‘เขต 4 บุรีรัมย์’กับการรักษาที่มั่นของ‘ภูมิใจไทย’

‘เขต 4 บุรีรัมย์’กับการรักษาที่มั่นของ‘ภูมิใจไทย’

วันศุกร์ ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562, 06.00 น.

เหลืออีกเพียง 37 วัน ก็จะถึง วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2562 อันเป็นวันที่ปวงชนชาวไทยจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) หลังจากที่ประเทศไทยเว้นวรรคจากประชาธิปไตยไปเกือบ 5 ปี และ ณ เวลานี้เมื่อพรรคการเมืองต่างๆ ส่งผู้สมัคร สส. แบบแบ่งเขต สส.แบบบัญชีรายชื่อ รวมถึงรายชื่อบุคคลที่แต่ละพรรคประสงค์ให้เป็นนายกรัฐมนตรีหากชนะการเลือกตั้ง ให้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองแล้ว บรรยากาศการหาเสียงก็เชื่อว่าจะคึกคักแบบจัดเต็มแน่นอน

“เจาะสนามเลือกตั้ง” ฉบับวันนี้ขอพาท่านผู้อ่านกลับมาที่ “บุรีรัมย์” จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(ภาคอีสาน) ฝั่งอีสานใต้กันอีกสักครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ (ฉบับวันที่ 2 และ 4 ก.พ. 2562) ได้แนะนำให้รู้จักกับผู้สมัครที่คาดว่าจะเป็น “ตัวเต็ง” ของเขต 1 ประกอบด้วย อ.เมือง (ยกเว้นตำบลบัวทอง ตำบลถลุงเหล็ก และตำบลกลันทา) เขต 2 ประกอบด้วย อ.สตึก อ.บ้านด่าน อ.แคนดง และอ.เมือง (เฉพาะตำบลบัวทอง ตำบลถลุงเหล็ก และตำบลกลันทา)


และเขต 3 ประกอบด้วย อ.คูเมือง อ.พุทไธสง อ.นาโพธิ์ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ และอ.ลำปลายมาศ (เฉพาะตำบลโคกสะอาด กับตำบลเมืองแฝก) กันไปแล้ว ในนี้ก็จะไปต่อกันที่ “เขต 4” ประกอบด้วยอ.หนองหงส์ อ. ชำนิ และอ.ลำปลายมาศ (ยกเว้นตำบลโคกสะอาด และตำบลเมืองแฝก) เขตนี้ขอให้จับตาผู้สมัครดีกรีอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมนายโสภณ ซารัมย์ ที่ตัดสินใจลงสู้ศึกด้วยตนเองในนาม พรรคภูมิใจไทย แทนการส่งภรรยา นางอารีญาภรณ์ ซารัมย์ แชมป์เก่าประจำเขต 4 บุรีรัมย์ ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 ลงสมัคร

หากย้อนไปในปี 2554 เวลานั้น จ.บุรีรัมย์ มีทั้งหมด 9 เขตเลือกตั้ง หรือมีโควตา สส. ในจังหวัดรวม 9 คนนายโสภณนั้นเป็นแชมป์ของเขต 3 ส่วนนางอารีญาภรณ์เป็นแชมป์เขต 4 แต่ในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น 24 มี.ค. 2562 บุรีรัมย์นั้นเหลือเพียง 8 เขตเลือกตั้ง หรือมีที่นั่ง สส. ในสภาได้ 8 คน สำหรับเขต 3 นั้นพรรคภูมิใจไทยส่งนายสมบูรณ์ ซารัมย์ พี่ชายนายโสภณลงชิงชัย ส่วนนายโสภณนั้นย้ายมาลงเขต 4

“เมื่อที่นั่ง สส. ลดลง..การแข่งขันก็ต้องเข้มข้นขึ้นเป็นธรรมดา” หันไปดูคู่แข่งสำคัญของพรรคภูมิใจไทยอย่าง พรรคเพื่อไทย ในเขต 4 บุรีรัมย์ นั้นได้ส่งอดีตผู้สมัคร สส. ที่ย้ายค่ายมาจากพรรคภูมิใจไทยอย่าง นายประกิจ พลเดชโดยในปี 2554 นั้นนายประกิจ ลงสมัครในเขต 7 บุรีรัมย์ แต่แพ้ให้กับ นายหนูแดง วรรณกางซ้าย จากพรรคเพื่อไทย กระทั่งวันนี้นายประกิจได้เข้าร่วมสู้ศึกในนามพรรคเพื่อไทยแบบเต็มตัว

“แม้จะไม่ใช่เขตที่มีฐานเสียงเป็นของตนเอง..แต่ด้วยความที่พรรคเพื่อไทยอย่างไรชื่อก็ขายได้ในภาคอีสาน”ยิ่งได้แรงสนับสนุนจาก “หญิงหน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย พร้อมแกนนำพรรคคนอื่นๆ ช่วยเรื่องการหาเสียงอย่างเต็มที่จนประชาชนเริ่มรู้จักนายประกิจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีโอกาสไม่น้อยที่จะคว้าเก้าอี้ สส. เขต 4 บุรีรัมย์ไปครอง

และต้องไม่ลืมว่า “ถึงบุรีรัมย์จะเป็นถิ่นของตระกูลชิดชอบและพรรคภูมิใจไทย แต่ในปี 2554 กลับถูกพรรคเพื่อไทยบุกมาแย่งเก้าอี้ สส. ไปได้ถึง 2 ที่นั่ง” ทำเอาแกนนำพรรคภูมิใจไทยในขณะนั้นอย่าง นายเนวิน ชิดชอบ ที่ปัจจุบันหันไปเอาดีด้านธุรกิจกีฬาทั้งฟุตบอลและมอเตอร์สปอร์ต ถึงกับ “งง” กับสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้านั้นนายเนวินมั่นใจมากว่าสำหรับที่ จ.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทยไม่มีทางแพ้ใคร และตั้งเป้าว่าต้องกวาดเรียบทั้ง 9 เขต

เรื่องเล่าในหมู่คอการเมืองในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ณ เวลานั้น ตั้งข้อสังเกตถึงความพ่ายแพ้ใน 2 เขตของพรรคภูมิใจไทยว่าอาจเป็นเพราะฝ่ายเจ้าถิ่นชะล่าใจเกินไป ตรงกันข้ามกับฝั่งทีมเยือนอย่างพรรคเพื่อไทยที่ทั้งผู้สมัครประจำเขต ตลอดจนแกนนำพรรคลงพื้นที่หาเสียงอย่างขยันขันแข็ง ประกอบกับในปี 2554 ประชาชนชาวอีสานหลายคนยัง “อารมณ์ค้าง” กับเหตุชุมนุมทางการเมืองของคนเสื้อแดงเมื่อ 1 ปีก่อนหน้าหรือในปี 2553 ที่จบลงด้วยการสลายการชุมนุม ทำให้มีผู้คนไม่น้อยรู้สึก “เห็นใจ” คนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย จึงเทคะแนนให้เมื่อวันเลือกตั้งมาถึง

ซึ่งอาจเป็นเพราะความพ่ายแพ้ในครั้งนั้นก็ได้ ทำให้พรรคภูมิใจไทยไม่กล้าประมาทอีกแล้ว ประกอบกับ “ระบบการเลือกตั้งแบบใหม่ไม่มีการเลือกพรรคโดยตรงผ่าน สส.บัญชีรายชื่อ แต่เลือกได้เพียง สส. แบบแบ่งเขตเท่านั้น ทุกพรรคจึงต้องส่งผู้สมัครที่คัดเลือกมาอย่างดีที่สุดเพื่อเพิ่มโอกาสให้พรรคได้มีที่นั่งสภา” ดังนั้นการปรากฏชื่อของนายโสภณ ที่ไม่เพียงเป็น สส. แต่ยังเป็นถึงระดับแกนนำพรรคภูมิใจไทยลงชิงชัยในเขต 4 บุรีรัมย์ ด้วยตนเองแทนที่จะให้นางอารีญาภรณ์ ผู้เป็นภรรยาลงสมัคร นั่นคงเพราะเพื่อการันตีว่าต้องชนะสถานเดียว

สำหรับนายโสภณนั้นมีฐานเสียงเป็นกลุ่มผู้นำท้องถิ่น กลุ่มสตรี และกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) ทำงานการเมืองในพื้นที่ได้รับความนิยมอย่างเหนียวแน่น โดยในการเลือกตั้ง24 มี.ค. 2562 นั้นเขต 4 บุรีรัมย์ นอกจากคู่แข่งสำคัญของนายโสภณอย่างนายประกิจ พลเดช จากพรรคเพื่อไทยแล้ว ยังมีพรรคเกิดใหม่แต่มาแรงเหลือเกินอย่าง พรรคพลังประชารัฐ ที่ส่งผู้สมัครคือ นายยุทธนาตีระมาศวณิช อดีตนายกเทศมนตรีตำบลทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ ซึ่งเมื่อขึ้นชื่อว่าผ่านงานการเมืองระดับท้องถิ่นมาแล้วฐานเสียงย่อมต้องมีแน่นอน

บทสรุปของเขต 4 บุรีรัมย์ จะเป็นอย่างไร? การที่นายโสภณตัดสินใจลงสนามด้วยตนเองจะรักษาที่มั่นของพรรคภูมิใจไทยได้หรือไม่? จะเกิดการเปลี่ยนแปลงโดย 2 คู่แข่ง ไม่พรรคเพื่อไทยก็พรรคพลังประชารัฐหรือเปล่า? งานนี้อยู่ที่ประชาชนในพื้นที่จะเป็นผู้ตัดสิน!!!

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top