"อรรถวิชช์"ติงไทยนิยมฯผ่านบัตรคนจน"เอื้อเจ้าสัว ผลาญงบพัฒนาระบบส่อให้ไอ้โม่ง แนะ"หักบัตรทิ้ง"เปลี่ยนมาจ่ายตรง มั่นใจเงินสะพัดกว่า-จีดีพีโต
17 ต.ค.นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโครงการ "ไทยนิยม ยั่งยืน" ในโครงการผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) จำนวน 11.4 ล้านคน ของรัฐบาล ว่า ควรมีการปรับปรุงระบบด้วยการยกเลิกบัตรคนจน แต่เปลี่ยนรูปแบบเป็นโอนเงินเข้าบัญชีประชาชนโดยตรง เนื่องจากที่ผ่านมาการใช้บัตรดังกล่าวประชาชนต้องซื้อสินค้าผูกขาดกับร้านธงฟ้าประชารัฐ ที่มีสินค้าเฉพาะของเจ้าสัวต่างๆ ของประเทศ ขณะที่การใช้บัตรคนจนก็ไม่สามารถขึ้นรถประจำทางได้ จนสุดท้าย รัฐบาลต้องใช้งบประมาณ แอปพลิเคชัน "ถุงเงินประชารัฐ" เพื่อแก้เกี้ยวหวังแก้ปัญหา แต่ก็เสียเงินในการพัฒนาระบบไปจำนวนมหาศาล ซึ่งตนไม่แน่ใจว่ามีการตั้งบริษัทเพื่อหวังผลประโยชน์ตรงนี้ไว้ล่วงหน้าหรือไม่
นายอรรถวิชช์ กล่าวต่อว่า ตนยังเห็นว่าควรเปลี่ยนรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลประชาชน จำนวน 11.4 ล้านคน ที่เป็นข้อมูลตาย และเปลี่ยนมาใช้ข้อมูลเป็น หรือ Negative Income Tax หรือ NIT เพราะเป็นการช่วยเหลือคนจนของรัฐบาลในรูปแบบของการโอนเงินหรือจ่ายเช็คให้แก่บุคคลที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ โดยให้คนมาลงทะเบียนภาษีรับเงินทุกปี เพราะจะทำให้ทราบว่าแต่ละปีจะมีคนจนจำนวนเท่าใด เพื่อเตรียมงบประมาณให้เหมาะสมตรงกับความเป็นจริง เพราะโครงการดีจริงคนจะต้องลดลง มิใช่สอบถามกี่ครั้งก็มีจำนวนเท่าเดิม คือ 11.4 ล้านคน เท่าเดิม
"ผมเห็นด้วยกับใช้งบประมาณลงไปสู่รากหญ้า ไม่ใช่ผูกขาดให้กับเจ้าสัว หรือเอาเงินไปพัฒนาระบบผ่านบัตรคนจน ผ่านแอปพลิเคชัน "ถุงเงินประชารัฐ แทนที่จะโอนเข้าบัญชีให้แก่ชาวบ้านโดยตรง เพื่อให้เพิ่มวงรอบการหมุนเงินในระบบให้เพิ่มขึ้น และจีดีพีจะโตกว่าที่เป็นอยู่" อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี