9 มี.ค.62 เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (8 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.บุรีรัมย์ ทั้ง 8 เขต ช่วงใกล้โค้งสุดท้ายเป็นไปอย่างเข้มข้นขึ้นทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตเลือกตั้งที่ 3 นายพีระพงษ์ เฮงสวัสดิ์ หรือ "เฮียน้อย" ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 3 จากพรรคเพื่อไทย (พท.) อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ หลายสมัย ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ นายสมบูรณ์ ซารัมย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 4 จ.ขอนแก่น พี่ชายของ นายโสภณ ซารัมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และยังมี นายอภิรักษ์ ลิ้มรัตน์ อดีต ส.อบจ.เขต อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ จากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นคู่แข่งสำคัญอีกคนหนึ่ง จึงทำให้เป็นเขตพื้นที่การแข่งขันค่อนข้างเข้มข้นอีกเขตหนึ่งของสนามเลือกตั้ง จ.บุรีรัมย์ ครั้งนี้

โดย นายพีระพงษ์ ได้พา นายปณวัตร เลี้ยงผ่องพันธุ์ อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ 7 สมัย พร้อมด้วยทีมงานได้ลงพื้นที่ออกเดินหาเสียงกับประชาชนตามหมู่บ้าน ในเขตพื้นที่วัดหงษ์ บ้านศีรษะแรด ต.มะเฟือง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ โดยจัดปราศรัยแนะนำตัวผู้สมัครและนโยบายพรรค เพื่อขอคะแนนเสียง ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก เพราะนายพีระพงษ์ เป็นอดีต ส.ส.บุรีรัมย์ มาแล้วหลายสมัย ซึ่งทางพรรคมีนโยบายเน้นเรื่องพักหนี้เกษตรกร 3 ปี การชดเชยภัยแล้งให้พี่น้องเกษตร เพราะขณะนี้บ้านเราเกิดวิกฤตภัยแล้งมาก ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน

นอกจากนี้ นายพีระพงษ์ ยังได้นำการปลูกเมล่อนแก้จน มาใช้หาเสียง คือ ปลูก 1 ไร่ จำนวน 2,500 ต้น ใช้น้ำน้อยมากสู้ภัยแล้ง จะได้ผลผลิต 4,000 - 5,000 กิโลกรัม ขายส่งกิโลกรัมละ 40 - 50 บาท ใช้เวลา 2 เดือน ในการปลูกแต่ละรอบ โดยในเวลา 1 ปี สามารถปลูก ได้ถึง 4 รอบ ไม่เลือกฤดู ชอบอากาศร้อนอย่างบ้านเรา รายได้เฉลี่ยไร่ละ 6 แสน - 8 แสนบาทต่อปี โครงการนี้ได้ดำเนินการมาเป็นปีที่ 5 แล้ว ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก

นายพีระพงษ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่หาเสียงมาอย่างต่อเนื่อง มีกระแสตอบรับจากประชาชนที่ดีมาก เพราะเป็นคนในท้องถิ่น ประชาชนบอกพรรคเพื่อไทยต้องมาก่อน ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปัญหาปากท้อง เนื่องจากประชาชนยังคงมีรายได้น้อย อีกทั้งประชาชนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองใหม่  ส่วนการแข่งขันคราวนี้คิดว่าไม่รุนแรง เพราะผู้สมัครทุกคนมารยาทดี การหาเสียงไม่มีการโจมตีใส่ร้ายกัน ต่างคนก็แถลงนโยบายของตนเองมานำเสนอให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือกเข้ามา ส่วนตนจะได้รับเลือกตั้งเข้ามาหรือไม่ขอให้พี่น้องประชาชนเป็นคนตัดสิน แต่ก็มั่นใจกับการเลือกตั้งคราวนี้