ศาลฎีกาสั่ง กกต.คืนสิทธิสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อให้ “กรวีร์” เจ้าตัวไม่ติดใจ เชื่อเป็นเรื่องผิดพลาดทางธุรการ
27 ก.พ.62 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ถ.แจ้งวัฒนะ เมื่อเวลา 13.30 น. ศาลนัดฟังคำสั่งคดี นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สมาชิกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) บุตรชายคนรองของนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล หรือ “เสี่ยตือ” อดีต ส.ส.อ่างทอง หลายสมัย ได้ยื่นคำร้อง ขอให้ศาลวินิจฉัยคุณสมบัติและคืนสิทธิการเป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ประกาศรับรองการเป็นผู้สมัคร
นายกรวีร์ ได้ยื่นคำร้องดังกล่าวเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งนายกรวีร์ ได้นำเอกสารหลักฐานยืนยันสถานะการเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยเกินกว่า 90 วันตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งใบเสร็จรับเงิน , ภาพเหตุการณ์วันสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค มายื่นต่อศาลด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ นายกรวีร์ เดินทางมาพร้อมกับนายสมศักดิ์ บิดา และนายภราดร พี่ชาย รวมทั้งทนายความพรรคภูมิใจไทย
ต่อมาเวลา 14.30 น. นายกรวีร์ เปิดเผยภายหลังฟังคำสั่งศาลด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ว่า วันนี้ศาลฎีกาได้นัดให้มาฟังคำสั่ง ซึ่งศาลก็วินิจฉัยแล้วว่าตนได้สังกัดสมาชิกพรรคภูมิใจไทยเกินกว่าเวลา 90 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด ศาลจึงมีคำสั่งคืนสิทธิสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อให้ตน หลังจากนี้จะลงพื้นที่ช่วยกันหาเสียง ซึ่งปกติก็ช่วยงานพรรคในการหาเสียงและนำนโยบายพรรคประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งนี้
เมื่อถามว่า กรณีที่เกิดขึ้นจะดำเนินการอย่างไรกับ กกต.ด้วยหรือไม่ นายกรวีร์กล่าวว่า จริงๆก็น่าจะเป็นความผิดพลาดในเรื่องธุรการด้านเอกสาร ก็เข้าใจในงานของ กกต.ว่าที่ผ่านมาคงมีข้อมูลจำนวนมากและงานหลายอย่าง จึงไม่ติดใจอะไร เพราะตอนนี้ตนก็ได้รับความเป็นธรรม ศาลสั่งให้คืนสิทธิการสมัคร ส.ส.ที่ถูกต้องแล้ว จึงไม่มีปัญหาแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี