‘กกต.’สั่ง6หน่วย5จว.
เลือกตั้งใหม่
บัตร-ใช้สิทธิ์ไม่ตรงกัน
นับใหม่2หน่วยที่ขอนแก่น
คาดเข้าคูหาหลังสงกรานต์
พปชร.-พท.-ปชป.พร้อมสู้
กกต.มีมติสั่งเลือกตั้งใหม่ 6 หน่วย ใน 5 จังหวัด-นับคะแนนใหม่ 2 หน่วย ที่ จ.ขอนแก่น คาดเลือกตั้งใหม่หลังเทศกาลสงกรานต์ ขณะสูตรปาร์ตี้ลิสต์ยังไร้ข้อสรุป ว่าที่ สส.พปชร.มั่นใจรักษาเก้าอี้ได้ “ไอติม” พร้อมลุยเลือกตั้งใหม่ ด้าน “คารม” ตั้งมือกฎหมายช่วย “ธนาธร” สู้คดี พร้อมให้กำลังใจ “ผบช.น.” มั่นใจไร้เหตุวุ่น
เมื่อวันที่ 4 เมษายน นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงว่า ที่ประชุมกกต.เมื่อวันที่ 3เมษายน ได้พิจารณากรณีผลการนับคะแนนสส.และกรณีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ออกเสียงลงคะแนน โดยมีมติสั่งให้นับคะแนนใหม่ใน 2 หน่วย เลือกตั้งของเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.ขอนแก่น คือหน่วยเลือกตั้งที่ 1 หมู่ที่ 1 ต.บัวใหญ่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น และหน่วยเลือกตั้งที่ 5 หมู่ที่ 5 ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เนื่องจากพบว่าการขีดคะแนนไม่สัมพันธ์กับการขานคะแนน โดยกกต.จะแจ้งมติไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขต(กกต.เขต) ซึ่งก็จะไปพิจารณากำหนดวันในการนับคะแนนใหม่
สั่งเลือกตั้งใหม่6เขต5จังหวัด
รองเลขาธิการ กกต.กล่าวว่า ทั้งนี้ กกต.ยังสั่งให้มีการเลือกตั้ง ใน 6 หน่วยเลือกตั้ง ใน 5 จังหวัด ประกอบด้วย 1. จ.ลำปาง เขตเลือกตั้งที่ 4 จำนวน 2 หน่วย ได้แก่ หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ที่ 5 ต.ปางหลวง อ.เกาะคา และ หน่วยเลือกตั้งที่ 3 หมู่2 ต.ศาลา อ.เกาะคา 2.จ.ยโสธร เขตเลือกตั้งที่ 2 หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ที่ 6 ต.หัวเมือง อ.มหาชนะชัย 3 จ.เพชรบูรณ์ เขตเลือกตั้งที่ 1 หน่วยเลือกตั้งที่ 12 หมู่ที่ 12 ต.เข็กน้อย ต.เขาค้อ 4. จ.พิษณุโลก เขตเลือกตั้งที่ 2 หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ที่ 6 ต.มะตูม อ.พรหมพิราม และ5 กรุงเทพมหานครเขตเลือกตั้งที่ 13 หน่วยเลือกตั้งที่ 32 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ
คาดเลือกตั้งใหม่หลังสงกรานต์
โดยในวันเลือกตั้งใหม่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของกกต.คาดว่าจะเป็นหลังเทศกาลสงกรานต์ โดยผู้สมัคร ยังคงเป็นชุดเดิมทั้งหมดสามารถหาเสียงได้ แต่ค่าใช้จ่าย จะต้องลดจำนวนลงตามที่กฎหมายกำหนด กรณีนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ของการเริ่มพิจารณาของกกต.เท่านั้น เขตเลือกตั้งเหล่านี้ยังไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องร้องเรียน หรือ การกระทำไม่สุจริต ที่อาจจะนำไปสู่การสั่งเลือกตั้งใหม่ทั้งเขตรวมทั้งยังมีกรณีของเขตเลือกตั้ง หรือหน่วยเลือกตั้งอื่นๆที่มีปัญหาและยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ของกกต.โดยกกต.จะพิจารณาสั่งเลือกตั้งใหม่ ไปพร้อมกันทั้งหมดในวันเดียวกัน”นายแสวง ย้ำ
สูตรคำนวณปาร์สิลต์ยังไร้ข้อยุติ
ทั้งนี้นายแสวงกล่าวว่าในกรณีการสั่งนับคะแนนใหม่ และการสั่งเลือกตั้งใหม่ดังกล่าวจะมีผลต่อการคำนวณจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อที่กำลังเป็นที่สนใจในขณะนี้ซึ่ง กกต.ยังไม่ได้มีการคำนวณ เพราะต้องรอผลการนับคะแนนและการสั่งเลือกตั้งใหม่ ดังกล่าวก่อน ส่วนเรื่องคูณการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อนั้น ในส่วนของ กกต.ก็ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ยังไม่ข้อยุติ
10พรรคเล็กร้องกกต.อย่าทิ้งเสียง
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)กลุ่มสามัคคีสร้างชาติ ประกอบด้วยพรรคการเมืองขนาดเล็ก10พรรค ได้แก่ พรรคผึ้งหลวง พรรคฐานรากไทย พรรคพลังไทยดี พรรคพลังศรัทธา พรรคคนงานไทย พรรครวมใจไทย พรรคภาคีเครือข่ายไทย พรรคไทยธรรม พรรคประชาไทยและพรรคพลังรัก เดินทางมายื่นแถลงการณ์ต่อกกต.เรื่องคะแนนเสียงที่บริสุทธิ์ของประชาชนทุกคนมีคุณค่า อย่าทอดทิ้งโดยแถลงการณ์ว่าขณะนี้ยังมีความไม่ชัดเจนในผลการเลือกตั้งและการคิดสูตรคำนวณ เพื่อให้ได้มาซึ่งส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเมือง150คนจนทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ไม่สบายใจ นำมาซึ่งความหวาดระแวง สงสัย ไม่เชื่อใจ ไม่ไว้วางใจผลการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นอย่างมาก จึงขอเรียกร้องให้กกต.ร้องขอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ออกประกาศคำสั่งรองรับ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการเลื่อนไหลของคะแนนเสียงที่จะนำมาคิดคำนวณจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อที่จะได้มีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง
พปชร.มั่นใจรักษาเก้าอี้เอาไว้ได้
น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ว่าที่ สส.กทม.เขต13พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกกต.มีมติให้เลือกตั้งใหม่ เขตเลือกตั้งที่13 หน่วยเลือกตั้งที่32 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิว่าไม่กังวล เชื่อว่าคะแนนที่ได้รับ เป็นคะแนนบริสุทธิ์จากประชาชนที่มอบให้ ตอนเลือกตั้งได้ชูนโยบายเรื่องความสงบ โดยต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯอีกครั้ง เมื่อ กกต.ให้เลือกตั้งใหม่ หรือ มีข้อผิดพลาดอะไร ตนเคารพในดุลยพินิจและพร้อมจะดำเนินการตามที่ กกต.กำหนดทุกอย่าง
น.ส.ฐิติภัสร์ ระบุว่า ส่วนผลการนับคะแนนในหน่วยเลือกตั้งดังกล่าว มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ700คน ตนมีคะแนนเป็นอันดับ1 พรรคอนาคตใหม่ อันดับ 2 พรรคเพื่อไทย อันดับ 3 พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 4 ส่วนคะแนนรวมในเขตเลือกตั้ง13 ทั้งหมดตนมีคะแนนมากกว่า อันดับ2ประมาณ3พันคะแนน จึงเชื่อมั่นในคะแนนบริสุทธิ์ แม้ต้องเลือกตั้งใหม่ก็มองว่าเป็นเรื่องดี หากจะทำให้หมดข้อสงสัย หมดข้อคาใจ
‘ไอติม’พร้อมสู้ลุยเลือกตั้งใหม่
นายพริษฐ์ วัชรสินธุหรือไอติม ผู้สมัครส.ส.กทม. เขต13 บางกะปิ-วังทองหลาง พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)กล่าวถึงกรณีกกต.สั่งเลือกตั้งใหม่ในหน่วยเลือกตั้งที่32แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิว่าหลังเลือกตั้งเสร็จก็มีโอกาสลงพื้นที่พูดคุยประชาชนตลอด เมื่อมีเลือกตั้งใหม่ก็ต้องประชาสัมพันธ์หมายเลขรวมถึงรณรงค์ออกไปใช้สิทธิ จะเดินหน้าบนพื้นฐานอุดมการณ์พรรค ปชป.ต่อไปคือการผลักดันอุดมการณ์เสรีประชาธิปไตย ต่อต้านการสืบทอดอำนาจ เผด็จการทุกรูปแบบและต่อการการทุจริตคอร์รัปชั่น
ส่วนเลือกตั้งใหม่ครั้งนี้ จะมีผลเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเลือกตั้งของประชาชน ไปจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมหรือไม่ ต้องรอดู เชื่อว่าหลายคนที่ได้เลือกแต่ละพรรคการเมืองไปในวันที่24 มีนาคม มาถึงวันนี้ อาจมีความคิดที่เปลี่ยนแปลงไป ถึงแม้จะเป็นการเลือกตั้งใหม่ เพียงแค่หน่วยเดียว ก็ต้องจัดให้ได้มาตรฐาน ทุกคะแนนจะถูกนำไปคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่เป็นปัญหาในปัจจุบันด้วย อยากให้ให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งหน่วยนี้เทียบเท่ากับการเลือกตั้งใหญ่เพราะทุกคะแนนเสียงมีค่าจริงๆ
เจ๊หน่อยฮึ่มอย่าคิดเอื้อพรรคเดียว
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย(พท.)และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี 10พรรคการเมืองขนาดเล็กเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)คิดคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อให้กับทุกพรรค โดยไม่ตกน้ำว่า การคิดคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อไม่ควรไปมองว่าจะเป็นการนำคำนวณเพื่อพยายามจะให้ฝั่งหนึ่งฝั่งใดได้คะแนน ซึ่งจะเป็นการทำผิดรัฐธรรมนูญ ดังนั้นทุกอย่างในรัฐธรรมนูญ และกฎหมายลูกเขียนไว้ชัด จึงขอให้ กกต.ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด และควรตีความตามรัฐธรรมนูญเคร่งครัดอย่าคิดเพื่อให้ฝ่ายใดได้คะแนนมากกว่าฝั่งหนึ่ง ในรัฐธรรมนูญ ระบุอย่างไรก็ควรเป็นตามนั้นถ้าคนไปช่วยจะผิดกฎหมายเองจึงขอให้ กกต.เคร่งครัดตามรัฐธรรมนูญ
‘คารม’รวมมือกม.ช่วย’ธนาธร’
ในส่วนของ นายคารม พลพรกลาง ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่(อนค.)กล่าวว่าสถานการณ์การเมืองหลังเลือกตั้ง มีการดำเนินคดีพรรคการเมือง ฝ่ายต่อต้านการสืบทอดอำนาจคสช.อย่างน่าสงสัยโดยเฉพาะการดำเนินคดีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคฯอ้างว่าผิดมาตรา116และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค สะท้อนว่าผู้มีอำนาจในสังคมไทย ไม่ยอมรับความคิดใหม่ของคนรุ่นใหม่ที่อยากเข้ามาพัฒนาประเทศให้ดีขึ้น จึงสอบถามไปยังทนายและนักกฎหมายของพรรคการเมืองฝ่ายต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช.และแวดวงวิชาการทางกฎหมาย ก็คิดเห็นตรงกันว่า สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ถูกต้อง
“ดังนั้นผมกับทนายและนักกฎหมายที่มีความคิดเชิงก้าวหน้า เห็นตรงกันว่าการสร้างประชาธิปไตยแบบสากลให้คนไทยเท่าเทียมกัน ไม่ได้ทำลายสถาบันสำคัญของชาติอย่างที่ถูกบิดเบือนจึงรวมตัวกันเป็น กลุ่มนักกฎหมายอนาคตใหม่เพื่อสังคมไทยที่เท่าเทียม(นอสท.)โดยนอสท.จะไปให้กำลังใจนายธนาธรที่สน.ปทุมวันตามหมายเรียก ในวันที่ 6 เม.ย.เวลา 10.00น.และจะดำเนินการให้เกิดความยุติธรรมด้วยการทำให้เห็นว่าการแจ้งข้อกล่าวหาโดยไร้ข้อเท็จจริงนั้น ต้องถูกตรวจสอบเช่นกัน”นายคารม ย้ำ
ผบช.น.มั่นใจไม่มีเหตุวุ่นวาย
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล( ผบช.น.)กล่าวถึงกรณี นายธนธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนค.จะเข้ารายงานตัว คดีผิดมาตรา116ที่สน.ปทุมวันในวันที่ 6 เม.ย.ว่ายังไม่มีรายงานเรื่องที่น่ากังวล ซึ่งได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ เป็นไปตามปกติ ไม่มีกรณีใดเป็นพิเศษ แต่หากมีผู้ชุมนุมเดินทางมาให้กำลังใจ นายธนาธร เจ้าหน้าที่จะจัดกำลังดูแลความปลอดภัยให้ ส่วนการจราจร คงไม่ถึงขั้นต้องปิดพื้นที่ และเวลานี้ ก็ไม่มีสัญญาณอะไรบ่งบอก เท่าที่เห็นจากสื่อนายธนาธรก็มีความพร้อมมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก ตนมั่นใจว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรที่น่าเป็นห่วง
‘บิ๊กตู่’ลั่นเดินหน้าสืบทอดทำงาน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เป็นประธานมอบรางวัลให้กับหน่วยงานที่ได้รับรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง จากกรมบัญชีกลาง โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวช่วงหนึ่งว่าการจัดทำโครงการต่างๆ มีกฎหมายกำหนดไว้ให้แล้ว ขณะเดียวกัน ต้องดำเนินการทุกอย่างให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20ปี ยืนยันว่า ไม่ใช่การสืบทอดอำนาจ แต่เป็นการสืบทอดการทำงาน โดยทุกคนต้องมีส่วนร่วมและต้องทำความเข้าใจกับยุทธศาสตร์เหล่านี้ ไม่ใช่ข้าราชการเพียงอย่างเดียว
พ้อทุกอย่างกำลังดีกลับทำวุ่น
นายกฯกล่าวอีกว่าหากบ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย ทุกคนต้องรับผิดชอบด้วย วันนี้หลายอย่างวุ่นวายไปหมดทั้งที่กำลังดีและเรียบร้อยอยู่ แต่กลับพยายามทำให้ไม่ดีและขอยืนยันว่าทุกอย่างไม่ใช่การสืบทอด แต่เป็นประชาธิปไตยที่ทุกคนต้องการที่มีการเลือกตั้งซึ่งตนไม่สามารถไปสั่งใครได้ เลือกตั้งกันมาก็จบแล้วไปแก้ไขปัญหากันให้ได้ ส่วนการฟ้องอะไรต่างๆไม่เกี่ยวกับตนเอง หากตนเองถูกฟ้องเมื่อใดก็จะตอบเอง
สุเทพอัดปลุกโซเซียลทำป่วน
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.)โพสต์คลิปวีดีโอความยาวประมาณ 2 นาที ระหว่างที่เครือข่ายคนออนไลน์รับใช้แผ่นดินจากหลายจังหวัด ได้นำดอกไม้มามอบให้เพื่อเป็นกำลังใจ ตอนหนึ่งว่า ตอนนี้มีการสร้างกระแสในโลกโซเชียลมีเดียและผ่านสื่อฯต่างๆอย่างเป็นกระบวนการเพื่อทำให้บ้านเมืองวุ่นวายเช่นตั้งข้อกล่าวหาว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)จัดการเลือกตั้งแล้ว ไม่ใช่การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ มีการทุจริตการเลือกตั้ง ทำให้คนพวกหนึ่งไขว้เขวไปได้และมีกระบวนการล่ารายชื่อถอดถอน กกต.
เชื่อวุ่นเป็นเดือน-ห่วงลามถึงลุงตู่
อย่างไรก็ดี นายสุเทพ เชื่อว่าคงจะวุ่นวายสับสนไปเป็นเดือนๆ หรืออาจจะ 2-3เดือน เราต้องสามัคคีกันมากกว่านี้ ขณะนี้เขาเล่นงาน กกต.ก่อนถ้าตรงนี้ทรุดลง อาจจะลามไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ นายกฯและหัวหน้า คสช.เพื่อทำลายความชอบธรรม ที่พล.อ.ประยุทธ์ จะตั้งรัฐบาล ตรงนี้น่าเป็นห่วง ส่วนผลเลือกตั้งที่ออกมาเป็นแบบนี้ เห็นว่าบ้านเมือง ก็ยังคงไม่ปลอดภัย
และเรียกร้องว่า อยากจะขอร้องให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการเสพข่าว ช่วยกันหาข้อมูลที่ถูกต้องและเผยแพร่ออกไป แม้วันนี้จะผิดหวังกับผลการเลือกตั้งที่ออกมา ส่วนตัว ไม่รู้สึกท้อเพราะเชื่อว่าการจะอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ ต้องใช้เวลา และความตั้งใจจริง เป็นเครื่องพิสูจน์ ยืนยันจะขอเป็นโค้ชให้กับพรรค รปช.ต่อไป จะช่วยกันผลักดันให้มีการปฏิรูปการเมือง เดินหน้าต่อไป จะต้องรวบรวมผู้ที่มีอุดมการณ์เดียวกันเพื่อสร้างพรรคการเมืองของประชาชนให้สำเร็จให้ได้
บิ๊กแดงเมินล่าชื่อถอด-โดนมาเยอะ
ที่กองบัญชาการกองทัพบก มีรายงานข่าวว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)ได้กล่าวช่วงหนึ่งในที่ประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกถึงกรณีการล่ารายชื่อผ่านเว็บไซต์ Change.org เพื่อถอดถอน พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ พ้นตำแหน่ง ผบ.ทบ.ว่า “ขอให้ปล่อยไปเถอะ เพราะผมโดนมาเยอะแล้วและผมก็ไม่ใช่นักการเมือง และในทางกฎหมาย ผมก็ไม่ได้อยู่ในข่ายที่จะถอดถอนได้”
ชี้ล่าชื่อถอดแค่เชิงสัญลักษณ์
ด้านพ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก แถลงข่าวถึงกรณีโชเซียลปลุกล่าชื่อถอดถอนพล.อ.อภิรัชต์ว่าเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งทางโซเชียลมีเดีย แสดงออกถึงความไม่พอใจ หรือบางคนอาจจะเรียกว่าเป็นความขัดแย้งก็ได้ สังคมต้องพิจารณา ปกติแล้วเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นจะเป็นประเด็นใดขึ้นมาจะพูดคุยกันด้วยเนื้อหาสาระเป็นหลัก ไม่ใช่ไปทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์อย่างเดียว ในแง่ของความรู้สึก เช่นเดียวกับการล่ารายชื่อถอดถอน กกต.คิดว่าสังคมคงเข้าใจ
“หากไม่มั่นใจสิ่งใด หรือเรื่องที่คิดว่าไม่ดีต่อส่วนรวม ประเทศมีช่องทางดำเนินการอยู่แล้ว หากคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือมีการทุจริตก็ไปยื่นร้องเรียนตามกลไกจากนั้นเป็นขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐานและไปพิสูจน์หากมีมูล ก็ลงโทษทางคดีอาญาซึ่งเป็นช่องทางที่จับต้องได้จริง”พ.อ.วินธัยย้ำ
ซัดปลุกให้แตกแยกไม่สร้างสรรค์
ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเพื่อถอดถอน พล.อ.อภิรัชต์ คือ การเซ็ทอัพ สร้างกระแสขึ้นมา เป็นการชี้นำ ไม่ได้เป็นการใช้สื่อโซเชียล เพื่อขอความคิดเห็น แต่การตั้งหัวข้อขึ้นมา ทำให้มีการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เห็นด้วย และส่วนที่คัดค้าน และสุดท้ายทั้งสองส่วนจะมาถกแถลงในโลกโซเชียล จะได้ความคิดเห็นที่แตกแยก และใช้วาทกรรมความรุนแรง ทำให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายแตกแยกขึ้น
“ลักษณะเช่นนี้ ไม่ใช่การสร้างสรรค์ที่ทำให้สังคมมีการใช้เหตุและผล สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นไม่ได้ส่งผลดีกับประเทศเพื่อให้เกิดความสงบความเรียบร้อย จะทำให้เกิดความแตกแยก และทำให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ลักษณะแบบนี้ประชาชนหรือสื่อมวลชน ก็ไม่สบายใจ”พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ ระบุ
งานวันเกิด ’ปู่ชัย’91ปี คักคัก
เช้าวันเดียวกันที่บ้านศิลาชัย ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จัดงานวันคล้ายวันเกิด นายชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา ครบรอบ 91ปี เป็นไปอย่างคึกคัก ปีนี้เจ้าภาพขอ งดของขวัญและช่อดอกไม้ เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคสมทบทุนเข้า”กองทุนผ่าต้อกระจก จ.บุรีรัมย์กับสาธารณสุขจังหวัด”เริ่มพิธีเซ่นไหว้เทพปะกำช้าง เป็นประเพณีชาวไทยกูยหรือส่วยสืบทอดตั้งแต่โบราณของครอบครัวคนเลี้ยงช้างซึ่งใช้ช้างในพิธี21เชือก มีนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นผู้นำจุดธูปเทียน พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบและ ายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ร่วมพิธี
จากนั้นเปิดให้ผู้ร่วมงานเข้าผูกสายสิญจน์ที่ข้อมือนายชัย เพื่ออวยพรวันเกิดซึ่งมีข้าราชการ นักการเมือง ประชาชนจำนวนมากอาทินายธีรวัฒน์ วุฒิคุณ ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ นายประเสริฐ บุญเรือง รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล พร้อมนายภราดรและนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล บุตรชาย นายโสภณ ซารัมย์ อดีตรมว.คมนาคม นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีต รมช.เกษตรฯเป็นต้น
ให้สามัคคี-มีสัจจะปท.รอด
ต่อมา นายชัยให้สัมภาษณ์ว่านายเนวินและนายศักดิ์สยามจะถือเป็นนักการเมืองแนวหน้าของประเทศแล้วหรือไม่ อยู่ที่พี่น้องประชาชนคนไทย จะใช้ทั้งคู่หรือไม่ ถ้าใช้ทั้ง2คนก็ทำประโยชน์แก่บ้านเมืองได้ พร้อมปัดที่ตอบการจะเป็นประธานสภาฯไหวไหม โดยหัวเราะบอกว่าคงชั่วคราวเพราะเป็นส.ส.อาวุโสที่สุด อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้อยากเห็นบ้านเมืองอยู่กันด้วยความร่มเย็นเป็นสุข มีความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน อย่าเห็นแก่หน้าใคร เราพยายามสร้าง ทำยังไงให้คนดี ถ้าทุกคน มีความดี มีสัจจะในตัวเอง บ้านเมืองก็ไปรอด”นายชัย ย้ำและไม่ห่วงสถานการณ์การเมือง นิสัยคนไทยเอาใจง่าย
อวยพร‘อนุทิน’ให้นั่ง นายกฯ
ต่อมาเวลา08.30น.นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อม นายสรอรรถ กลิ่น ประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคและนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอสกรุ๊ปโฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)เดินทางเข้าอวยพรวันเกิดนายชัยซึ่งนายชัยได้ผูกข้อมือให้นายอนุทินพร้อมอวยพรให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี
‘เสี่ยหนู’ย้ำรอ9พ.ค.-ไม่มีใครจีบ
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการร่วมจัดตั้งรัฐบาลแล้วว่า ขณะนี้มีแต่เพียงการคาดการณ์ ต้องรอวันที่ 9 พ.ค.นี้ที่กกต.จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ และระบุว่ายังไม่มีใครโทรมาจีบและไม่ได้เนื้อหอมอย่างที่พูดกัน เนื้อเหม็นอีกต่างหาก ขณะนี้ยังไม่รู้อะไรรอวันที่ 9 พ.ค.นี้ อย่างที่ กกต.บอก ที่จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ยังไม่รู้ว่ามีส.ส.ทั้งสองระบบจำนวนกี่คน ใจเย็นๆ ยังมีการดำเนินการอีกหลายขั้นตอน
ย้ำตอนนี้ต้องนิ่งเข้าสู่พิธีสำคัญ
ทั้งนี้ นายอนุทินกล่าวย้ำว่า ขณะนี้เข้าสู่โหมด งานพระราชพิธีสำคัญ เราต้องทำให้ทุกอย่างนิ่ง เพราะเป็นพิธีประวัติศาสตร์ ที่ทุกคนต้องมีความภาคภูมิใจต้องทำให้พิธีเกิดความเรียบร้อยและมีความหมายมากที่สุด พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้พบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการไปร่วมงานฉลองมงคลสมรสบุตรชาย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเพราะมีคนมาร่วมงานจำนวนมาก ตนไปเพียงแต่นำของขวัญแต่งงานมอบให้บ่าวสาวและดื่มน้ำเพียง 2-3 แก้วเท่านั้น
เมื่อถามถึงกรณีที่มีกลุ่มนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆออกมาเคลื่อนไหวล่าชื่อเพื่อถอดถอนกกต.จะทำให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คงไม่มีอะไร ทุกคนเป็นคนไทยด้วยกันทั้งหมด คิดว่าไม่น่าจะมีการก่อความวุ่นวายอะไร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี