่ สนช.หรือคนอื่นมองว่าควรจะรอ กกต.ชุดใหม่ ซึ่งถือเป็นการแสดงความเห็น
ส่วนผู้ตรวจการเลือกตั้ง 616 คนที่คัดมาแล้วจะต้องโละใหม่หรือไม่นั้น นายกฯระบุแล้วให้ กกต.ชุดเก่าและชุดใหม่ไปคุยกัน รัฐบาลไม่เกี่ยว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก สนช.ยืนยันจะแก้กฎหมายหรือระเบียบในเรื่องนี้ สามารถทำได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถือเป็นสิทธิ์ของ สนช.ตามรัฐธรรมนูญ เพราะการแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทำได้เพียง 2 ฝ่าย คือ คณะรัฐมนตรี และ สนช. จำนวน 25 คน ส่วนจะกระทบต่อคัดเลือก ส.ว.หรือไม่นั้น น่าจะเป็นปัญหาบ้างอยู่เหมือนกัน เพราะ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. จะมีผลทันทีภายหลังโปรดเกล้าฯ ลงมา และต้องดำเนินการคัดเลือก ส.ว. เลย ดังนั้น การแก้ไขกฎหมายของ สนช.จะทันหรือไม่ เพราะมีกระบวนการอยู่ ซึ่งยืดยาว
ถามว่าหากส่งผลกระทบต่อการคัดเลือก ส.ว. จะแก้ปัญหาอย่างไร นายวิษณุ ตอบว่า อยู่ที่การแก้ไขจะเขียนอย่างไร ซึ่งตนยังไม่เคยเห็น หากเขียนให้ผู้ตรวจการเลือกตั้งที่ได้รับการคัดเลือกไปก่อนหน้านี้แล้วสิ้นสุดลง ต้องเขียนรองรับด้วยว่าแล้วกิจการที่ทำไปก่อนแล้วเป็นอย่างไร อยู่ที่เทคนิค คิดว่าเขาคงเขียนเป็น
วันเดียวกัน มีการประชุมคณะกรรมการสรรหา กกต.เพื่อพิจารณาสรรหาบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็น กกต.จำนวน 2คน โดย นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ในฐานะกรรมการสรรหา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสรรหามีมติให้ใช้วิธีการเปิดรับสมัครผู้มีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญกำหนด โดย
เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 14-28สิงหาคม2561 ในเวลาราชการ โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ ที่ประชุมยังได้พิจารณาทบทวนประกาศและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาผู้สมัครเพื่อให้สอดคล้องกับการสรรหา โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานหรือเคยทำงานในภาคประชาสังคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 20ปี ที่จะต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ คาดว่าวันที่ 4- 6ตุลาคม จะสามารถลงมติให้ความเห็นชอบรายชื่อผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมเสนอต่อที่ประชุม สนช.ได้พิจารณา เท่ากับว่าได้ร่นระยะเวลาการ การพิจารณาในชั้นกรรมการสรรหาจาก 90วัน เหลือ 60วัน กระบวนการทุกอย่างยังเป็นไปตามเดิม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี