24 ก.พ. 62 วานนี้ (23 ก.พ.) ที่ลานวัฒนธรรม ถนนชายโขง  อ.เชียงคาน  จ.เลย  พรรคประชาธิปัตย์เปิดปราศรัยใหญ่ นายบัญญัติ  บรรทัดฐาน  อดีตหัวหน้าพรรค  คุณหญิงกัลยา  โสภณพณิชย์  อดีตรองหัวหน้าพรรค  พร้อมด้วยนายสุทัศน์  เงินหมื่น  และนายอิสระ  สมชัย  แกนนำของพรรคเดินทางมาร่วมหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.เลย ทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง ประกอบด้วยนายยงยุทธ  ทิพรส  ผู้สมัครเขต 1 หมายเลข 7  นายฉัตรชัย  ลีกระจ่าง  ผู้สมัครเขต 2  และนายอดุลย์วิชญเดช  ติยะบุตร  ผู้สมัครเขต 3 หมายเลข 16  โดยมีประชาชนให้ความสนใจมาร่วมรับฟังการปราศรัยจำนวนมาก 

ทั้งนี้แกนนำของพรรค ได้ขึ้นเวทีนำเสนอนโยบายการดูแลประชาชนตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยชรา เช่น  นโยบายการจ่ายเงินแรกคลอด 5,000 บาท  การมอบเบี้ยผู้สูงอายุเพิ่มเป็นเดือนละ 1,000 บาท อย่างทั่วถึง  การมอบเงินสวัสดิการให้คนยากจนเดือนละ 800 บาท โดยโอนเงินสดเข้าบัญชี แทนการมอบบัตรให้ไปรูดซื้อสินค้า เพื่อการกระจายรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนอย่างแท้จริง  มอบให้อย่างทั่วถึง และเป็นธรรม  นอกจากนี้ยังมีนโยบายเพิ่มเงินค่าตอบแทน อสม.  ซึ่งหลายนโยบายดังกล่าว พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นผู้ริเริ่มไว้  แกนนำพรรคยืนยันว่าเป็นนโยบายที่ทำได้จริง แต่ละนโยบายที่ออกมานำเสนอต่อประชาชนนั้น ได้รับการวิเคราะห์ ศึกษา วิจัยมาอย่างรอบคอบแล้ว ไม่กระทบกับการเงินการคลังของประเทศ 

นอกจากนี้ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า มีบุคลากรของพรรคที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ   โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ที่เคยฝากผลงานมาแล้วในอดีต ช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 2539-2540 ยุครัฐบาลนายชวน หลีกภัย  ก็สามารถทำให้ประเทศฟื้นตัวขึ้นมา ใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้อย่างรวดเร็วกว่าร้อยละ 70  และช่วงที่นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ใช้นโยบายไทยเข้มแข็ง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจจนประสบความสำเร็จมาแล้ว 

ต่อมานายบัญญัติ  บรรทัดฐาน  ยังกล่าวถึงกรณีหลังการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์จะไปร่วมกับพรรคไหนบ้างนั้นว่า  ต้องขอตอบตามความมั่นใจ ขณะนี้ว่า  พรรคอื่นๆอาจต้องเป็นฝ่ายเข้ามาหาพรรคประชาธิปัตย์เอง  เพราะมาถึงวันนี้ ตนเชื่อว่า ประชาชนจะให้ความไว้วางใจเลือก ส.ส.ของพรรคมากกว่าครั้งที่ผ่านมาอย่างแน่นอน สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้  เพราะประชาชนไม่อยากกลับไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองอีกแล้ว  ขณะนี้ พรรคประชาธิปัตย์คือ ทางเลือก ทางออกของประเทศไทยที่เด่นชัดที่สุด 

ขณะที่นายอดุลย์วิชญเดช  ติยะบุตร  ผู้สมัคร ส.ส.เลย พรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า ตนต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรม อยู่ข้างประชาชนผู้เดือดร้อนมาโดยตลอด  ได้เห็นปัญหา และรู้ถึงสาเหตุ  การจะแก้ปัญหาได้นั้น ต้องเข้าไปในสภาเท่านั้น  มีสองประเด็นหลักๆ ที่ตนเอาไปนำเสนอกับประชาชน  วันนี้จังหวัดเลยมีปัญหาด้านที่ดินทำกิน ทับซ้อนเขตป่าสงวนแห่งชาติ หรือเขตป่าอนุรักษ์จำนวนมาก ทั้งที่ประชาชนก็อยู่ทำกินอยู่ในที่ดินตนเองมาก่อนประกาศเป็นเขตป่าฯ และปัญหาความไม่เป็นธรรมของพี่น้องผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบเสมอมา 

"ชาวจังหวัดเลยกว่า 40,000 คน ประกอบอาชีพนี้ เป็นคนเดินขายสลากฯหาเงินให้รัฐบาล  ปัญหาเหล่านี้ต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง  หากผมได้เข้าไปทำหน้าที่ก็จะผลักดันแก้ไขให้สำเร็จเสียที  ผมรอมา 20 ปีเต็ม  คราวนี้มีความพร้อมมากที่สุด  และวิธีการหาเสียงที่ผมถนัดทีสุดคือ การปราศรัยและเดินพบปะพี่น้องประชาชนเท่านั้น จะไม่ใช้วิธีอื่นที่ผิดกฎหมาย"  ผู้สมัคร ส.ส.ปชป. กล่าว