“รัฐบาลได้รับความนิยมมากน้อยอย่างไร?”, “นโยบายด้านไหนสอบผ่าน - สอบตก” ในวิถีการเมืองแบบประชาธิปไตยที่การวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลถือเป็นเรื่องปกติ “โพลล์” (Poll) หรือการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนโดยคัดมาเป็นกลุ่มตัวอย่างจำนวนหนึ่ง ซึ่งอาจคละกันไปหรือเจาะเป็นกลุ่มเฉพาะ เช่น อาชีพ เพศ วัย การศึกษา ฯลฯ ก็เป็นเครื่องมือชิ้นหนึ่งที่ใช้สะท้อนความคิดเห็นและความรู้สึกของประชาชนในเวลาหนึ่งได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ในประเทศไทย สำนักโพลล์ต่างๆ มักก่อตั้งขึ้นในนามมหาวิทยาลัย ทำให้มีความน่าเชื่อถือทางวิชาการพอสมควร
“พรรคการเมือง - นายกรัฐมนตรี” ก็เป็นอีกหัวข้อที่ประชาชนให้ความสนใจและสำนักโพลล์ก็มักจะหยิบยกขึ้นมาทำการสำรวจอยู่เสมอ ทำนองว่า “ถ้าวันนี้มีการเลือกตั้งจะเลือกพรรคการเมืองใด -อยากให้ใครได้เป็นนายกฯ” รวมถึงในช่วงนับถอยหลังสู่การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) วันอาทิตย์ที่ 24 มี.ค. 2562 นี้ด้วย อย่างไรก็ตามช่วงใกล้เลือกตั้งแบบนี้ การทำโพลล์ก็มีข้อควรระวังเช่นกัน
พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 “มาตรา 72” ระบุว่า การสำรวจความคิดเห็นของประชาชนโดยมีเจตนาไม่สุจริต มีลักษณะเป็นการชี้นำ หรือมีผลต่อการตัดสินใจในการลงคะแนนเลือกหรือลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดจะกระทำมิได้ ซึ่งกำหนดบทลงโทษไว้ใน “มาตรา 157”คือจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้รวมถึงการเปิดเผยหรือเผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการออกเสียงลงคะแนนในระหว่างเวลา 7 วันก่อนวันเลือกตั้งจนถึงเวลาปิดการออกเสียงลงคะแนนด้วย
ประการต่อมา “งานเลี้ยง” คนไทยนั้นเป็นชนชาติที่ชอบความสนุกสนานรื่นเริง ชอบการร้องรำทำเพลง นอกจากนี้การจัดงานเลี้ยงได้ใหญ่โตมีแขกเหรื่อมาร่วมจำนวนมากยังแสดงถึงความโอ่อ่าฐานะร่ำรวย เป็นคนใจใหญ่ “แต่ในช่วงเลือกตั้ง การจัดงานเลี้ยงอาจต้องเว้นวรรคไปก่อนหากไม่อยากสุ่มเสี่ยงถูกพิจารณาว่ากระทำผิด” เพราะตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 “มาตรา 73” ระบุว่า
ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือการชักชวนให้ไปลงคะแนน ไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยในส่วนที่เกี่ยวกับงานเลี้ยงหรืองานรื่นเริงมี 2 ข้อคือ “(3) ทำการโฆษณาหาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงต่างๆ”, “(4) เลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยงผู้ใด”
สำหรับผู้ฝ่าฝืนนั้น “มาตรา 159” กำหนดบทลงโทษไว้ที่จำคุกตั้งแต่ 1 ปี-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาท-2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี “และยังอาจถึงขั้นถูกยุบพรรคได้ด้วย” เพราะได้กำหนดให้นำ“มาตรา 158 (วรรคสอง)” กรณีมีหัวหน้าพรรคหรือกรรมการบริหารพรรคสนับสนุนให้กระทำผิดมาบังคับใช้
“เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่สังคมไทยทุกเทศกาล ดังที่มีผู้กล่าวว่า “ตรุษไหนๆ งานใดๆ พี่ไทยก็เมา” แต่ก็เช่นเดียวกับการจัดเลี้ยงหรือจัดมหรสพที่ต้องระมัดระวัง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 “มาตรา 147”ระบุว่า ห้ามขาย จำหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิด ในเขตเลือกตั้งในระหว่างเวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้ง 1 วัน จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันเลือกตั้ง ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตาม “ยุคนี้สายเมาจะไม่ต้องอดทนกันนาน” เพราะหากไปเทียบกับ พ.ร.ป.วาด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการไดมาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2550 “มาตรา 155” จะพบว่า ในกฎหมายเดิมนั้นห้ามขายจำหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิด ระหว่างเวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้ง 1 วัน จนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง หรือก็คือเวลา 24.00 น. ทั้งนี้ “กฎหมายใหม่ช่วยบรรเทาผลกระทบของสถานบริการยามค่ำคืน” จากเดิมที่ต้องปิดบริการ 2 วัน ช่วงเลือกตั้งเนื่องจากไม่สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ก็ลดลงเหลือเพียง 1 วันเท่านั้น
สุดท้าย “การพนัน” เป็นอีกเรื่องขึ้นชื่อของคนไทยมาช้านานถึงขั้นมีบันทึกตั้งแต่สมัยอาณาจักรอยุธยา “ชาวสยามรักการเล่นการพนันมาก” และปัจจุบันแม้จะมีกฎหมายห้ามแต่ก็ยังหาทางเล่นจนได้ ซึ่งต้องย้ำว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 “มาตรา 148” ห้ามเล่นการพนันผลการเลือกตั้ง ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่น-1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และเช่นเคย “ดูเหมือนกฎหมายใหม่จะเข้มมาก มีหลายข้อหาที่ตัดสิทธิลงสนามการเมืองตลอดชีวิต” เรื่องการพนันนี้ก็เช่นกัน ผู้เล่นจะถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ส่วนเจ้ามือจะถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งโดยไม่ได้ระบุระยะเวลาไว้ ต่างจากกฎหมายเดิมที่กำหนดไว้ 5 ปี เช่นเดียวกับผู้สมัครหรือพรรคการเมือง กฎหมายระบุว่าหากเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเล่นพนันผลการเลือกตั้ง มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่น-2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ผู้สมัครและหัวหน้าพรรคการเมืองอาจถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี