เวทีปราศรัยใหญ่ พปชร.ขุด เผาบ้านเผาเมือง อย่าเลือกคนทำลายชาติชนะเลือกตั้ง ลั่น ใครที่คิดจะมาเหยียบย่ำแผ่นดินนี้ เราจะลุกขึ้นต่อสู้ร่วมกับประชาชน
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 22 มี.ค.ที่สนามเทพหัสดิน สนามกีฬาแห่งชาติ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) จัดปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้าย “เปิดใจประชารัฐ รวมใจประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว” มีผู้บริหารและแกนนำพรรค นำโดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคฯ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ประธานยุทธศาสตร์ กทม.พร้อมผู้สมัครส.ส.กทม.ร่วมเวที มีประชาชนร่วมฟังประมาณ 10,000 คน
เวลา 18.44 น. นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ไม่ง่ายเลย ที่จะมีคนมาฟังปราศรัยมากมายขนาดนี้ นับแต่มี พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้ เราได้เดินสายพบปะชาชนเพื่อยืนยันว่าเราพร้อมแล้ว ที่แล้วมาหลายคนปรามาสพรรคเรา แต่วันนี้มั่นใจแล้วว่าพรรค พปชร.จะเดินหน้าไปได้ด้วยดี เพราะมีนโยบายคิดเอง ไม่ต้องมีใครสั่งให้ทำ เป็นนโยบายที่ทำได้จริง ซึ่งไม่จำเป็นต้องสวยหรู
ทั้งนี้ที่ผ่านมา 20 -30 ปี รถไฟฟ้าใน กทม.มีเพียง 2 เส้นทาง แต่รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อนุมัติและลงมือสร้างรถไฟฟ้าถึง 7 เส้นทาง อย่างไรตาม มีบางพรรคการเมืองโจมตีพรรค พปชร.โดยพูดเอามัน ทั้งที่เป็นเรื่องชีวีติความเป็นอยู่ของประชาชน ขอให้ประชาชนคิดอย่างรอบคอบ ว่าต้องการให้บ้านเมืองเป็นอย่างไร ซึ่งไม่ควรเลือกเอาสนุก ตามกระแส
“ขออย่ากังวล ลังเล หรือมีเครื่องหมายคำถามอยู่ในใจ เพราะนี่คืออนาคตของประเทศ จงคิดดูว่า เราจะฝากอนาคตลูกหลานไว้กับใคร บางคนอาจลืมไปแล้ว ว่าไม่กี่ปีที่ผ่านมา กทม.เกิดอะไรขึ้น มีการสุมไฟ ก่อจราจล ซึ่งเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอีก เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ เข้ามา ก็ไม่มีเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นอีก ไม่มีเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองเกิดขึ้นอีก เราอยากให้ลูกหลานมีความเสี่ยงอีกหรือ เราอยากให้คนกรุงเทพปลอดภัย สงบสุข ก่อนหน้านี้สองพรรคใหญ่ ผลัดกันเป็นรัฐบาล แล้วสร้างความวุ่นวายให้ประเทศไทย” นายพุทธิพงษ์ กล่าว
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า พรรค พปชร.ไม่ได้เอาเปรียบใคร เราเดินหาเสียงเหมือนกับทุกพรรค และได้กำลังใจอย่างดีจากประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้แตกต่างจากแคนดิเดตนายกฯของพรรคอื่น ที่ผ่านมามีแต่การสร้างวาทกรรมว่าเราสืบทอดอำนาจ เอาเปรียบพรรคอื่น เพราะพรรคอื่นกลัวแพ้เลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่าพรรคเรา จะปักธงในกรุงเทพฯได้แน่นอน เพราะผู้สมัครของเราไม่มีความคิดที่จะยกเลิกการไหว้ครู และขนบธรรมเนียมอันดีงามของไทย มีแต่ความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เราให้คำสัญญาจะปกป้องแผ่นดินไทย ร่วมกับประชาชนทุกคน ใครที่คิดจะมาเหยียบย่ำแผ่นดินนี้ เราจะลุกขึ้นต่อสู้ร่วมกับประชาชน
“ใครก็ตามที่คิดทำร้ายประเทศไทยคุณเจอกับพวกเราทุกที่ ทุกเวลา ขอให้พวกเรามารวมกันเป็นหนึ่งเดียว ทำเพื่อประเทศชาติอันเป็นที่รักของพวกเรา ตอนนี้มี 2 พรรคการเมืองใช้สนามไทยญี่ปุ่น-ดินแดง ปราศรัย ซึ่งก็เห็นแล้วว่าเป็นอย่างไร”
เวลา 19.15 น. นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ประเทศไทยมีความขัดแย้งสูง คนไทยได้ออกมาฆ่ากัน มีความเกลียดชังต่อประชาชนทั้งประเทศ ขอประชาชนอย่าลืมสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะถือเป็นความทรงจำอันเจ็บปวด
อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องดีที่ประเทศไทยมีสถาบันทหาร ที่เข้ามาแก้ไขปัญหาสถานการณ์ให้ดีขึ้น ทหารไม่ได้ต้องการสืบทอดอำนาจ แต่ต้องการรักษาบ้านเมือง หากไม่มีทหารก็คงไม่มีวันนี้ ที่บ้านเมืองมีความสงบ ไม่มีความแตกแยก ทหารนำความสามัคคีกับมาสู่คนไทย แต่เมื่อใกล้เลือกตั้ง ก็มีวาทกรรมทางการเมือง พูดเหมือนว่ารัฐบาลทหารนั้นเลวร้าย ทำลายประเทศ ทั้งที่นานาประเทศ ต่างยอมรับว่า เราดีที่สุดในอาเซียน
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า วันที่ 24 มีนาคมนี้ จะเป็นวันต่อสู้กับระบอบเก่า ที่มีมายาวนาน ซึ่งเป็นระบอบที่จะนำประเทศไทยกลับสู่สิ่งเก่าที่เลวร้าย และมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงคนเดียว ที่จะสามารถนำพาประเทศ ก้าวสู่วันใหม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ต้องการสืบทอดอำนาจ ไม่เคยหลงในอำนาจ เพียงแต่เห็นว่างานของชาติยังไม่เสร็จ จึงต้องการเข้ามาสานต่อ ดังนั้นอย่าปล่อยให้คนทำลายชาติ ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี