‘สุวินัย’ชำแหละอนาคตใหม่ ชูสวัสดิการประชานิยมสุดโต่งกว่าระบอบทักษิณ
22 ก.พ.62 รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เขียนบทความ “ที่มาของความแตกแยกอย่างรุนแรงในสังคมไทย : การล่มสลายของประชาธิปไตยไทย พิษภัยของนโยบายประชานิยม อวิชชาของพวกร่านและพรรคอนาคตใหม่” เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว อธิบายปรากฏการณ์ที่คนชั้นกลางในประเทศไทยออกมาขับไล่กลุ่มการเมืองของนายทักษิณ ชินวัตร รวมถึงเบื่อหน่ายการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ว่าเป็นเพราะนักการเมืองต่างนำเสนอนโยบายประชานิยมเพื่อเอาใจคนชั้นล่าง โดยคนชั้นกลางมองว่านำเงินภาษีของตนไปใช้อย่างไม่เกิดประโยชน์ ไม่ทำให้คนชั้นล่างกระตือรือร้นพัฒนาตนเอง ดังนี้
“การล่มสลายของประชาธิปไตยไทยนั้นมีจุดเริ่มต้นในปลายปี 2548 จากปรากฏการณ์สนธิ ที่นำไปสู่ขบวนการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในช่วงต้นปี 2549 ตามมาด้วยการรัฐประหารของกองทัพในวันที่ 19 เดือนกันยายน ปี 2549 .... การเผาเมืองของขบวนการคนเสื้อแดงในปี 2553 ปรากฏการณ์มวลมหาประชาชนของ กปปส. ในปลายปี 2556 และการรัฐประหารอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม ปี 2557 เพื่อยับยั้งไม่ให้เกิดสงครามกลางเมืองจากกองกำลังติดอาวุธของคนเสื้อแดง ... ความจำเป็นในการสืบทอดอำนาจของคสช.ผ่านการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม 2562”
“ลึกๆ แล้วรากเหง้าของมันอยู่ที่ชนชั้นกลางไทยได้ลงถนน ลุกขึ้นมาปฏิเสธการอยู่ร่วมกับรัฐบาลที่ชนะเลือกตั้งด้วยนโยบายประชานิยมแบบสิ้นคิดทางการคลังเพื่อดึงชนชั้นล่างมาเป็นฐานเสียง เหตุที่ชนชั้นกลางไทยลุกขึ้นมาต่อต้านแบบ ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊งถึงขนาดนี้ ส่วนหนึ่งมันมีที่มาจากแรงบีบเค้นของนโยบายสวัสดิการประชานิยมแบบสิ้นคิดของรัฐบาลจากระบอบทักษิณที่ปรนเปรอชนชั้นล่างให้ใช้ทรัพยากร(ผ่านภาษี)จากชนชั้นกลางมากไป นโยบายสวัสดิการประชานิยมเป็นยาเสพติดที่ร้ายแรงมากในระบอบประชาธิปไตย กล่าวคือ ถ้ารัฐบาลที่ชนะเลือกตั้งด้วยการสัญญาว่าจะให้ และได้ให้ไปแล้ว ประชาชนชนชั้นล่างที่เป็นฐานเสียงก็จะยิ่งคาดหวังว่ามันจะอยู่ต่อเนื่อง และพวกเขาจะเรียกร้องต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเหมือนคนติดเฮโรอีน”
“ในอนาคตที่ไม่ไกลจากนี้ เมื่อฐานะการคลังของประเทศไม่อาจให้ต่อได้ ปัญหาการเมืองโดยเฉพาะความแตกแยกระหว่างชนชั้นกลางกับชนชั้นล่างจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกที ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ที่เคยตัวกับการรับของแจกของฟรีจากรัฐ ก็จะขาดความมุ่งมั่นที่จะเก็บออม สร้างเนื้อสร้างตัวแบบพึ่งตนเอง นำไปสู่การทำลายชีวิตของปัจเจกที่ใช้ชีวิตผิดทาง รวมทั้งทำลายโครงสร้างของประเทศในที่สุด ... เมื่อโครงสร้างเศรษฐกิจไทยรับไม่ไหวมันก็จะพังไปเลยเหมือนเวเนซุเอลา อันเป็นตัวอย่างล่าสุดของพิษภัยประชานิยมที่สิ้นคิดทางการคลัง”
“ปัญหาสีเสื้อเหลือง - แดงในหมู่คนไทยในช่วงที่ผ่านมา กล่าวโดยถึงที่สุดเกิดจากพวกนักการเมืองที่ได้เป็นรัฐบาลการปรนเปรอชนชั้นล่างด้วยนโยบายสวัสดิการประชานิยมแบบสิ้นคิดโดยใช้ทรัพยากรจากชนชั้นกลางมากเกินไปนั่นเอง แต่ผู้ชี้นำทางความคิดให้มวลชนเสื้อแดง และมวลชนส้มหวาน(พรรคอนาคตใหม่) กลับไปปลุกระดมมวลชนของตนว่าปัญหาของประเทศ ตัวการคือชนชั้นนำ/ ชนชั้นสูง รวมทั้งกองทัพ”
“ทั้งๆ ที่วาทกรรมของพวกลิเบอร่านไม่ว่าไพร่-อำมาตย์ แนวคิดล้มเจ้า เหล่านี้ ล้วนเพิ่งเกิดมาในช่วงสิบกว่าปีนี้เอง อันเป็นช่วงที่ชนชั้นกลางไทยลุกขึ้นมาต่อต้านระบอบทักษิณที่ผลักดันนโยบายประชานิยมแบบสิ้นคิดเพื่อมัดใจชนชั้นล่างและต้องการกินรวบประเทศไทยเอาไว้พวกเดียวพอดี ... นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะเบื้องหลังความขัดแย้งทางความคิดอย่างรุนแรงนี้คือ แรงบีบเค้นไม่พอใจของชนชั้นกลางไทยที่มีต่อการถูกดึงทรัพยากรไปใช้อย่างสิ้นคิดโดนพวกนักการเมืองนั่นเอง”
“ตอนนี้ พรรคอนาคตใหม่ กำลังนำเสนอนโยบายสวัสดิการประชานิยมแบบสิ้นคิดทางการคลังที่สุดโต่งยิ่งกว่าของระบอบทักษิณเสียอีก”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี