“โฆษกภท.”โซ้ยข้าวแกงข้างถนน ช่วยผู้สมัครหาเสียงโค้งสุดท้ายปักธง กทม. ยัน ไม่กังวลครหาหน้าที่ของ กกต. เผยเตรียมคาราวานรถแห่รอบกรุง 23 มี.ค.นี้ ปลุกคนกรุงใช้สิทธ์ ชูสารพัดนโยบาย มัดใจคนเมือง
21 มี.ค.62 แกนนำพรรคภูมิใจไทย(ภท.) นำโดย พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะ ลงพื้นที่เขตดินแดง-ห้วยขวาง ช่วยหาเสียงให้กับ นายธัชพงศ์ ชูดำ ผู้สมัครส.ส. กทม. เขต 5 ดินแดง-ห้วยขวาง โดยตั้งแต่เช้า คณะของโฆษกพรรคฯ ได้ขึ้นรถแห่จากซอยรัชดาภิเษก 18 ไปตามย่านห้วยขวาง พร้อมเดินตลาดห้วยขวาง เพื่อพบปะประชาชน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ระหว่าง 2 ข้างทาง ได้มีประชาชนออกมาโบกมือทักทาย พร้อมให้กำลังใจเป็นระยะ นอกจากนี้ พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ ยังได้นั่งกินข้าวแกงข้างถนน เพื่อพูดคุยถึงปัญหาการจัดระเบียบทางเท้า รวมถึงพูดคุยถึงปัญหาการค้าขาย
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า ช่วงนี้ถือว่าเป็น 100 เมตรสุดท้ายของการหาเสียง จะเห็นได้ว่าพรรคภูมิใจไทยเราใช้ยุทธศาสตร์ดาวกระจายอย่างต่อเนื่อง แกนนำพรรคต่างทำงานหนัก ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครส.ส.ของพรรคทุกวันไม่มีวันหยุด แม้กระทั่งจนวันสุดท้ายเราก็ยังจะมีกิจกรรมที่จะสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งมั่นของเราเพื่อปักธงภาค กทม.ให้ได้ โดยในวันเสาร์ที่ 23 มี.ค. พรรคจะปล่อยคาราวานรถแห่ โดยมีแกนนำพรรค อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรค พร้อมด้วยผู้สมัครกระจายไปในแต่ละสายทั้ง 30 เขต เพื่อตอกย้ำนโยบายและแนะนำผู้สมัครของเรา และเป็นการกระตุ้นให้พี่น้องออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันให้มากๆ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยได้นำเสนอนโยบายกรุงเทพสะดวกสบายสำหรับพี่น้องชาวกทม.ไปแล้ว ซึ่งประกอบด้วย นโยบาย Co-working space 1แขวง 1ที่ นโยบายเรียนและทำงานสัปดาห์ละ 4 วัน อีก 1 วัน ทำงานหรือเรียนที่บ้าน เพื่อลดค่าใช้จ่าย แก้ปัญหาการจราจรและมลภาวะทางอากาศ นโยบายขับแกร็บคาร์อย่างถูกกฎหมาย ทั้งหมดเชื่อมโยงกับหลักคิดหลักคือ ลดอำนาจรัฐ เพื่อปากท้องประชาชน
เช่นเดียวกับการมาลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครส.ส.เขตดินแดง ห้วยขวางครั้งนี้ เรายังคงยึดแนวทางที่ต้องการช่วยเหลือแก่ปัญหาปากท้องให้ประชาชน ซึ่งในพื้นที่ดินแดง-ห้วยขวางนี้ เราโฟกัสการแก้ปัญหาไปที่เรื่องสังคม เรื่องปากท้อง เช่น ปัญหายาเสพติด จะเห็นได้ว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นจุดศูนย์กลางด้านการกีฬามีศูนย์กีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดังนั้นเราเห็นการเพิ่มลานกีฬาจะช่วยแก้ปัญหาให้คนในชุมชน ได้ห่างไกลยาเสพติด เป็นการสร้างคน ให้เป็นคนดี เป็นการเปิดโอกาสให้เขาได้มีงานทำ และมีรายได้เพิ่มขึ้น
“ที่สำคัญนอกจากคนกรุงจะได้รับแก้ไขปัญหาปากท้องแล้ว ยังจะได้ความสงบสุขอย่างแท้จริงกลับคืนมา เพราะพรรคฯมีนโยบายชัดเจนจะไม่ขัดแย้งกับใคร จะไม่ยอมให้กรุงเทพฯ เกิดความวุ่นวายลุกเป็นไฟเหมือนที่ผ่านมา หากเราจะร่วมงานกับใครแล้วจะเกิดความวุ่นวายตามมา พรรคภูมิใจไทยขอเป็นฝ่ายค้านดีกว่า” โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว
โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวอีกว่า จะเห็นได้ว่าพรรคภูมิใจไทยเรายึดแนวทางแก้ปัญหาปากท้องประชาชนเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ช่วงออกสตาร์ท กระทั่งมาถึงร้อยเมตรสุดท้าย พวกเราไม่เคยหยุดทำงาน ยังคงเดินเข้าหาพี่น้องประชาชน เพื่อให้พี่น้องเห็นว่าฝากความหวังไว้กับพรรคภูมิใจไทย เรามีความพร้อมทั้งตัวบุคคลคือนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคฯ ที่มีความพร้อมในตำแหน่งนายกฯ มีบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ที่พร้อมทำงานขับเคลื่อนนโยบาย เพียงพี่น้องให้โอกาสพรรคภูมิใจไทย เรามั่นใจว่าจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวถึงกรณีที่หลายพรรคการเมืองกังวลการทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ว่า ปัญหาใคร ก็ต้องรับผิดชอบ กกต.ต้องทำตามกฎหมาย เพราะมีประชาชนจับตาดูอยู่ ซึ่งพลังของประชาชน จะเป็นตัวบอกว่า กกต.ควรทำหน้าที่อย่างไร ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทย ไม่มีความกังวลใดๆ
ขณะที่ นายธัชพงศ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบปะประชาชนหลายเดือนที่ผ่านมา ประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี เพราะมีหลายนโยบายที่จะช่วยเหลือประชาชน ให้อยู่ดีกินดีขึ้น อย่าง นโยบายกัญชาเสรี ที่จะช่วยให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมเตรียมจะสนับสนุนนักกีฬาอาชีพ นอกจากนี้ ยืนยัน ไม่กดดันที่ต้องแข่งขันกับพรรคใหญ่ อย่าง พรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นเจ้าของพื้นที่เดิม เพราะตนเองสู้ด้วยหัวใจ และหวังว่า ประชาชน จะเห็นความตั้งใจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี