'ธนาธร' เชื่อ 'ยุบสภา' 4 เดือนเกิดขึ้นจริง เหตุ'ภูมิใจไทย'มีแรงจูงใจ เป็นพรรคใหญ่แทน'พท.-ปชป.'

'ธนาธร' เชื่อ 'ยุบสภา' 4 เดือนเกิดขึ้นจริง เหตุ'ภูมิใจไทย'มีแรงจูงใจ เป็นพรรคใหญ่แทน'พท.-ปชป.'

วันศุกร์ ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2568, 19.31 น.

‘ธนาธร’เชื่อแนวโน้ม 4 เดือนยุบสภาเกิดขึ้นจริง ชี้หากเบี้ยว ภูมิใจไทย‘ เสียมากกว่าได้ ย้ำเสียงมหาชนมีความสำคัญร่วมกดดันทำตาม MOA

วันที่ 19 กันยายน 2568 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม จัดกิจกรรมรำลึกครบรอบ 19 ปี การรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 และครบรอบ 5 ปีการชุมนุมใหญ่ที่ท้องสนามหลวงของกลุ่มเยาวชน 19 ก.ย.2563 โดยในงานมีการเสวนา “4 เดือนนี้ ชี้ชะตาการเมืองไทย“ โดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ร่วมเป็นหนึ่งในวิทยากร โดยนอกจากการรำลึกเหตุการณ์ทั้งสองแล้ว วงเสวนายังมีการพูดคุยถึงสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันด้วย


โดยในช่วงหนึ่งมีการตั้งคำถามขึ้นมาว่าการยุบสภาจะเกิดขึ้นได้จริงภายใน 4 เดือนหรือไม่ ซึ่งนายธนาธร กล่าวว่า เหตุเดียวที่ตนเชื่อว่าจะไม่มีวันที่ 121 คือการมีชีวิตรอดของภูมิใจไทยเอง ถ้าภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลอยู่ต่ออีก 6 เดือนหรือ 1 ปี ภูมิใจไทยจะได้อะไรและเสียอะไร แรงจูงใจทางการเมืองของภูมิใจไทยคือความต้องการปรับภาพลักษณ์ของตัวเอง ในอนาคตภูมิใจไทยต้องการเป็นพรรคใหญ่ ดังนั้น ถ้ามองในแง่นี้วิธีการของภูมิใจไทยจึงไม่ใช่การอยู่ต่ออีกเดือนหรือปี แต่คือการทำตามสัญญา เพื่อเป็นพรรคใหญ่แทนที่พรรคประชาธิปัตย์ หรือเพื่อไทยสมัยก่อน ด้วยเหตุผลนี้ตนจึงไม่คิดว่าจะมีวันที่ 121

นายธนาธร กล่าวว่า แน่นอนว่าในทางเทคนิคอาจจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นได้ จนอาจจะมีความล่าช้าเกิดขึ้น ซึ่งเมื่อถึงจุดนั้นก็ต้องดูว่าการเลื่อนการยุบสภาออกไปมีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ ซึ่งการตื่นตัวของภาคประชาสังคมที่จะช่วยกันกดดันเรื่องนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการทำให้สัญญาที่คุณอนุทินให้ไว้ยังคงความศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ได้ 

นายธนาธร กล่าวต่อไปว่าการตัดสินใจของพรรคประชาชนตั้งอยู่บนความเสี่ยงแน่นอน แต่ตนเชื่อว่าที่เพื่อนในพรรคประชาชนตัดสินใจเช่นนั้น ก็เพราะเห็นว่าประตูที่จะนำไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญมีเพียงประตูนี้บานเดียว การเลือกของพรรคประชาชนครั้งนี้จึงไม่ใช่การเลือกคนมีความรู้ความสามารถ ในอดีตทำอะไรไว้บ้าง หรือมีจริยธรรมหรือไม่ แต่ปัจจัยในการเลือกคือใครที่จะนำไปสู่การเปิดประตูแก้รัฐธรรมนูญได้มากกว่ากัน เมื่อเราไม่ได้ถือกุญแจแต่เขาเป็นคนถือกุญแจ ก็ต้องมีการแลกเปลี่ยนและรับความเสี่ยงกัน ถือเป็นการตัดสินใจเสี่ยงเพื่อหยิบกุญแจนั้นมาไขกลอนเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ

ยายธนาธร กล่าวว่า นอกจากนี้ หากกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญเดินไปถึงจุดที่มีการลงประชามติได้จริง การรณรงค์ประชามติก็เป็นเรื่องที่ประมาทไม่ได้ ทุกคนเคยเจอบทเรียนมาแล้วในการประชามติรัฐธรรมนูญในปี 2559 แต่การประชามติครั้งนี้มีต้นทุนที่สูงกว่ามาก ถ้าแพ้ก็ไม่รู้จะกลับมาแก้อย่างไรได้อีก ดังนั้น การบังคับให้การทำประชามติเกิดขึ้นพร้อมการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อให้มีคนใช้สิทธิให้เยอะที่สุดจึงมีความจำเป็นมาก ถ้าทำประชามติโดดๆ ไม่มีใครกลับบ้านไปลงประชามติแน่ ดังนั้น ถ้ากระบวนการผ่านไปถึงจุดนั้นจริงๆ ก็ต้องขอแรงทุกคนมาช่วยกันรณรงค์ให้เต็มทึ่ ร่วมการถกเถียง สื่อสารให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารให้มากที่สุด ให้เห็นปัญหาของรัฐธรรมนูญให้มากที่สุด วางใจไม่ได้เด็ดขาดว่าจะผ่านโดยอัตโนมัติ
 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top