ปชป.อัด'บิ๊กตู่'ใช้ม.44อุ้ม3บ.มือถือเอื้อนายทุน ชี้ไม่ต่างอะไรกับยุค'ทักษิณ'

ปชป.อัด'บิ๊กตู่'ใช้ม.44อุ้ม3บ.มือถือเอื้อนายทุน ชี้ไม่ต่างอะไรกับยุค'ทักษิณ'

วันศุกร์ ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2562, 17.22 น.

"เชาว์" อัด "ประยุทธ์" ใช้ ม.44 อุ้มสามบ.มือถือ เอื้อนายทุน ไม่ต่างยุคทักษิณ แปลงสัญญาสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต ทำมูลค่าหุ้นพุ่ง ชี้ฉวยโอกาสเทศกาลสงกรานต์ ลักหลับปชช.ทีเผลอ ขาดความรับผิดชอบทางการเมือง หลอก ปชช.ลงคะแนน ไม่รู้ความสงบต้องแลกยกประโยชน์ให้กลุ่มทุน

12 เม.ย. 62 นายเชาว์ มีขวด รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัว “Chao Meekhuab“ ถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจหัวหน้าคสช.ออกคำสั่งที่ 4/2562 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม ยืดระยะเวลาจ่ายเงินค่าประมูลคลื่นของกลุ่มโทรคมนาคม (ค่ายมือถือ) อนุญาตให้ผู้ประกอบการทีวีดิจทัลคืนใบประกอบกิจการได้ ยกเว้นค่าธรรมเนียมประมูลสามงวดและอุดหนุนค่าเช่าโครงข่ายกระจายสัญญาณ ว่า เป็นการใช้อำนาจที่ชี้ให้เห็นว่าขาดธรรมาภิบาลเอื้อทุนใหญ่ ไม่แตกต่างจากสิ่งที่นายทักษิณ ชินวัตร เคยกระทำทุจริตเชิงนโยบายจากการแแปลงสัญญาสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิตเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งในขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และการทุจริตเชิงนโยบายดังกล่าวยังนำไปสู่การเพิ่มมูลค่าหุ้นของบริษัทชินคอร์ปฯจนขายให้เทมาเสกได้สูงถึง 7.6 หมื่นล้านบาท ทำให้ศาลฎีกาฯพิพากษายึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาทให้ตกเป็นของแผ่นดิน


นายเชาว์ กล่าวว่า สิ่งที่แตกต่างกันระหว่างพฤติกรรมของพล.อ.ประยุทธ์กับนายทักษิณ คือ กรณีทุจริตเชิงนโยบายของนายทักษิณ ยังมีกลไกตรวจสอบจนนำไปสู่การฟ้องร้องในชั้นศาล แต่การใช้อำนาจพิเศษตามมาตรา 44 เป็นการมัดมือชกประชาชน ยับยั้งไม่ได้ ฟ้องร้องไม่ได้ ไม่สามารถเรียกคืนความเสียหายที่จะเกิดต่อรัฐกลับมาได้ ตัวพล.อ.ประยุทธ์พ้นความรับผิดโดยสิ้นเชิง กฎหมายเอื้อมไปไม่ถึงเนื่องจากมีมาตรา 44 คุ้มกะลาหัวอยู่ จึงถือว่าเลวร้ายกว่ายุคนายทักษิณเสียอีก

ซึ่งในความเป็นจริงหาก กสทช.ต้องการช่วยทุนโทรคมนาคม ก็สามารถใช้อำนาจของตัวเองดำเนินการได้ แต่กลับเลือกที่จะเสนอให้ใช้อำนาจมาตรา 44 และพล.อ.ประยุทธ์ก็สนองตอบเสียด้วย จึงมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากต้องการใช้อำนาจพิเศษเพื่อหนีความรับผิดชอบทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต พล.อ.ประยุทธ์ อาจอ้างว่าตัวเองไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนเพราะไม่ใช่เจ้าของกิจการที่ได้ประโยชน์จากการออกคำสั่งนี้ แต่ท่านต้องตอบคำถามคนไทยให้ได้ว่า เหตุใดจึงต้องยกผลประโยชน์นับหมื่นล้านให้นายทุน 3 ราย คือ เอไอเอส ทรู และดีแทค ทำให้มูลค่าหุ้นของบริษัททั้งสามแห่งพุ่งสูงขึ้น ไม่แตกต่างจากบริษัทชินคอร์ปของนายทักษิณในอดีต

ทั้งนี้จากการคำนวณของนายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานทีดีอาร์ไอ ระบุว่า ทั้งสามบริษัทจะได้ผลประโยชน์ใกล้เคียงกัน แม้ว่าหนี้ก้อนสุดท้ายที่ยืดออกไปจะใหญ่ไม่เท่ากัน แต่การปรับระยะเวลาในการยืดหนี้ที่แตกต่างกันทำให้สุดท้ายได้ตัวเลประมาณ 8 พันล้านบาท ใกล้เคียงกันอย่างน่ามหัศจรรย์ เสมือนมีการหารือกันมาก่อนเพื่อไม่ให้ได้เปรียบเสียเปรียบกัน ตนเห็นด้วยกับนายสมเกียติว่าทั้งสามบริษัทล้วนได้ประโยชน์มีเพียงประชาชนที่เสียเปรียบ จากการยกผลประโยชน์ 2.4 หมื่นล้านให้กับนายทุน อีกทั้งไม่มีอะไรการันตีว่าทั้งสามบริษัทจะเข้าประมูลคลื่น 5 จี ตามที่ยกมาอ้างในคำสั่งหัวหน้าคสช. เพราะไม่ได้มีการทำสัญญาล่วงหน้าว่าเมื่อได้ประโยชน์จากการยืดหนี้แล้ว ทั้งสามบริษัทมีพันธะต้องยื่นประมูล 5 จี

นายเชาว์ ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ก่อนหน้านี้มีความพยายามจะดำเนินการเรื่องนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่กระแสสังคมต่อต้าน ประกอบกับพล.อ.ประยุทธ์ มีท่าทีชัดเจนที่จะเข้าสู่สนามการเมือง ทำให้ชะลอไว้ก่อน เมื่อจบการเลือกตั้งค่อยดำเนินการต่อ และยังเลือกทำในช่วงใกล้วันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ส่อให้เห็นว่าเป็นการฉกฉวยจังหวะที่ผู้คนกำลังหยุดพักผ่อน ซึ่งไม่เพียงเป็นการลักหลับประชาชนทีเผลอ แต่ยังเป็นพฤติกรรมที่ขาดความรับผิดชอบทางการเมืองด้วย เพราะหากพล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจพิเศษเอื้อกลุ่มทุนโทรคมนาคมอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง แรงสนับสนุนประชาชนที่ท่านได้อาจแตกต่างไปจากในปัจจุบัน เพราะประชาชนจะทราบความจริงล่วงหน้าว่า “ความสงบที่ท่านอ้างว่าจะได้นั้นต้องแลกด้วยประโยชน์ที่ใช้อำนาจรัฏฐาธิปัตย์ไปยกให้กับกลุ่มทุน”

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top