"ณัฐวุฒิ"เขียนจม.เปิดผนึกถึงอัยการ อ้างข้อมูลคอลัมนิสต์ข้องใจปูดปม"นายพล"บุกเคลียร์ขอให้ยุติสำนวนคดีสลายเสื้อแดง99ศพเมื่อปี53 เตรีมอบฝ่ายกม.ยื่นคำร้องอสส.ทวงถามความคืบหน้าสัปดาห์หน้า ยันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยืนขวางความอยุติธรรมในทุกกระบวนการอย่างถึงที่สุด
16 ก.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงอัยการสูงสุดและผู้เกี่ยวข้อง ในคดีสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช.และมีผู้เสียชีวิต 99 ศพ ลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีใจความสรุปว่า คอลัมน์มองรอบทิศ เรื่อง "นายพล" เดินแรง โดยผู้ใช้นามปากกา พยัคฆ์น้อย ในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 6 ก.ย.2561 ระบุถึงเหตุการณ์วันที่ 3 ส.ค.2561 เวลาก่อน 11.00 น.ว่า มีนายทหารระดับนายพลเดินทางไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับสำนวนคดีสลายการชุมนุมกลุ่มนปช.เมื่อปี 2553 จนมีผู้เสียชีวิต 99 ศพ บาดเจ็บกว่า 2,000 ราย โดยนายพลขอให้ผู้ใหญ่ฝ่ายอัยการยุติเรื่องดังกล่าว โดยเฉพาะกรณีเกือบ 20 ศพ ที่ศาลไต่สวนสาเหตุการตายเป็นที่ยุติแล้วว่าเสียชีวิตเพราะถูกกระสุนปืนความเร็วสูงจากฝั่งเจ้าหน้าที่ ให้ทำเป็นสำนวนมุมดำ หาตัวผู้กระทำความผิดไม่ได้ จึงไม่ต้องส่งฟ้องศาล
ตนอ่านบทความดังกล่าวโดยละเอียดและสรุปได้โดยไม่ซับซ้อนว่า เนื้อหาเช่นนี้ส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อความสง่างามและความน่าเชื่อถือขององค์กรอัยการ มั่นใจว่าจะต้องมีการชี้แจงข้อเท็จจริงตอบโต้ในทันที แต่จนถึงวันนี้ (16 ก.ย.) ยังไม่ปรากฏคำชี้แจงใดๆ ทำให้นึกถึงหลักคิดทางกฎหมายข้อหนึ่งว่า "การนิ่งเฉยถือเป็นการยอมรับ" ทั้งนี้ ไม่ควรเป็นภาระของประชาชนในการค้นหาความจริงเรื่องนี้ แต่อัยการสูงสุดควรมีคำอธิบาย และหากท่านจะมีคำตอบต่อเรื่องดังกล่าว ตนซึ่งเป็นคนหนึ่งที่ติดตามคดีนี้ท่ามกลางความมืดมนมาอย่างยาวนาน ขอคำอธิบายเพิ่มเติมเรื่องขั้นตอนการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
การเสียชีวิตทั้ง 99 ศพ ถือเป็นการตายโดยผิดธรรมชาติ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 148 พนักงานอัยการต้องดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 วรรค 5 และต้องเป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการชันสูตรพลิกศพ ซึ่งอัยการถือปฏิบัติกันมาโดยไม่มีข้อยกเว้นหรือเลือกปฏิบัติ เช่น กรณีตัวอย่างการไต่สวนการตายจากเหตุวุ่นวายที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งมีการไต่สวนสาเหตุการตายโดยศาลจังหวัดปัตตานีรวม 78 ศพ แต่เหตุการณ์ปี 2553 อัยการดำเนินการไต่สวนการตายไปเพียงกว่า 20 ศพเท่านั้น ยังคงเหลืออีกเกิน 70 ศพ ที่ค้างอยู่ในกระบวนการและไม่มีความคืบหน้าใดๆ นับตั้งแต่การรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 แม้ศาลฎีกาจะวินิจฉัยว่าคดีดังกล่าวเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.ในฐานะพนักงานสอบสวน แต่การไต่สวนการตายยังเป็นหน้าที่ของพนักงานอัยการ ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ท่านมีแนวทางดำเนินการต่อกรณีผู้เสียชีวิตที่ยังรอการไต่สวนการตายอีกกว่า 70 ศพอย่างไร หากเพิกเฉยจะถือว่าพนักงานอัยการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่
ในจำนวนเกือบ 20 ศพ ที่ศาลชี้ว่าเสียชีวิตจากกระสุนปืนฝั่งเจ้าหน้าที่ มีบางกรณี เช่น 6 ศพ ที่วัดปทุมวนาราม และ นายพัน คำกอง ซึ่งสำนวนระบุชัดว่ากระสุนมาจากทิศทางใด และสามารถตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่หน่วยใด คนไหน อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า ในฐานะผู้บริหารสูงสุดขององค์กรอัยการ ท่านมีคำอธิบายสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนจำนวนมากที่ติดตามคดีนี้อยู่หรือไม่ และไม่ทราบว่ามีนายพลคนไหนไปพบใครที่สำนกงานอัยการสูงสุด ไม่ทราบว่ามีข้อเจรจาให้คดีดังกล่าวเป็นสำนวนมุมดำจริงหรือไม่ และไม่ประสงค์จะกล่าวหาหรือให้ร้ายใคร แต่ตนต้องการคำอธิบาย เพราะแน่ใจมาตลอดว่าคดีสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช.99 ศพ ไม่ได้รับความยุติธรรม ทั้งนี้ ตนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยืนขวางความอยุติธรรมในทุกกระบวนการอย่างถึงที่สุด
"ผมพยายามระมัดระวังไม่ให้การติดตามเรื่องนี้ก่อกระแสความขัดแย้งระหว่างคนต่างความคิด และพร้อมร่วมมือกับทุกฝ่ายสร้างสังคมประชาธิปไตย แต่สิ่งนี้จะเป็นไปไม่ได้เลยหากละเว้นความยุติธรรมสำหรับคนบางกลุ่ม หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความกระจ่างจากท่าน และยังหวังต่อไปว่าองค์กรอัยการจะรับรู้ความเจ็บปวดของประชาชน ที่ยิ่งเดินก็ดูเหมือนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ยิ่งเลือนหายไป อนึ่ง ผมจะมอบหมายตัวแทนฝ่ายกฎหมายเดินทางไปยื่นคำร้องเรื่องนี้ต่อสำนักงานอัยการสูงสุดอีกครั้งในสัปดาห์หน้า"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี