อ้างสร้างสมดุลในสภา
จตุพรตั้งเป้า
ส่งนปช.ประชันกปปส.
เปิดตัวเพื่อชาติลุยเลือกตั้ง
บิ๊กตู่จี้กกต.ดูพท.พบแม้ว
“บิ๊กตู่” ชี้ตั้งพรรคเพื่อชาติ ปฏิบัติตามกฎหมายก็ตั้งได้ อดีตสส.บินพบ “แม้ว” ให้ “กกต.” จัดการ ด้าน “บิ๊กป้อม” ชี้ พรรคเพื่อชาติแล้วแต่ปชช.ตัดสินใจ “จตุพร” ปัดจับมือ “สนธิ-หลวงปู่” ตั้งพรรคใหม่ รับคุยกันจริงแค่หาทางออกประเทศสร้างสมดุลในสภาฯให้มีทั้งนปช.-กปปส. ยันไม่ใช่อะไหล่พรรคเพื่อไทย “ปชป.” ไหลออก
อีก3สก.หญิงย้ายซบ’พปชร.’
เมื่อวันที่ 10ตุลาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติแห่งชาติ (นปช.) เตรียมจัดตั้งพรรคเพื่อชาติ ว่า หากเป็นไปตามกติกาและหลักเกณฑ์ตามกฎหมายเกี่ยวกับการตั้งพรรคการเมืองก็สามารถดำเนินการได้ แต่ขอให้ประชาชนติดตาม ไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็ต้องเรียนรู้ อย่างที่ตนเคยเตือนไปว่า ไม่ว่าใครจะพูดอะไร ที่อาจดูเหมือนดีและได้ประโยชน์นั้น ก็ต้องหาความจริงด้วยว่า สามารถทำได้จริงหรือไม่ กฎหมายว่าอย่างไรและงบประมาณนำมาจากไหน เพราะการจะเปลี่ยนอะไรก็ตามไม่ใช่เรื่องง่าย
บิ๊กตู่ชี้พรรคเพื่อชาติแค่ปรับตัว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่มีการแก้เกมโดยอาศัยช่องว่างกฎหมาย โดยแต่ละพรรคใช้วิธีการตั้งพรรคสาขาขึ้นมา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้มองเป็นเกมและโดยพื้นฐาน ตนไม่ใช่นักการเมือง จึงพยายามศึกษาว่า การเมืองไทยเป็นอย่างไร ซึ่งหลายประเทศการเมืองคือเรื่องบริหารราชการแผ่นดินไม่ใช่การต่อสู้กัน หรือทำลายล้าง ให้ร้ายซึ่งกันและกัน จนไม่สามารถทำงานได้ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่บ้านเราต้องแก้ไข รวมถึงนักการเมืองต้องปรับตัว เพื่อให้เกิดการปฏิรูปอย่างแท้จริง
บินพบ’แม้ว’ผิด-ถูกกกต.จัดการ
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีนักการเมืองยังคงให้ความสำคัญกับ นายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯโดยการบินไปพบที่ฮ่องกง ว่า เป็นเรื่องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบว่า อะไรทำได้และทำไม่ได้ ซึ่งไม่มีใครสามารถรับรองได้ว่าผิดหรือถูก แต่เป็นเรื่องความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมและควรกระทำหรือไม่ ซึ่งเป็นสิทธิที่จะกระทำ แต่จะผิดหรือถูกเป็นเรื่องที่ กกต.จะพิจารณา
‘บิ๊กป้อม’ชี้การเมืองอยู่ในกรอบ
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อนไหวทางการเมือง ว่า ทุกอย่างยังอยู่ในกรอบ ไม่มีใครเดินสายหาเสียง ส่วนที่มีการแถลงข่าวเปิดตัวพรรคนั้นเป็นสิ่งที่เราให้สิทธิเขาอยู่แล้ว เมื่อถามว่าหลายพรรคการเมืองลงพื้นที่พบปะประชาชน โดยระบุว่าเป็นการรับฟังความคิดเห็น ถือเป็นการหาเสียงล่วงหน้าหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ กกต. ต้องดูว่า ผิดตรงไหนหรือไม่ อย่างไร
พรรคนปช.ให้ปชช.ตัดสินใจเอง
เมื่อถามว่า ผลสำรวจความคิดเห็นของกองทัพที่มีมาตลอด ขณะนี้พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) รวมถึงการให้การสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นไปในทิศทางใด พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ถามผม ผมว่าบวก บวกทั้งประเทศ รวมทั้งภาคอีสาน เพราะท่านนายกฯ ทำงานแทบตาย จะไม่บวกได้ไง” เมื่อถามถึงกรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.สนับสนุนพรรคเพื่อชาติ ถือเป็นเรื่องดีหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่มีความคิดเห็น ถ้าประชาชนชอบก็เอา เป็นเรื่องของประชาชน เมื่อถามว่าถึงกรณี คสช.จะหารือร่วมกับฝ่ายการเมือง จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การหารือจะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน
‘ตู่’ปัดจับมือสนธิ-หลวงปู่ตั้งพรรค
วันเดียวกัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงถึงจุดยืนทางการเมือง โดยปฏิเสธกระแสข่าวจับมือกับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)และนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ อดีตพระพุทธะอิสระ แกนนำ กปปส.ตั้งพรรคการเมืองใหม่ โดยระบุว่า ตนได้พูดคุยกับ นายสนธิและพระพุทธะอิสระ ขณะอยู่ในเรือนจำจริง แต่เป็นการคุยกันเรื่องหาทางออกให้ประเทศ ไม่ใช่การตั้งพรรคการเมือง
ขออโหสิกรรม-ไม่มีหาประโยชน์
‘รู้สึกเห็นใจและเข้าใจครอบครัวของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ต้องมาชี้แจงข่าวนี้ในขณะที่ นายสนธิ ก็ยังอยู่ระหว่างคุมขังภายในเรือนจำคลองเปรม อย่างไรก็ตาม ผมขออโหสิกรรมให้กับคนที่กุข่าวนี้ขึ้นมา และยืนยันว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่ผมจะเอา นายสนธิ มาหาผลประโยชน์ทางการเมือง’ นายจตุพร กล่าว
’เพื่อชาติ’พรรคเก่า-นปช.แห่ซบอื้อ
นายจตุพร ยังกล่าวถึงกระแสข่าวตั้งพรรคเพื่อชาติ ว่า นปช.ประกาศจุดยืนมาก่อนหน้านี้แล้วว่าจะไม่ตั้งพรรคการเมือง ซึ่งยังคงรักษาอุดมการณ์ข้อนี้อยู่ ส่วนพรรคเพื่อชาติเป็นพรรคเก่า ตั้งมาตั้งแต่ปี2556 แต่ยอมรับว่ามีสมาชิกของ นปช.จำนวนมากที่ไม่มีพื้นที่ในพรรคเพื่อไทย(พท.)ได้ไปเข้าร่วมกับพรรคเพื่อชาติ ส่วนการที่ นปช.แยกกันลงสนามเพื่อเป็นไปตามการออกแบบรัฐธรรมนูญปี60 ของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่ออกแบบให้เป็นลักษณะ’รวมกันแพ้ แยกกันชนะ’ซึ่ง กปปส.ก็ได้ดำเนินการแล้ว โดยส่งคนไปอยู่ใน 5พรรค ซึ่งหลักการสำคัญของ นปช.และพรรคเพื่อชาติ คือ การสร้างความสมดุลทางการเมืองและหาทางออกให้กับชาติ
ไม่ใช่อะไหล่-เป็นทางเลือกให้ปชช.
‘ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งในกลุ่ม นปช.หรือพรรค พท.ผมในฐานะกองเชียร์ พร้อมให้การสนับสนุนทุกฝ่าย ไม่ได้เป็นการแย่งคะแนนกันเอง แต่เป็นทางเลือกให้ประชาชน อยากให้ทุกคนใจกว้าง ห่วงชาติบ้านเมืองและเป็นไปไม่ได้ที่พรรคเพื่อชาติจะฮั้ว เป็นนอมินี หรือเป็นพรรคอะไหล่ให้กับพรรค พท.วันที่ 14 ตุลาคมนี้ เวลา 08.30น.จะประชุมย่อยพรรคเพื่อชาติเพื่อเปลี่ยนโลโก้ จัดทำข้อบังคับพรรคและรับรองผลการประชุมที่ห้างอิมพีเรียล สำโรง ก่อนจะประชุมใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน โดยใช้ยิมเนเซียม1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต จัดประชุม” นายจตุพร กล่าว
สก.-สข.เชียร์’มาร์ค’นั่งหน.พรรค
ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มอดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.)และสมาชิกสภาเขต(สข.)พรรคปชป.ประมาณ 50คน เดินทางมามอบดอกไม้ให้กำลังใจ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้สมัครเข้ารับการหยั่งเสียงชิงหัวหน้าพรรคปชป.หมายเลข1 ให้กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้ง พร้อมตะโกนเชียร์’อภิสิทธิ์สู้ๆ ชนะเป็นหัวหน้าพรรคและนายกรัฐมนตรี’
นายอภิสิทธิ์ กล่าวขอบคุณสมาชิกสก.และสข.ที่มาสนับสนุนว่า ตนได้เป็นสส.ตั้งแต่ปี2535 จึงมีความผูกพันกับพรรคและสมาชิกทุกคนมาก ตนยังมีไฟเต็มที่ในการทุ่มเททำงานต่อไป การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคถือเป็นเรื่องใหม่ของประเทศไทย ซึ่งการหาเสียงจะต้องเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ไม่มีความแตกแยก ไม่มีการพาดพิงถึงใคร เราต้องมาช่วยกันสร้างพรรคใหม่ให้มีความเข้มแข็งร่วมกัน
‘จ้อน’ลั่นคุมปชป.สู้เลือกตั้งทุกครั้ง
ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ในฐานะผู้สมัครรับการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคหมายเลข3 ได้แสดงวิสัยทัศน์ โดยมีบรรดาผู้สนับสนุนเข้าร่วมฟังจำนวนหนึ่ง รวมทั้ง นายอาณัฐชัย รัตตกุล บุตรชาย นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคด้วย
โดย นายอลงกรณ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า“ถ้าเลือกผมเป็นหัวหน้าพรรค การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะต้องเกิดขึ้นแน่นอน จะไม่มีเรื่องเด็กของคนนั้นคนนี้อีกต่อไป การยึดมั่นในระบบรัฐสภาเป็นหัวใจสำคัญ เพราะเป็นตัวแทนอำนาจเป็นของปวงชนชาวไทย ให้รัฐสภาเป็นตัวแก้ไข พรรคการเมืองที่แพ้การเลือกตั้งก็ต้องแพ้และปรับปรุงตัวเองและลงเลือกตั้งใหม่ แพ้อีกก็ต้องปฏิรูปตัวเองจนกว่าประชาชนจะศรัทธาให้เป็นผู้ชนะ ขอให้การบอยคอตเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเป็นครั้งสุดท้ายของพรรค ปชป.ในยุคที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคจะลงเลือกตั้งทุกครั้ง ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ไม่มีอำนาจนอกระบบมาอยู่เบื้องหลัง’
ไหลไม่หยุด3สก.หญิงซบ’พปชร.’
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยังคงประสบปัญหาถูกดูดสมาชิกอีกระลอกหนึ่ง โดยล่าสุดมีอดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ของพรรค 3คน ประกอบด้วย นางกานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ. อดีต สก.เขตพระนคร นางกนกนุช นากสุวรรณภา อดีต สก.เขตดอนเมืองและนางกรณิษ งามสุคนธ์รัตนา สก.เขตคลองเตย พร้อมใจยื่นใบลาออกเมื่อวันที่ 8ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)โดยหวังจะใช้ฐานเสียง สก.เหล่านี้ดึงคะแนนบัญชีรายชื่อให้พรรค พปชร.อีกทั้งยังมีความพยายามทาบทามทั้งอดีตสส.,สก.และสข.ของพรรคอยู่ตลอดเวลา
‘องอาจ’หนักใจตามดูดไม่หยุด
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ปชป.ดูแลพื้นที่กทม.กล่าวว่า ทั้ง 3 คนที่ลาออกไปถือว่าเป็นคนที่มีศักยภาพในพื้นที่ ต้องยอมรับว่า พลังดูดมาแรงและยังพยายามจะดูดเพิ่มเติม ซึ่งคนตัดสินใจออกจากพรรคปชป.ก็มีสิทธิ์กำหนดชีวิตการเมืองของตนเอง เพราะอาจคิดว่าพื้นที่ของตน มีสส.ของพรรคอยู่แล้ว ไม่มีโอกาสได้ลงสมัครสส.จึงตัดสินใจไปสังกัดพรรคอื่น แต่มั่นใจว่าไม่กระทบฐานเสียง ปชป.
‘เศรษฐพงค์’ทิ้งกสทช.เข้ามุ้ง’ภท.’
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ อดีตกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ตนได้ยื่นลาออกจากตำแหน่งกรรมการ กสทช.และมีผลทันทีเมื่อวันที่ 9ตุลาคม 2561 โดยเป็นการตัดสินใจที่กระทันหันเพียงแค่ 3 วันก่อนยื่นใบลาออกดังกล่าว โดยจะนำความรู้ความสามารถและประสบการณ์การทำงานที่มีอยู่เพื่อพัฒนาประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งช่องทางที่จะพัฒนาได้เต็มรูปแบบคือ การเข้าสู่การเมือง จึงสนใจการทำงานด้านการเมือง เข้าสู่สนามการเมืองในพรรคภูมิใจไทย(ภท.)และเป็นการตัดสินใจแมนๆ อยากทำอะไรให้ชัดๆไปเล
กกต.เตือนลดค่าสมาชิก-ยุบพรรค
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงการหาสมาชิกพรรคการเมืองทั้งใหม่และเก่า ว่า ผู้จะเป็นสมาชิกพรรคจะต้องเสียค่าธรรมเนียมคนละ 50บาท แต่ขณะนี้ได้รับร้องเรียนว่า แต่ละพรรคพยายามที่จะหาสมาชิกด้วยการเสนอลดค่าสมัคร แจกข้าวสาร เก็บบัตรประชาชน ซึ่งได้ให้ กกต.จังหวัดติดตามตรวจสอบและอยากจะเตือนไปยังพรรคการเมืองว่า การเสนอให้ สัญญาว่าจะให้ประโยชน์เพื่อให้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค เป็นความผิดที่อาเป็นเหตุให้ถูกยุบพรรคได้ รวมไปถึงกรณีให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคหรือกรรมการบริหารพรรค เข้ามาครอบงำ หรือชี้นำ การดำเนินกิจการของพรรคไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม การรับบริจาคเงินจากผู้ใดเพื่อกระทำการหรือสนับสนุนการกระทำอันเป็นบ่อนทำลายความมั่นคง หรือเสนอสินบนข้าราชการว่าถ้าหากได้รับเลือกตั้งแล้วจะแต่งตั้งให้เป็นตำแหน่งนั้นตำแหน่งนี้ ซึ่งถ้าเราพบการกระทำเหล่านี้มีมูลจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาไต่สวนและเสนอ กกต.หาก กกต.เห็นว่าน่าเชื่อว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายก็จะเสนอศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคได้
คลิป’ทักษิณ’เก็บข้อมูลตรวจสอบ
ส่วนกรณีคลิป นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ยังอยู่ในขั้นตรวจสอบและเก็บข้อมูลเอาไว้ หากมีการร้อง หรือมีข้อมูลเพิ่มเติม ก็จะนำมารวมกันพิจารณา กฎหมายบังคับใช้แล้ว หากพบก็ต้องดำเนินการ ไม่ใช่ทำว่าจ้องจะยุบพรรคใดพรรคหนึ่ง
‘อิทธิพร’รับลูกพร้อมสอบพรรคพท.
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. กล่าวถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่ยืนยันว่า คสช.ไม่มีแผนยุบพรรคเพื่อไทย ระบุเป็นหน้าที่ของ กกต. หากพรรคเพื่อไทยกระทำความผิด ว่า เราคงไม่ได้เป็นเครื่องมือของใครในการจะยุบพรรค เพราะ กกต.เองมีหน้าที่ที่จะต้องสอดส่อง ตรวจสอบการกระทำใดๆที่จะส่งผลให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม ดังนั้นการตรวจสอบจึงเป็นหน้าที่ของ กกต.ถ้ามีใครร้องเรียนหรือเราทราบเรื่องเองก็ดำเนินการได้เลย
“ตามขั้นตอนเราต้องตรวจสอบหาข้อเท็จจริงก่อนดูว่า มีพยานหลักฐานหรือไม่ ถ้ามีพยานหลักฐานก็ดูว่า พยานนั้นจะเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ ที่ผ่านมาที่ปรากฏเป็นข่าวหรือเรื่องที่เราทราบเองก็จะมีการนำเสนอเรื่องเข้ามายังสำนักงานฯ แล้วถ้ามีมูลก็จะเสนอให้ กกต.พิจารณาถ้าเห็นด้วยก็จะตั้งคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนต่อไป”นายอิทธิพร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี