"สุริยะ" บอกเปิดตัว พชปร.ยิ่งใหญ่กว่าไทยรักไทย มั่นใจกว่าส.ส.150 แน่นอน ชู"สนธิรัตน์"ดาวไฮปาร์คถอดหมวกรมต. เตรียมขึ้นเวทีแราศรัย

18 พ.ย.61 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มสามมิตร ได้กล่าวถึงประสบการณ์ในการทำงานการเมืองในการประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐว่า สมัยอยู่พรรคไทยรักไทย ซึ่งคิดว่ายิ่งใหญ่แล้ว แต่วันนี้เป็นความยิ่งใหญ่มากกว่าสมัยเปิดพรรคไทยรักไทย คิดว่าน่าจะเป็นการเตรียมการที่ดีองค์ประกอบ และผู้ที่มาในวันนี้ มีผู้สมัคร 350 คนและบัญชีรายชื่อรวม 500 คน

"คุณภาพคับแก้วทั้งนั้น วันนี้รู้สึกดีใจ เพราะตลอด 7-8 เดือนที่ผ่านมา ผมถูกผู้สื่อข่าวถามหรือกระแนะกระแหนว่าเมื่อไหร่จะนำพรรคสามมิตรเข้าพรรคพลังประชารัฐ มัวแต่ต่อรองกันอยู่ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งเพิ่งรับรองพรรคพลังประชารัฐหลังจดทะเบียนพรรคการเมือง วันนี้จึงนำกลุ่มสามมิตรเข้ามามอบตัวกับเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ต่อจากนี้ไปจะไม่มีกลุ่มสามมิตรจะมีแต่พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคของประชาชน"นายสุริยะ กล่าว

นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า  อยากขอกล่าวถึงเบื้องหลังกลุ่มสามมิตร โดยเมื่อประมาณวันที่  11 เมษายนที่ผ่านมา ทางผู้ใหญ่ที่ตนเคารพนับถือ สมัยอยู่พรรคไทยรักไทยด้วยกัน ตนคงไม่ขอเอ่ยชื่อ น่าจะทราบกันดี ท่านบอกว่าถ้าไม่มีพรรคทางเลือกใหม่ให้ประชาชน การเลือกตั้งครั้งใหม่ 2 ขั้วเดิมมา เมื่อเลือกตั้งเสร็จ ก็คงจะเกิดวิกฤติทางการเมืองอีก ซึ่งจะเกิดเหตุการณ์ที่ทหารเข้ามา ถ้าเราไม่ต้องการเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นก็ต้องมาเป็นพรรคทางเลือกใหม่ ท่านก็ให้ตนช่วยประสานกลุ่มต่างๆมาร่วมอุดมการณ์นี้ ซึ่งที่ผ่านมาตนได้คุยกับนายสนธิรัตน์ เราต้องการเห็นพลังประชารัฐ ได้คะแนนเสียงมากที่สุดหลัง อย่างไก็ตามจากนั้นผ่านมา 8 เดือน เราได้ผู้สมัครครบ 500 คน ต่อไปนี้จะเป็นหลักชัยที่ 2 ที่เราจะต้องทำให้ได้คือต้องชนะเลือกตั้งให้ได้อย่างน้อย 150 คน ทั้งนี้ตนพูดจากประสบการณ์ทางการเมืองและได้ทำโพล ปรึกษากับอดีตส.ส. มั่นใจว่าได้แน่นอน 150 เสียง

"วันนี้ยิ่งมั่นใจเพราะได้พบดาวรุ่งไทยปรากฏใหม่คือนายสนธิรัตน์ จึงอยากจะขอร้องให้ท่านลาออกจากการเป็นรัฐมนตรี เพื่อขึ้นปราศรัยและ หลักชัยที่ 3 เราต้องก้าวข้ามถ้าได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสิ่งสำคัญที่สุดคือจะทำอย่างไรให้พรรคพลังประชารัฐอยู่ในหัวใจของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งตรงนี้คิดว่าเป็นงานหนัก ซึ่งจะต้องมีการฟื้นฟูเศรษฐกิจกระจายไปทั่วทุกภูมิภาค ถ้าทำตรงนี้สำเร็จพลังประชารัฐจะอยู่ในหัวใจของคนไทย" นายสุริยะ กล่าว