ร้อง"อสส."ตั้งกรรมการสอบ"อธิบดีอัยการคดีพิเศษ" เร่งฟ้องผู้ต้องหาคดีกบฏอีก20คน ชี้หากฟ้องไม่ทันบางข้อหาหมดอายุความ เตรียมยื่น ร้องวินัย-อาญาต่อ
26 ก.ย.61 ที่สำนักงานอัยการอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนและเลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิเสรีภาพ (สกสส.) พร้อมคณะทำงาน ได้เข้ายื่นหนังสือถึง นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อให้มีคำสั่งเร่งนำตัวผู้ต้องหากลุ่ม กปปส.ที่เหลืออีกประมาณ 20 คน ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาในคดีร่วมกันเป็นกบฏ และขอให้ อสส.ตั้งกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ โดยมี นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้รับมอบหนังสือ
นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า จากนี้จะนำเรียน อสส.ภายในวันนี้ ส่วนเรื่องคดีที่ยังไม่สามารถฟ้องผู้ต้องหาที่เหลือได้นั้นต้องขอไปตรวจสอบรายละเอียดจากทางสำนักงานคดีพิเศษก่อน เเต่ทราบมาว่าก่อนหน้านี้ทางผู้ต้องหาก็มีการยื่นร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา ส่วนเรื่องข้อกังวลที่ว่าบางข้อหาจะหมดอายุความเเล้วจะฟ้องได้ทันหรือไม่นั้น ทางสำนักงานอัยการสูงสุดเราตระหนักเเละให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นอย่างมากเชื่อว่าเมื่อคำร้องถึง อสส.ก็จะมีข้อพิจารณาสั่งการต่อไปเพื่อประโยชน์เเห่งความเป็นธรรม
ด้าน นายวิญญัติ กล่าวว่า นับแต่มีการสั่งฟ้องผู้ต้องหา 47 คน ฟ้องต่อศาลอาญาแล้ว 27 คน ยังเหลืออีกประมาณ 20 คน ที่ยังไม่มีการนำตัวมาฟ้องต่อศาล ทั้งๆ ที่ผู้ต้องหากลุ่มนี้เป็นชุดเดียวกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ มีพฤติการณ์ที่ถูกกล่าวหาร่วมกระทำความผิดและสนับสนุนกระทำความผิด แต่สำนักงานอัยการคดีพิเศษกลับปล่อยปละละเลยไม่เร่งดำเนินการให้ได้ตัวมาฟ้อง และยังยอมให้มีการขอเลื่อนนัดหลายครั้งโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ไม่มีมาตรการใดที่จะดำเนินการให้ได้ตัวผู้ต้องหาที่เหลือมาฟ้องต่อศาลให้ครบตามสำนวนได้ อาทิ การออกหมายจับ ซึ่งเป็นอำนาจของอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ที่จะเร่งดำเนินการตามกฎหมายได้ แต่ไม่นำพาให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายและจัดให้มีการนำตัวผู้ต้องหาดังกล่าวมาฟ้องคดีแต่อย่างใด กระทั่งความผิดบางฐานที่ฟ้องผู้ต้องหาอื่นไปแล้ว เช่น คดีอาญาฐานบุกรุก ตาม ป.อ.มาตรา 362 ซึ่งมีอายุความ 5 ปี จะขาดอายุความในวันที่ 23 พ.ย.นี้ อันจะทำให้ผู้ต้องหาที่เหลือได้รับประโยชน์หลุดพ้นคดีบุกรุกไป
ดังนั้น เพื่อเป็นการผดุงไว้ซึ่งหลักนิติธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และเพื่อรักษาไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย จึงขอให้ อสส.ตั้งกรรมการสอบอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ที่ละเลยต่อหน้าที่ และให้นำตัวผู้ต้องหาที่เหลือส่งฟ้องศาล หากปล่อยปล่อยไว้จนคดีขาดอายุความ ตนจะดำเนินการตามกฎหมายเพื่อรักษาประโยชน์ของรัฐ
โดยหลังจากนี้ตนจะติดตามว่าสุดท้ายเเล้วจะมีการนำตัวผู้ต้องหามาส่งฟ้องต่อศาลทันหรือไม่ หากอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษยังไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายตนจะร้องต่อ คณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) หรือ ป.ป.ช.ต่อไป ซึ่งขณะนี้ตนยังเห็นว่าอัยการสูงสุดยังสามารถที่จะมีคำสั่งกำชับติดตามคดีได้อยู่
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีจำเลยบางรายอ้างรอเงินจากกองทุนยุติธรรม นายวิญญัติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาจำเลยที่ยังไม่ถูกส่งฟ้องนั้นมีการอ้างเหตุหลายประการไม่ว่าจะเป็นติดสอนหนังสือ ติดประชุม ซึ่งท่านสรมารถที่จะทำได้ เเต่ท่านต้องไม่ลืมหน้าที่ในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ส่วนผู้ต้องหาที่อ้างว่า รอเงินทุนจากกองทุนยุติธรรม เมื่อทางกระทรวงยุติธรรม ไม่อนุมัติเงินทุนให้เนื่องจากท่านไม่เข้าคุณสมบัติไม่ได้มีฐานะยากจนท่านก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการโดยเร็ว
เมื่อถามว่า ข้อหาที่จะหมดอายุเป็นเพียงข้อหาที่มีอัตราโทษต่ำเมื่อเทียบกับที่มีการฟ้องข้อหากบฎที่มีอัตราสูง นายวิญญัติ กล่าวว่า ในทางคดีความไม่สามารถที่จะมองเเบบนั้นได้คดีที่มีการฟ้องกลุ่มผู้ต้องหาไปนั้นมีหลายข้อหามีข้อหากบฎที่มีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต เเต่หากมีการพิจารณาไป เเล้วตัวจำเลยบางคนเกิดไม่เข้าข่ายความผิดฐานกบฎ เเต่มีความผิดฐานบุกรุก ศาลก็ไม่สามารถที่จะลงโทษได้เรื่องจากคดีหมดอายุความ ซึ่งปัญหาทางเทคนิคนี้ก็อาจส่งผลกระทบต่อรูปคดีได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนผู้ต้องหาที่เหลือตามสำนวนสอบสวน และมีคำสั่งฟ้องแต่ยังไม่ได้มีการนำมาฟ้อง มีดังรายชื่อต่อไปนี้ (1) นายนิติธร ล้ำเหลือ ผู้ต้องหาที่ 11 , (2) นายอุทัย ยอดมณี ผู้ต้องหาที่ 12 , (3) เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ ผู้ต้องหาที่ 13 , (4) พันตำรวจโทสุภวัฒน์ สุปิยะพาณิชย์ ผู้ต้องหาที่ 17 , (5) นางสาวจิตรภัสร์ กฤดากร ผู้ต้องหาที่ 19 , (6) นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ผู้ต้องหาที่ 25 , (7) นายกิตติศักดิ์ ปรกติ ผู้ต้องหาที่ 27 , (8) พลเอกปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ผู้ต้องหาที่ 31 , (9) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ต้องหาที่ 32 , (10) นายพิภพ ธงไชย ผู้ต้องหาที่ 33
(11) นายอมร อมรรัตนานนท์ หรือรัชต์ชยุตม์ ศิรโยธินภักดี ผู้ต้องหาที่ 37 , (12) นายกิตติชัย ใสสะอาด ผู้ต้องหาที่ 43 , (13) นายคมสัน ทองศิริ ผู้ต้องหาที่ 44 , (14) นายพิเชษฐ พัฒนโชติ ผู้ต้องหาที่ 46 , (15) นายมั่นแม่น กะการดี ผู้ต้องหาที่ 47 , (16) นายประกอบกิจ อินทร์ทอง ผู้ต้องหาที่ 48 , (17) นายนัสเซอร์ ยีหมะ ผู้ต้องหาที่ 49 , (18) นายพานสุวรรณ ณ แก้ว ผู้ต้องหาที่ 50 , (19) นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด ผู้ต้องหาที่ 51 และ (20) นางทยา ทีปสุวรรณ ผู้ต้องหาที่ 55
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี