แจกอีกครม.เอาใจคนจน 14.5 ล้านคน ใครถือบัตรสวัสดิการพร้อมฝึกอาชีพสามารถถอนเงินสดไว้ใช้จ่ายสูงสุด 400 บาทต่อเดือนถึงก่อนเลือกตั้ง สิ้นเดือนเม.ย.62
15 ม.ค.62 ที่มรภ.ลำปาง นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ(ครม.สัญจร)ว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบปรับเปลี่ยนการเติมเงินรายเดือนวงเงินค่าซื้อสินค้าที่จำเป็น 300 บาทต่อเดือนสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี และ 200 บาทสำหรับมีรายได้ 30,000-100,000 บาทต่อปี รวม 14.5 ล้านคน โดยสามารถเบิกเป็นเงินสดได้ที่ตู้เอทีเอ็มและสาขาธนาคารกรุงไทยเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ก.พ.-เม.ย.62 จากเดิมวงเงินนี้ใช้ได้เฉพาะที่ร้านค้าประชารัฐเท่านั้น ซึ่งจะถอนเงินสดได้หากใครได้รับ 300 บาทต่อเดือนจะถอนได้ 200 บาท และหากใครได้รับ 200 บาทต่อเดือนจะถอนได้ 100 บาท ดังนั้นให้เหลือ 100 บาทต่อเดือนไว้ใช้กับร้านค้าประชารัฐ
นอกจากนี้ยังเห็นชอบขยายมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐต่อไปอีก 6 เดือน ตั้งแต่เดือนม.ค.-มิ.ย.62 จากเดิมสิ้นสุดเดือน ธ.ค.61 ใช้งบกลางปีงบประมาณ 62 จำนวน 4,370 ล้านบาทในการเติมเงินเข้าบัตร 200 บาทหากมีรายได้ไม่ถึง 30,000 บาทต่อปี และ 100 บาทหากมีรายได้ 30,000-100,000 บาทต่อปี ซึ่งจำนวนนี้สามารถกดเป็นเงินสดได้อยู่แล้ว โดยปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมมาตรการฝึกอาชีพ 4.14 ล้านราย ในจำนวนนี้ได้รับการพัฒนาแล้ว 3.26 ล้านราย โดยจากการติดตามพบว่ามีผู้มีรายได้น้อยมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 30,000 บาทต่อปี จำนวนถึง 1 ล้านราย จึงเห็นความจำเป็นขยายมาตรการเพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยพ้นเส้นความยากจน หรือมีรายได้มากกว่า 30,000 บาทต่อปี
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การให้ผู้ถือบัตรคนจนได้กดเงินสดได้จากวงเงินในบัตรเดิมที่ใช้กับร้านค้าประชารัฐ เพราะเป็นข้อเรียกร้องของผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการนำไปซื้อสินค้าอื่นๆที่จำเป็น และจากผลสำรวจของกระทรวงการคลังยังพบว่าผู้มีรายได้น้อยใช้จ่ายช่วงต้นปีสูง จึงเพิ่มทางเลือกและช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพ ส่งเสริมให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
“เท่ากับว่าหากใครที่รายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาทต่อปีและเข้าร่วมมาตรการฝึกอบรม จะได้รับเงินในบัตรรวม 500 บาท แต่สามารถกดออกมาได้ถึง 400 บาทต่อเดือนจนถึงเดือน เม.ย.62 ส่วนที่เหลือในบัตร 100 บาทนั้นเพื่อให้ผู้ถือบัตรไปซื้อสินค้าที่ร้านธงฟ้า เพื่อสนับสนุนสินค้าในท้องถิ่นเกือบ 50% ที่มีอยู่ในร้านค้า เช่น ไข่ไก่ กะปิ ข้าวสาร เป็นต้น และเวลา 3 เดือนที่ให้กดเงินได้ จะมีการติดตามว่าผลเป็นอย่างไร ไปซื้อของที่จำเป็นจริงหรือไม่ หากประเมินว่าดีจริงก็อาจนำมาเสนอครม.เพื่อพิจารณาต่อไปได้”นายพุทธิพงษ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี