“ธาริต”ส่งทนายความ ยื่นคำร้อง พร้อมเงิน 1 แสน เยียวยาคดีหมิ่นประมาท “สุเทพ” ปมกล่าวหาก่อสร้าง 396 โรงพักร้าง ศาลฎีกานัดอ่านคำพิพากษา 14 ธันวาคม
หวังศาลเมตตาลงโทษสถานเบาเมื่อเวลา 10.00น.วันที่ 13 ธันวาคม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายขวัญไชย ปัจจายา ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)จำเลย ในคดีหมายเลขดำ อ.495/2556 ที่ถูกนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตเลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข( กปปส.)ยื่นฟ้องความผิดฐานหมิ่นประมาทและหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีแถลงข่าวกล่าวหาว่านายสุเทพสั่งการไม่ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ทำสัญญาก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ 396 แห่งเป็นรายภาคตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)เสนอแต่กลับให้รวมสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างเพียงรายเดียวทำให้บริษัทพีซีซีดิเวลล็อปเม้นท์ แอนด์คอนสตรัคชั่นจำกัดเป็นผู้ชนะการประมูล จนเกิดปัญหาที่ไม่สามารถก่อสร้างได้เสร็จทันตามกำหนด ได้เดินทางมาเพื่อยื่นคำร้อง พร้อมนำเงินสด 1 แสนบาท มาวางที่ศาล
โดยคำร้องของนายธาริตระบุว่าเพื่อเป็นการเยียวยาต่อโจทก์โดยโจทก์มีสิทธิรับเงินวางศาลจำนวนดังกล่าวได้โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆและจำเลย ได้แจ้งให้ศาลฎีกาทราบถึงการนำเงินมาวางศาลดังกล่าวนี้ในวันนี้ด้วยและขอศาลอาญาได้จัดส่งคำร้องฉบับนี้ พร้อมหลักฐานการนำเงินมาวางศาลไปยังศาลฎีกาทางโทรสารภายในวันนี้เพราะเป็นกรณีเร่งด่วน เนื่องจากศาลฎีกาจะอ่านคำพิพากษาในวันพรุ่งนี้คือวันที่ 14 ธันวาคม แล้วขอศาลโปรดอนุญาต
ด้านนายขวัญไชย กล่าวภายหลังวางเงินศาลว่า ขั้นตอนต่อไป ทางศาลอาญาก็จะส่งคำร้องไปที่ศาลฎีกา เพื่อที่จะเป็นผลในการเยียวยาผลร้ายทางคดีอาญา เรื่องจากเราได้ถอนคำให้การเดิม และเปลี่ยนคำให้การรับสารภาพตามฟ้อง เราก็แสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยการวางเงินให้โจทก์ 1แสนบาท ต่อไป ก็จะเป็นเรื่องของศาลฎีกา ที่จะพิจารณาว่าที่เราได้บรรเทาผลร้าย จะนำไปพิจารณาลดโทษหรือไม่
ขณะที่ นายธนากร แหวกวารี หัวหน้าทีมทนายความของนายธาริต กล่าวว่าเมื่อวานนี้(12ธ.ค.)นายธาริตได้ยื่นแถลงคำร้องต่อศาลฎีกาอีก 1ฉบับ เกี่ยวกับประเด็นที่จำเลยได้รับสารภาพและมีการวางเงินเยียวยาจึงขอให้ศาลลงโทษสถานเบา
เมื่อถามว่าการที่เราวางเงินเยียวยา จะเป็นเหตุให้ศาลจะต้องทำคำพิพากษาใหม่หรือไม่ นายธนากรกล่าวว่า ใช่ เป็นเหตุตามกฎหมาย จะคล้ายกับกรณีของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักจัดรายการชื่อดัง และอดีตนักการเมือง ที่โดนคดีรื้อบาร์เบียร์ในอดีตที่ถอนคำให้การในวันนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา จนศาลเลื่อนนัดออกไป และนายชูวิทย์ได้มีการเยียวยาความเสียหาย บรรเทาผลร้าย จนเป็นเหตุแห่งการลดโทษ เเม้จะถูกสั่งจำคุก คดีจะเข้าเกณฑ์ลักษณะเดียวกัน ตรงนี้เรา ก็ต้องดูว่าศาลจะพิจารณาอย่างไร
เมื่อถามว่าการวางเงินบรรเทาผลร้ายจะมีผลให้คำพิพากษาศาลฎีกา ต้องมีการแก้ไขภายหลังได้รับคำร้องและจะอ่านทันวันที่ 14 ธันวาคมหรือไม่ นายธนากร กล่าวว่าในทางปฏิบัติศาล มีอำนาจที่จะพิจารณามีคำสั่งได้หลายทาง พอจำเลยกลับคำรับสารภาพศาล อาจจะรับหรือไม่รับคำให้การใหม่นี้ ก็ได้ ถ้าไม่รับคำให้การ ศาลก็อาจใช้เหตุผลว่าเป็นการล่วงเลยเวลา แต่ตรงนี้ก็อาจมองว่ามีเหตุบรรเทาโทษ หรือมองว่าที่เราเยียวยาจะเป็นเหตุบรรเทาโทษได้ซึ่งในวันดังกล่าว ศาลอาจจะทำคำพิพากษาใหม่เลย หรืออาจจะมีคำสั่งให้เลื่อนไปฟังคำพิพากษาอีก 1-2 เดือนตามคำร้อง ก็เป็นไปได้หมด
เมื่อถามว่าคดีนี้มีการอ่านคำพิพากษาโดยศาลฎีกาเองและใช้ห้องพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แม้มีการชี้แจงว่าเป็นไปตามระเบียบศาลฎีกาว่าด้วยการอ่านคำพิพากษา หรือคำสั่งศาลฎีกา พ.ศ.2550 ตรงนี้มองว่า ผิดจากคดีปกติหรือไม่ นายธนากร กล่าวว่า เป็นทนายมา 20 กว่าปี ไม่เคยเจอ เพิ่งเคยเจอครั้งแรก ที่ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาเอง
สำหรับคดีนี้ นายสุเทพโจทก์ยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 7 ก.พ.2556 ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 21 ม.ค.-4 ก.พ.2556 นายธาริตขณะดำรงตำเเหน่งอธิบดีดีเอสไอ แถลงข่าวผ่านสื่อมวลชนกล่าวหาว่านายสุเทพ โจทก์ ขณะดำรงตำแหน่งรองนายกฯ เป็นผู้สั่งการไม่ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทำสัญญาก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ 396 แห่งเป็นรายภาค ตามที่ สตช.เสนอ แต่กลับให้รวมสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างเพียงรายเดียว ทำให้บริษัท พีซีซี ดิเวลล็อปเม้นท์ แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล จนเกิดปัญหาที่ไม่สามารถก่อสร้างได้เสร็จทันตามกำหนด ซึ่งล้วนเป็นเท็จ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง
คดีนี้ ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาวันที่ 26 มีนาคม 2558 ให้ยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าการแถลงข่าวของจำเลยเป็นการตรวจสอบโครงการก่อสร้างโรงพักและให้ความเห็นในทางกฎหมายในฐานะอธิบดีดีเอสไอ ไม่ได้มีการยืนยันข้อเท็จจริงว่า โจทก์ได้กระทำการทุจริต
ต่อมา วันที่ 3 พฤษภาคม 2559 ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนยกฟ้องโดยเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ยังไม่มีน้ำหนักให้รับฟังเพียงพอได้ว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง ต่อมานายสุเทพ โจทก์ ได้ขออนุญาตฎีกาต่อ โดยศาลฎีกานัดฟังคำสั่งในวันที่ 14 ธันาคมนี้ เวลา 09.00น.ห้องพิจารณาคดีแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่อาคารศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี