เจาะสนามเลือกตั้ง วันนี้ จะนำท่านผู้ที่สนใจเรื่องการเมือง การเลือกตั้งไปดูสนามเลือกตั้งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเริ่มต้นที่ จ.ยะลา ซึ่งถือเป็นสนาม “ชนช้าง” อีกสนามหนึ่ง ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผู้สนใจการเมือง จับตามองแบบไม่กะพริบตา
เพราะ จ.ยะลา เป็นบ้านของหัวหน้าพรรคประชาชาติ คือนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา นักการเมืองอาวุโสของประเทศ ซึ่งครั้งนี้สนามการเมืองที่อื่น แพ้-ชนะ ถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ สนามยะลา ต้องปิดประตูแพ้ เพราะหากแพ้ที่ จ.ยะลา แม้ที่จังหวัดอื่นกวาดที่นั่งได้ทั้งจังหวัด ก็ถือว่า แพ้ เพราะแพ้ที่บ้านของตนเอง ย่อมเสียหายหลายแสน
ในขณะที่ พรรคประชาธิปัตย์ สนามจังหวัดยะลา ถือว่าเป็น สนามสำคัญ เพราะ สส.เขต 1 จ.ยะลา เป็น คนไทยพุทธ คนเดียวของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเขต 1 ยะลา เป็นเขตเลือกตั้งที่ ประชาธิปัตย์ ยึดครองมาอย่างยาวนาน ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาธิปัตย์ ต้องรักษาไว้ให้ได้
สนามการเลือกตั้งเขต 1 ยะลา แม้ว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีผู้สมัคร ทั้งไทยพุทธ และมุสลิม ลงสนามเพื่อชิงตำแหน่ง สส. 1 ตำแหน่ง 30 กว่าชีวิต แต่ที่ถือว่าเป็นมวยถูกคู่ และต่อสู้กันจริงๆมีเพียง 3 คน จาก 3 พรรคการเมืองเท่านั้น
โดยพรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผมที่การเลือกตั้งในสนาม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังต้องอาศัย อดีตเจ้าอาวาส อย่าง ชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษา มากกว่าบารมีของ “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เจ้าอาวาส ปัจจุบัน ส่ง ภูริพงศ์ พงศ์สุวรรณศิริ อดีตรอง นายก อบจ.ยะลา ทายาทของ ประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ อดีต สส.เจ้าของพื้นที่ ซึ่งครั้งนี้ สุขภาพไม่อำนวย ลงสนามไม่ได้ จึงต้อง “พักยาว” ส่งลูกชายลงเพื่อ รักษา ที่นั่ง สส.เขต 1 โดยเชื่อว่า ทั้งบารมีของ ก๋ง ของ ป๋า ที่สั่งสมกันมารุ่นสู่รุ่น และเสียงของคนไทยพุทธ และคนไทยเชื้อสายจีน ยังเหนียวแน่นอยู่กับประชาธิปัตย์ ดังนั้น สำหรับ ประชาธิปัตย์แล้ว ส่ง “เสาไฟฟ้า”ลงสมัคร ก็มีคนเลือก
ส่วนคู่แข่งสำคัญของ “ภูริพงศ์”ในครั้งนี้ คือ อาดิลัน อาลีอิสเฮาะอดีต สท.เทศบาลนครยะลา ทนายความมุสลิมชื่อดัง ที่มีผลงานในการว่าความให้กับ ผู้ที่ถูกกล่าวหา ในคดีความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีผู้ให้ฉายาว่า “ทนายโจร” ซึ่งสวมเสื้อพรรค พลังประชารัฐ ที่เป็นพรรคประกาศชัดว่าจะ “อุ้ม” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าสู่ที่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกสมัย เพื่อ “สืบทอดอำนาจ” โดยการร่วมมือกับ สว. 250 เสียง
“อาดิลัน” นอกจากมีฐานเสียงของ สท.เทศบาลนครยะลา รองรับแล้ว ยังมีฐานเสียงจากกลุ่ม “ลูกความ” ที่ต้องคดีความมั่นคง และที่สำคัญ ในการเลือกสมัครในพรรคพลังประชารัฐ ทำให้ได้รับการสนับสนุน จาก อนุมัติ อาหมัด อดีต สมาชิก สนช. ที่ลาออกจากตำแหน่ง สนช. เพื่อช่วยหาเสียงให้กับ ผู้สมัคร ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเฉพาะ ซึ่งมี “อีกา” ใน “วงใน” คาบข่าวมาบอกว่า ถ้า “อนุมัติ”ทำได้ 5 ที่นั่ง ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้า “บิ๊กตู่” ได้เป็น “นายกฯ”บำเหน็จที่ได้รับคือตำแหน่ง รมต.
นอกจากนั้น ยังมีข้าราชการระดับ 11 อดีต “บิ๊ก” ในพื้นที่ และ อดีตนายทหาร ระดับ “แม่ทัพ”ในพื้นที่ใช้ “คอนเนคชั่น” กับผู้คนในพื้นที่ ทั้งในวงการปกครอง ความมั่นคง ศาสนา เพื่อให้สนับสนุนผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐในทุกรูปแบบ
ส่วนพรรคสุดท้ายที่หมายมั่นที่จะ “ปักธง” ในเขต 1 ยะลาให้ได้คือ พรรคประชาชาติ ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ส่ง สัญญา สุวรรณโพธิ์ อดีตรองนายกเทศบาลนครยะลา อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลยะลาลงสมัคร ด้วยการส่งเสริมสนับสนุนของ พงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ หรือ “เสี่ยอ๋า” นายกเทศบาลนครยะลา
ซึ่งหากนับความอาวุโสทางการเมือง ในผู้สมัคร 3 คน 3 พรรค “สัญญา” คือ “ละอ่อน” ทางการเมือง เพราะไม่เคยสัมผัสกับการเมืองมาก่อน ไม่มีฐานทางการเมืองเลย และ “จุดอ่อน” ของ “สัญญา” คือ ในการหาเสียง ไม่มี “ทีมเวิร์ก” และยังยึดติดในความเป็น “ผู้อำนวยการ”และเป็น “รองนายก” ทำให้เสียเปรียบคู่แข่งทั้ง 3 คน
จุดแข็งของ “สัญญา” คือความเป็นพรรคประชาชาติ ที่มี อาจารย์วันนอร์ เป็นหัวหน้าพรรค และมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นเลขาธิการพรรค ซึ่ง 2 จุดแข็งดังกล่าว อาจจะทำให้ได้เสียงสนับสนุนจาก “รอบนอก” เป็นกอบเป็นกำ แต่เสียงของคนไทยพุทธ และคนไทยเชื้อสายจีน ในเขตเทศบาล อย่างไรเสียก็สู้กับเสียง “จัดตั้ง” และ “แฟนพันธุ์แท้” ของพรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผม ไม่ได้
แม้ว่า พรรคประชาชาติ จะนำเสนอในนโยบาย “พหุวัฒนธรรม” และส่งผู้สมัครที่เป็น “ไทยพุทธ” เพื่อให้ประชาชนเลือก เพื่อแข่งกับพรรคประชาธิปัตย์ แต่ความใหม่ของพรรค และความใหญ่ของผู้สมัคร ทำให้เสียงตอบรับจากกลุ่ม “ไทยพุทธ” ยังไม่ชัดเจนเพียงพอ
ตรวจสอบคะแนน ณ วันนี้พบว่าหมายเลข 8 คือ พรรคประชาธิปัตย์ ยังเป็นที่ 1 ตามมาด้วยหมายเลข 4 คือ พรรคพลังประชารัฐ และหมายเลข 2 คือพรรคประชาชาติ ที่คะแนนเกาะกลุ่มกันมาแบบไม่ทิ้งห่าง ซึ่งจะต้องดูว่า เวลาที่เหลืออยู่ไม่มากนัก ผู้สมัคร และพรรคที่สังกัด จะใช้ “กลยุทธ์” อะไร แบบไหน ในการที่จะได้รับคะแนนนิยมจากประชาชน เพื่อการแซงเข้าวินเป็นอันดับหนึ่ง เพื่อเป็น สส.ของเขต 1 จังหวัดยะลา
แต่...ที่แน่ๆ วิชามาร เกิดขึ้นแล้ว เพราะมีผู้สนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามฝ่ายประชาธิปไตยพรรคหนึ่ง เบิกเงินจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง จำนวน 3 ล้านบาท และของเป็นแบงก์ 500 กับ แบงก์ 100 เพื่อใช้ยิง “สลุต” ในสนามเลือกตั้งแห่งนี้แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี