ปล่อยตัว”ราตรี”1กพ.
ลดโทษ”วีระ”เหลือ6ด.
เขมรอ้างยิ่งลักษณ์ขอร้อง
ไชยวัฒน์ยันต้านศาลโลก
นายกอย กวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา แถลงเมื่อเช้าวันที่ 10มกราคมว่า ในระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย เสนอให้สมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา พิจารณาอภัยโทษให้กับนักโทษคนไทย2คน ได้แก่นายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ และนางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ผู้ติดตามนายวีระ ทั้งสองอยู่ในคุกเปรย์ซอว์ ประเทศกัมพูชา ในข้อหาโจรกรรมข้อมูลทางทหาร
นายกอยกวงกล่าวว่า ในวันนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอร้องสมเด็จฮุนเซ็นอีกครั้ง สมเด็จฮุนเซ็นตอบสนองข้อเสนอโดยให้ รมว.ยุติธรรม เพื่อพิจารณาดำเนินการดังต่อไปนี้ 1. ลดโทษให้นายวีระ สมความคิด เพื่อหาทางอภัยโทษในครั้งหน้า,2. อภัยโทษน.ส.ราตรี ในช่วงวันถวายพระเพลิงสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 1-4กุมภาพันธ์ “ขณะนี้ กระทรวงยุติธรรมกำลังพิจารณาเรื่องนี้เพื่อดำเนินการให้สำเร็จลุล่วง”นายกอยกวงกล่าวในแถลงการณ์
ต่อมาบ่ายวันเดียวกันนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศยืนยันว่า ล่าสุด รัฐบาลกัมพูชา จะปล่อยตัว น.ส.ราตรี ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และลดโทษ นายวีระ เหลือ 6 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางการกัมพูชาจับกุมนายวีระและน.ส.ราตรี ฐานบุกรุกเขตพื้นที่ทหารและเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย รวมทั้งจารกรรมข้อมูล ในช่วงเดือน ธันวาคมปี 2553
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554 ศาลกัมพูชาพิพากษาจำคุกนายวีระ 8 ปี ปรับ 1.8 ล้านเรียล และน.ส.ราตรี 6 ปี ปรับ 1.2 ล้านเรียล ไม่รอลงอาญา
ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณรัฐบาลกัมพูชา และว่าได้แจ้งให้ญาติของคนไทยทั้งสองทราบแล้ว กรณีของนายวีระ ก็ต้องหาช่องทางช่วยเหลือต่อไป ซึ่งไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เป็นหน้าที่รัฐต้องดูแล
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดินกล่าวว่า ถือเป็นข่าวดีทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทย-กัมพูชา ในปัจจุบัน ส่งผลให้ความสัมพันธ์เป็นไปอย่างราบรื่น ทำให้การเจรจาในแต่ละเรื่องประสบความสำเร็จ
ขณะที่ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำแนวร่วมคนไทยหัวใจรักชาติ รักษาแผ่นดิน กล่าวว่าแม่ข่าวปล่อยตัวลดโทษเป็นจริง แต่ทางกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติฯก็ยืนยันที่จะจะชุมนุมปฏิเสธคำสั่งศาลโลกในการตีความข้อพิพาทในพื้นที่รอบปราสาทเขาพระวิหาร ในวันที่ 21 ม.ค. เหมือนเดิม
"รัฐบาลจะปล่อยหรือไม่ปล่อยทั้ง 2 คน เราก็ยังเคลื่อนไหวอยู่เพราะเราต่อสู้เรื่องดินแดน และเราก็เชื่อว่าการปล่อยตัวครั้งนี้เป็นวิชามารและเกมการเมืองน้ำเน่า เพราะทั้งคู่ถูกคุมขังมาตั้งนาน รัฐบาลบริหารประเทศมาตั้งแต่เดือนส.ค.54 หากคิดจะช่วยทำไมปล่อยเวลาล่วงเลยมาปีกว่า จึงขอตั้งข้อสังเกตว่าการกระทำในช่วงจังหวะนี้เพื่อหวังไม่ให้เราเคลื่อนไหวใช่หรือไม่"แกนนำกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติฯ ระบุ
วันเดียวกันในการประชุมคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมภิบาล วุฒิสภา มีโปรแกรมเชิญนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ไว้ล่วงหน้าให้มาชี้แจง ท่าทีรัฐบาลไทยในการต่อสู้กรณีปราสาทพระวิหารแต่นายสุรพงษ์ ไม่ได้มาชี้แจง เพราะไปต่างประเทศและก็แต่ไม่มีตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศเข้าชี้แจงประชุม มีเพียง มีเพียง ศ.ดร. สมปอง สุจริตกุล อดีตทนายความผู้ทำคดีพระวิหาร ปี2502-2505 ที่เข้าให้ข้อมูล เสนอแนวทางการต่อสู้คดี โดยการประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาล ด้วยการขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ในการแถลงคดีด้วยวาจาในเดือนเมษายน
ขณะเดียวกันในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งกระทู้ถามสด รมว.การต่างประเทศ ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา ในการต่อสู้คดีศาลโลกพื้นที่พิพาทเขาพระวิหาร ถึงท่าที่ของรัฐบาลที่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้ตั้งแต่เริ่ม แต่รมว.ต่างประเทศไปเยือนประเทศปากีสถานทำให้ประธานที่ประชุมได้ต่อรองพรรคประชาธิปัตย์ให้ยื่นกระทู้ถามดังกล่าวไปในสัปดาห์หน้า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และคณะลงพื้นที่ชายแดนเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อตรวจเยี่ยมและพบปะกำลังพลกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่2และเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) โดยเน้นย้ำทหารตำรวจทุกนายว่า ต้องรักษาหน้าที่ให้ดีที่สุด ระมัดระวังตัวเอง อดทนต่อการยั่วยุ และหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็ต้องปลอดภัย ปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ลุกลามบานปลาย รวมถึงจะต้องรักษาเขตแดนตามที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ ผบ.ทบ.ยังสั่งห้ามทหารเข้าไปชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรที่ต่อต้านศาลโลกในหนนี้ ถ้าใครไปชุมนุมถือว่ามีความผิด
ขณะเดียวกันนนายกิติศักดิ์ พ้นภัย แกนนำกลุ่มกำลังแผ่นดินก็ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง ผบ.ทบ. โดยมีพันเอกสมภพ ภาระเวช ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 เป็นตัวแทนในการรับมอบ
เนื้อหาสำคัญ ยืนยันว่า พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นของไทยโดยแท้จริง ถ้าใครว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อนก็ถือว่าขายชาติ กรณีเขาพระวิหาร ปัญหาที่มีมา นั้นเกิดจากนักการเมืองที่ขายชาติ ร่วมมือกับราชการเลวๆ บางคน กลุ่มทุน ที่สมคบร่วมมือกับกัมพูชา จึงเกิดเป็นปัญหาที่สั่งสม มาจนถึงในปัจจุบันนี้ ในท้ายหนังระบุว่า ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่น ในกองทัพ ไม่เห็นด้วยที่ประเทศไทยจะต้องไปปฏิบัติตามคำสั่งของศาลโลก
เนื่องจากมีหลาย ประเทศในโลกนี้ที่ไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลโลกก็ไม่ได้มีผลอะไรต่อประเทศนั้นๆ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเอกราชไม่ใช่เมืองขึ้นของใครมาแต่โบราณกาลแล้ว จึงไม่จำเป็นที่ต้องฟังคำสั่งของศาลโลก ขอให้กองทัพผลักดัน ทหารและชาวเขมรที่ลุกล้ำดินแดนไทย ให้พ้นเขาพระวิหาร บนพื้นที่ 4.6 ตร.กม.โดยเร็ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี