“บิ๊กตู่” ลั่น เลิกวาทกรรม “คนจนติดคุก” โวรัฐบาลนี้มี ช่องทางช่วยสู้คดี บอก ดีใจคดีเสือดำ ศาลชั้นต้นตัดสิน 19 มี.ค.นี้ ชี้ทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ปลื้ม ลาเต้อาร์ตรูปพร้อมข้อความ “รัก ลุง ตู่” แจ้งงดอวยพรวันเกิดครบ 65 ปี 

12 มี.ค. 62 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยก่อนการประชุมพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ยุติธรรม พร้อมคณะนำเสนอผลงานเด่นของกระทรวงยุติธรรม “ยุติธรรมใส่ใจ...เพื่อสังคม แห่งความปลอดภัยของทุกคน” ซึ่งถือเป็นการดำเนินงานเชิงรุกตามนโยบายของรัฐบาลในการลดความเหลื่อมล้ำ การเข้าถึงความยุติธรรมให้แก่ ประชาชน 

ทั้งนี้นายกฯ ได้ดูผลงานของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการอำนวยความยุติธรรม โดย ได้ทำลองใช้แว่นขยาย 3 มิติเพื่อดูความแตกต่างผลงานก่อนที่รัฐบาลนี้เข้ามา และผลงานที่รัฐบาลได้ดำเนินการทั้งค่าประกันตัวและค่าทนายความ ซึ่งนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลเน้นช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อย และต้องทำความเข้าใจกับเขาถึงกระบวนการยุติธรรม ซึ่งรัฐบาลทำมาเยอะแยะมหาศาล ทั้งนี้ได้มีการนำชาวบ้านที่ได้รับการช่วยเหลือในทางกระบวนการยุติธรรมได้มาขอบคุณนายกฯ ซึ่งนายกฯ ได้หันมาทางสื่อมวลชนพร้อมบอกว่า ไปบอกเขาด้วยว่า ได้รับการดูแล เดี๋ยวจะหาว่า เราไม่ช่วยอีก แล้วที่บอกว่า คนจนติดคุก คนรวยไม่ติดคุก นั้นรัฐบาลก็มาช่วยตรงนี้ 

“ตราบใดที่รัฐบาล และทุกภาคส่วนเดินหน้าไปด้วยกัน ก็ไปด้วยกันได้ทั้งหมด เมื่อก่อนไม่มีการมาดูแลแบบนี้ ดังนั้นวันนี้เลิกเสียทีวาทกรรมที่บอกว่า คนจนติดคุก” นายกรัฐมนตรี กล่าว 

จากนั้นนายกฯ ได้เยี่ยมชมโครงการในกลุ่มยุติธรรมใส่ใจ (Justice Care) ซึ่งมีการติดตู้บริการอัตโนมัติ Kiosk ที่ใช้ติดตามผลเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ 77 จุดทั่วประเทศและแอพพลิเคชั่น Justice Care ที่นำเสนอสาระความรู้ผลการดำเนินงาน ซึ่งสามารถส่งขอความช่วยเหลือผ่านแอพพลิเคชั่นรวมถึงสายด่วนยุติธรรม 1111 กด 77 อีกด้วย  โดยนายกฯ ได้ฟังเพลงแรปที่เนื้อหาเกี่ยวกับคดีความ การขึ้นโรง ขึ้นศาลที่ไม่มีใครต้องการ ซึ่งขับร้องโดย บ๊อบบี้ นายนิติกร สิมาลี สมาชิกวง 3.50 พร้อมกันนั้นนายกฯ ได้ทดลองนำบัตรประชาชน เสียบผ่านเครื่องดังกล่าว ก่อนหันมาถามสื่อมวลชน ว่า มีใครมีคดีหรือไม่ ถ้ามีก็ไปร้องเรียนนะ ใครไม่มีเงินประกัน 

นอกจากนี้ยังมีโครงการในกลุ่มส่งเสริมสัมมาชีพและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อการพัฒนาพฤตินิสัย (สมภพ.) ได้นำ ร้านกาแฟวังจันทร์Cook & Coff  จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ให้โอกาสนักโทษที่กำลังพ้นโทษมาทำงานเป็นการฝึกอาชีพ โดยมีการ โดยนายกฯ ได้ชิมกาแฟและชื่นชมผลงานฝีมือการทำลาเต้อาร์ต ที่เป็นรูปใบหน้าของตนเอง พร้อมข้อความว่า “รัก ลุง ตู่” ถึงขนาดเดินเข้ามาหาสื่อมวลชน เพื่อให้ถ่ายรูปผลงานดังกล่าว ก่อนได้ชิมพร้อมกับบอกว่าอร่อย รสชาติดี ทั้งนี้นายกฯ กล่าวด้วยว่า โครงการนี้ถือเป็นพระกรุณาธิคุณของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา 

นายกฯ กล่าวว่า คนเราไม่มีใครอยากทำผิดหรอก บางทีก็ด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เมื่อศาลยังไม่ตัดสินทุกคนก็ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ นั้นคือสิ่งที่เป็นกฎหมายก็ต้องทำความเข้าใจ ว่าทำไมต้องรักษาสิทธิคนพวกนี้ ก็เพราะกฎหมายเขียนว่า ตราบใดที่ยังไม่มีการตัดสินคดีถือว่านยังบริสุทธิ์อยู่ ถ้ามีพยานก็เอาไปสู้กันในศาล ซึ่งศาลจะพิจารณาจากความเป็นจริง “ดีใจที่ได้รับทราบความคืบหน้า เรื่องเสือดำที่มีปัญหาอยู่ วันที่ 19 มี.ค.นี้จะมีการตัดสินคดีในศาลชั้นต้น ทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการทั้งหมด จะไปสู้คดีด้วยทนายหรืออะไรก็ว่ากันไป แต่ศาลจะดูจากวัตถุพยาน พยานบุคคล” 

จากนั้นได้เยี่ยมชมบูธ สมภพ....สู่ชีวิตใหม่หลังพ้นโทษ  ซึ่งนำเสนอประมวลภาพถ่ายและเรื่องราวของผู้พ้นโทษ ที่ประสบความสำเร็จในการกลับคืนสู่สังคม  ซึ่งมีนายหรั่ง อัครินทร์ ปูรี เป็นตัวแทนของผู้พ้นโทษในการสื่อสารประสบการณ์ตรง ซึ่งเป็นผู้มีฝีมือในการทำกีตาร์โปร่ง โดยนายกฯ ได้เซ็นชื่อลงบนกีตาร์พร้อมสอบถามราคาซึ่งมีราคา 35,000 บาท ซึ่งนายกฯ บอกว่า จะซื้อไปฝากลูกสาว แล้วหยิบกีตาร์ขึ้นมา โดยนายกฯ กล่าวว่า ชอบเหมือนกันกีตาร์คลาสสิก ตนชอบดนตรี แต่เล่นไม่ได้ สมัยเด็กๆ เล่นแต่อังกะลุง พร้อมทั้งให้กำลังใจทุกคนเดินไปข้างหน้า ทุกคนคือผู้นำของการเปลี่ยนแปลง เพื่อชีวิตที่ดีกว่าในอนาคต 

ผู้สื่อข่าวรายงาน ในวันที่ 21 มี.ค. ซึ่งเป็นวันครบรอบวันคล้ายวันเกิดของพล.อ.ประยุทธ์ ที่มีอายุครบ  65 ปีนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้แจ้งไปยังเหล่าทัพและส่วนราชการ ขอให้งดเข้าอวยพรในวันคล้ายวันเกิดปีนี้ แต่ให้ส่งเป็นการ์ดอวยพรแทน