3 มี.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการหาเสียงของพรรคประชาชาติในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำทีมโดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ พล ต.ท.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ รองหัวหน้าพรรค พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร สส.แบบเขต จ.ปัตตานี ผศ.ดร.วรวิทย์ บารู ผู้สมัคร เขต 1 เบอร์ 1 นายมูฮำหมัดอารีฟีน จะปะกียา ผู้สมัคร เขต 2 เบอร์ 7 นายสมมุติ เบญจลักษณ์ ผู้สมัคร เขต4 เบอร์ 6 ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน ตัวแทนแกนนำจากกลุ่มต่างๆในพื้นที่ ได้แก่ตัวแทน ชาวประมงพื้นบ้าน พ่อค้า แม่ค้า รายย่อยในพื้นที่ ชาวสวนยางและตัวแทนจากผู้สูงอายุ รวมถึงเยาวชนทั่วไป บริเวณอาคารอเนกประสงค์ บ้านโฉลง ม.5 และ ม.6 บ้านโคกยาคา อ.ยะรัง จ.ปัตตานี จุดที่2เป็นบริเวณสะพานไม้บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี และจุดที่3 เป็นบริเวณสนามหญ้าทางเข้าสำนักสงฆ์ชะเมา ม.2 บ้านชะเมา ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
ในการพบปะแต่ละจุด ชาวบ้านต่างเรียกร้องขอให้พรรคประชาชาติ แก้ไขปัญหาปากท้อง เรื่องเศรษฐ์กิจ ราคายางตก ราคาสิ้นค้าแพง เรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาประมงพื้นบ้านที่มีสภาพยากจนมายาวนาน และให้มีการแก่ไขการศึกษาให้มีคุณภาพ ทั่วถึง และมีงานทำ ทั้งนี้เพื่อสามารถนำพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า นโยบายของพรรคประชาชาติด้านเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาความเดือดร้อนต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องปากท้องราคาพืชทางเกษตร ให้กับพี่น้องประชาชนโดยใช้งบประมาณด้านความมั่นคงบางส่วนมาสนับสนุนภาคการเกษตรเพราะถือว่าความมั่นคงกับความสงบสุขของประชาชนน่าจะดำเนินการควบคู่กันไป เน้นผลักดันการปฏิรูปที่ดิน จากที่ดินที่ว่างเปล่ามีกระจ่ายในพื้นที่เป็นจำนวนมากเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สามารถนำไปใช้ประกอบอาชีพเลี้ยงชีพอย่างถูกต้องตามกฎหมาย การยิบยกฐานะที่ดินที่เป็น สปก.ให้สามารถเป็นหลักประกันกับสถาบันการเงินได้ เพื่อให้เกษตรสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนนำไปประกอบอาชีพได้ด้วย
นอกจากนั้นเรื่องการจัดการป่าไม้ เพราะพบว่าในพื้นที่มีปัญหาเรื่องประชาชนบุกรุกที่ดินเพื่อประกอบอาชีพทางการเกษตรเป็นจำนวนมากและทำกันเป็นเวลายาวนาน อาจต้องให้ทางกรมป่าไม้ กรมที่ดินหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมาหยิบยกปัญหาดังกล่าวนี้มาร่วมกันหาทางออก
ด้าน อนามัย สุขภาพ พรรคจะดำเยินการการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง ยกระดับการศึกษา โดยเรียนฟรีจนขบปริญญาตรีและมีคุณภาพ เพราะพรรคถือว่าการผลิตให้ประชาชนจบการศึกษาระดับปริญญาตรีถือว่ารัฐได้บุคลากรที่มีคุณภาพให้กับประเทศชาติ ให้เหมือนสิงคโปร์ และต้องมีโอกาสทางการปกครอง การกระจายอำนาจให้กับพี่น้องประชาชนปกครองท้องถิ่น ต้องดูแลอย่างทั่วถึง พรรคพร้อมที่จะรักษาไว้ซึ่ง”อัตลัด” การมีความเท่าเทียมและต้องอยู่ร่วมกันได้ และมีความยุติธรรมที่เป็นรูปธรรม
“ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ปัญหาความยากจน หากเอางบประมาณความมั่นคง 2 หมื่นกว่าล้านบาทมาให้ประชาชนจะมีค่ามากกว่า ต้องให้ฝ่ายความมั่นคงตระหนักว่า ความมั่นคงกับความสุขสงบของประชาชนเป็นเรื่องเดียวกัน ให้คนในพื้นที่มีส่วนร่วมในทักปัญหา เมื่อนั้นกฎหมายต่างๆ อาจไม่ต้องมีก็ได้”
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า พรรคประชาติเสนอการแก้ไขปฏิรูปกฎหมายที่ไม่ขัดต่อการประกอบอาชีพทุกอาชีพให้อยู่ร่วมกันได้ เช่น ประมงพื้นบ้านเป็นอาชีพที่อยู่คู่กับปัตตานีมาตั้งแต่อดีต มีความสุข ความพอเพียง เมื่อถูกภัยมรสุมแต่ไม่เคยรับการดูแลเยียวยา รัฐต้องดูแลเพราะเป็นบุญคุณกับคนไทยในการหาเลี้ยงผู้คน ถือคติว่าความอยู่รอดของมนุษย์สำคัญกว่ากฎหมาย หากมีกฎหมายต้องให้คนรู้จริงมาทำ และชาวบ้านต้องมีส่วนร่วม ต่อไปในพื้นที่ของเราต้องมีความยุติธรรม ตอนนี้การเลือกตั้งครั้งนี้เริ่มต้นก็ไม่ยุติธรรมแล้ว เป็นการสืบทอดอำนาจเดิม รัฐธรรมนูญใหม่ครั้งนี้ ติดล็อก สว. ถึงชนะก็เดินได้ยาก พรรคที่มีการเสนอว่าที่นายกรัฐมนตรีคือพรรคที่มีประชาธิปไตย เช่นพรรคประชาชาติ เสนอ อ.วันนอร์เป็นนายกฯ
ด้านการพูดคุยสันติสุข ซึ่งพรรคประชาชาติจัดปัญหาความไม่สงบชายแดนใต้เป็นปัญหาของชาติและวาระชาติ ผลักดันกฎหมาย ไม่ผูกขาดเพียงตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง “ต้องเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ผูกขาดเฉพาะกลุ่ม การแก้ปัญหาต้องให้คนในพื้นที่ เอาปัญหาของประชานมาแก้ เชื่อว่าประชาชนย่อมมีความหวัง การเลือกตั้งครั้งนี้ ขอให้ทุกคนจำพรรคประชาชาติ เลือกพรรคเราไปแก้ปัญหาประเทศเพื่อเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจังและเราทำจริง”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี