ดับฝัน‘รัฐบาลแห่งชาติ’
ดาหน้าค้าน
ชี้การเมืองไม่ถึงทางตัน
‘เพื่อไทย-เพื่อชาติ’จวกยับ
ซัดทำบ้านเมืองไม่สงบสุข
พปชร.ย้ำตั้งรบ.ได้แน่นอน
กกต.จ่อถกคำร้องคัดค้านเลือกตั้ง หลังสงกรานต์“เทพไท” ยันต้อง “รัฐบาลแห่งชาติ” ผ่าทางตัน ขณะที่หลายพรรคต่างรุมค้าน ไม่เอาด้วย“ธนกร”ดับฝัน เชื่อไม่เกิดแน่ ลั่นพปชร.พร้อมตั้งรัฐบาลรอชัดหลัง 9 พฤษภาคม “เพื่อไทย-เพื่อชาติ” ค้านแหลก ชี้ยังไม่ถึงทางตัน จี้กกต.ประกาศผลเลือกตั้งโดยเร็ว อย่าตะแบงฝืนเจตนารมณ์ปชช.บ้านเมืองจะไม่สงบสุข
“ไทยศรีวิไลย์”
อัดยับส่อฮั้วผลประโยชน์ เลวร้ายกว่านิรโทษกรรมสุดซอย
เมื่อวันที่ 16เมษายน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งว่า ขณะนี้ทาง กกต.จังหวัดได้ทยอยส่งเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้งเข้ามายังสำนักงานกกต.แล้ว โดยสำนักงาน กกต.ก็จะทยอยนำเสนอคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งเข้าที่ประชุมเพื่อให้ กกต.พิจารณา หากเรื่องใดที่ กกต.เห็นว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอ ก็สามารถพิจารณาได้เลยแต่หากเรื่องใดยังมีหลักฐานไม่เพียงพอ ก็อาจให้คณะอนุกรรมการวินิจฉัยไปดำเนินการตรวจสอบและหาข้อมูลเพิ่มเติม เนื่องจากอนุกรรมการฯที่ กกต.ตั้งขึ้นมาเป็นผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ โดยในการประชุม กกต.สัปดาห์นี้ก็จะมีวาระการพิจารณาคำร้องคัดค้านต่างๆด้วย ส่วนประเด็นที่กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวิธีคำนวณ สส.บัญชีรายชื่อนั้น ได้ส่งคำร้องไปแล้วเบื้องต้นต้องรอดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาอย่างไร
‘เทพไท’ย้ำรบ.แห่งชาติผ่าทางตัน
วันเดียวกัน นายเทพไท เสนพงศ์ ว่าที่สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ไลฟ์สดผ่านเฟสบุ้คว่าหลังได้เสนอแนวคิดการตั้งรัฐบาลแห่งชาติและนายกฯคนกลางเพื่อแก้ไขปัญหาการเมืองเสียงปริ่มน้ำการตั้งรัฐบาลขณะนี้มีทั้งเสียงสนับสนุนและคัดค้าน ส่วนตัวสนับสนุนแนวคิดจัดตั้งรัฐบาลที่มีการถ่วงดุลคือมีทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อตรวจสอบถ่วงดุลตามอำนาจหน้าที่ เมื่อดูสถานการณ์ขณะนี้เห็นว่าทั้งสองขั้ว ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลขึ้นได้แน่ ขั้วการเมืองพลังประชารัฐที่ประกาศว่าสามารถจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากได้ ก็เคารพความเห็นจะเฝ้าดูว่าสามารถทำได้จริงหรือไม่ ส่วนขั้วเพื่อไทยที่เชื่อมั่นยืนหยัดว่าจะสามารถรวบรวมเสียงข้างมากเกิน251เสียง
“ในความเป็นจริงกลุ่มเพื่อไทย ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ด้วยเสียงเพียง 250 เสียง ถ้าจะตั้งรัฐบาลได้ต้องใช้เสียงอย่างน้อย 375เสียงขึ้นไป ถึงจะได้นายกฯ ที่มีเสียงสนับสนุนเกินครึ่งหนึ่งของทั้งสองสภา จึงจะอยู่บริหารได้ แต่เมื่อสถานการณ์การเมืองที่เป็นเดดล็อคถึงทางตัน จะไม่มีพรรคการเมืองใดที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาได้ ดังนั้น จึงเสนอแนวทางรัฐบาลแห่งชาติ และนายกฯคนกลางขึ้นมา หากทุกฝ่ายเห็นว่า สามารถตั้งรัฐบาลขึ้นมาได้ ผมก็ยินดีและจับตารอเฝ้าดูแต่ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง เมื่อเห็นว่าบ้านเมืองมีปัญหา จะไม่นิ่งดูดายที่จะเสนอความเห็นทางออก
อย่าดันทุรังมีรบ.ช้าชาติเสียหาย
นายเทพไทระบุว่า จะผิดจะถูก ก็เป็นเรื่องของสถานการณ์ในอนาคต สิ่งที่ได้วิเคราะห์จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เคารพในความเห็นทุกท่านแต่ต้องดูองค์ประกอบว่าสามารถเกิดขึ้นจริงหรือไม่โดยจะให้เวลาจนถึงวันที่ กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการที่ 95% ของยอดสส.แต่หากขั้วใดขั้วหนึ่งไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ถึงเวลานั้นผมขอร้องว่าอย่าดันทุรังเพื่อยื้อสถานการณ์นี้ต่อไปเพราะการไม่มีรัฐบาล จะเป็นผลเสียต่อประเทศชาติโดยรวมจะเกิดความลักลั่นในการแก้ไขปัญหาและบริหารประเทศกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาคมโลก มีรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จะทำให้ประเทศชาติเสียหาย
เร่งผ่าทางตันหวั่นบิ๊กตู่ใช้ม.44
“แต่คนที่ไม่เสียหาย คือคสช.เพราะรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังคงเป็นรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม มีมาตรา 44 ที่จะทำอะไร ก็ได้ ซ้ำยังเป็นรัฐบาลที่ไม่มีการตรวจสอบถ่วงดุลเพราะสนช.ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ตัวอย่าง ล่าสุดคือการยกเลิกการคืนสัมปทานของ กสทช.ให้สื่อหลายช่องหรือ การใช้มาตรา44ช่วยเหลือกลุ่มทุนโดยลุแก่อำนาจ ไม่มีการตรวจสอบจึงขอให้ทุกฝ่ายเคารพเสียงของประชาชน ถ้าเสียงของประชาชนทั้งสภา ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้โดยขั้วใดขั้วหนึ่ง ก็อยากให้พิจารณาเรื่องความปรองดอง ให้ทุกพรรคการเมืองร่วมจัดตั้งรัฐบาลและหานายกฯคนกลางขึ้นมาบริหารแก้ไขปัญหาของประเทศชาติต่อไป”นายเทพไท ย้ำ
พปชร.มั่นใจตั้งรบ.ได้หนุนบิ๊กตู่
ขณะที่ นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวว่าแม้การเลือกตั้งเสร็จแล้ว แต่ยังต้องรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ประกาศรับรอง ทำให้บรรยากาศการเมืองยังเข้มข้นพรรคการเมืองบางพรรคยังเล่นการเมืองแบบเดิม ใช้วาทกรรมโจมตีสาดโคลนกันไปมา ขณะเดียวกันการจัดตั้งรัฐบาลก็คงต้องรอกกต.หลังวันที่ 9พฤษภาคม ทำให้ทุกพรรคพยายามช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง ทำให้มีการตอบโต้กันไปมา เชื่อว่าหลังวันที่ 9 พฤษภาคม ทุกอย่างจะจบและสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ อยากให้ทุกพรรคใจเย็นๆ ทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ การเมือง ก็จะเดินไปในทิศทางที่ประชาชนคาดหวัง
ดับฝันชงตั้งรัฐบาลแห่งชาติ
ส่วนแนวคิดตั้งรัฐบาลแห่งชาตินั้น เป็นไปไม่ได้เพราะมั่นใจว่าทุกอย่าง ยังไม่ถึงทางตันสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ตามปกติอย่างแน่นอนและเชื่อว่าพรรค พปชร.จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้พร้อมทั้งสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯต่อไป และจากที่เดินทางไปทำบุญที่ จ.นครศรีธรรมราช พบปะพี่น้องประชาชน ผู้นำท้องถิ่น ส่วนใหญ่ต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ในช่วงสงกรานต์ มีข่าวลือข่าวปล่อยเยอะไปหมด ทำให้พี่น้องประชาชนสับสน อยากจะฝากพี่น้องประชาชนได้ไตร่ตรอง อย่าไปเชื่อข่าวลือ เพราะบางเรื่องนำไปสู่ความแตกแยกและความวุ่นวายของบ้านเมือง และไม่ใช่เรื่องจริง เป็นการปล่อยข่าว เพื่อหวังผลทางการเมืองของผู้ไม่หวังดีเท่านั้น
พท.ค้านรบ.แห่งชาติ-ทางไม่ตัน
ส่วน นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พท.โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “วาทกรรม เรื่อรัฐบาลแห่งชาติ”สถานการณ์การเมืองในสังคมไทย กำลังอยู่บนเส้นทางที่ถูกทำให้เข้าใจว่า เรากำลังจะก้าวไปสู่ทางตัน ขณะที่การเลือกตั้งที่ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยฝากความหวังและแสดงออกเพื่อสะท้อนเจตนารมณ์ กลับไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ เพราะการเลือกตั้ง ยังไม่แล้วเสร็จ การเลือกตั้งครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งที่มาราธอนมากครั้งหนึ่ง ลุล่วงมากว่า 3สัปดาห์ กกต.ไม่สามารถสรุปวิธีคำนวณ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อได้ หาก กกต.ปฏิบัติอย่างตรงไปตรงมา และตีความตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กระบวนการและกลไกต่างๆก็จะเดินไปตามครรลอง ไม่มีปัญหาใดๆมาให้เราครุ่นคิด เรื่องทางตันแต่อย่างใด ผมจึงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่มีความพยายามจะทำให้เกิด ทางตันทั้งปวงและพยายามจะเสนอทางออกเรื่อง รัฐบาลแห่งชาติ”
จี้ กกต.เร่งประกาศผลเลือกตั้ง
นายภูมิธรรมระบุว่าคิดว่าจะให้สังคมยอมรับ เป็นทางเลือกที่จำเป็นของสังคมไทยทั้งที่ยังไม่ได้เห็นความพยายามใดๆที่จะทำให้ทางออกเกิดขึ้นตามเงื่อนไขและกลไกประชาธิปไตย กกต.และผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้อง ทั้งปวงต้องทำงานอย่างโปร่งใส ยึดถือความถูกต้องและผลประโยชน์ของสังคมส่วนรวมเป็นที่ตั้งแล้วประเทศ จะมีทางออก รีบประกาศผลการเลือกตั้ง อย่างตรงไปตรงมา และเที่ยงธรรม โดยเร็วประเทศไทยยังมีทางออก และระบอบประชาธิปไตย ยังเป็นความหวังที่สร้างทางออกร่วมกันอย่างเป็นจริง
ซัดเสพอำนาจบีบตั้งรบ.แห่งชาติ
นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคพท.กล่าวว่าแม้จะเชื่อได้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้และกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องหลายฉบับถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อปูทางให้ฝ่ายอำนาจนิยมอยู่ในอำนาจได้ต่อและมุ่งปิดกันโอกาสเติบโตของฝ่ายประชาธิปไตยจนกระทั่งมีเหตุที่คณะผู้มีอำนาจไม่สามารถเข้าสู่อำนาจได้จึงบอกว่าประเทศถึงทางตัน ต้องมีรัฐบาลแห่งชาติ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องไม่ควรยินดีกับการหาทางออกเช่นนี้เพราะมีรัฐธรรมนูญ หากตีความและบังคับใช้กฎหมายโดยสุจริต ตรงไปตรงมาไม่มีเหตุใดอันจะทำให้ประเทศถึงทางตันได้เลย เว้นเสียแต่จะมีเจตนาไม่สุจริต หรือมีวาระซ่อนเร้นใดๆ
ขู่อย่าตะแบงบ้านเมืองจะไม่สงบ
“ทำไมต้องเลี้ยวไป ยังศาลรัฐธรรมนูญ ทำไมต้องเพรียกหา รัฐบาลแห่งชาติ ไม่ใช่ทางออกของปัญหา แต่อาจเพิ่มวิกฤตให้ประเทศมากขึ้น ถ้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง มีความสุจริตใจ ไม่กลัวความผิดใดๆที่รออยู่ข้างหน้า หรือพวกคุณกลัวความยุ่งยากที่จะเกิดขึ้น ในอนาคต พวกคุณเสพติดอำนาจ จนเคยตัวและกลัวรัฐบาลที่มาจากประชาชน อย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย หากไม่เข้าใจตรรกะนี้หรือพยายามตะแบงเพื่อควบคุมประชาชนควบคุมประเทศ ประเทศนี้จะหาสันติสุขไม่ได้” รองโฆษกพรรค พท.ย้ำ
‘เพื่อชาติ’เมินตั้งรัฐบาลแห่งชาติ
ดร.รยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวถึงกระแสที่มีการเสนอเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ ว่าสถานการณ์การเมืองไทยขณะนี้ ดูแล้วมองไม่เห็นทางว่า จะเดินต่อไปได้อย่างไร มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดเดดล็อกทางการเมือง จากปัญหาของกติกาการเลือกตั้งครั้งนี้ อันเกิดจากรัฐธรรมนูญ2560 ที่วางกลไกกับดักเอาไว้ รวมถึง หลายๆ อย่างของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ได้เจือจางความเป็นประชาธิปไตยของประเทศไทย ลงไปอีก ทำให้ในช่วงนี้ หลายฝ่ายออกมาเสนอทางออก โดยหนึ่งในข้อเสนอนั้นคือ รัฐบาลแห่งชาติ แม้จะสามารถแก้ไขปัญหาทางการเมืองในระยะสั้นได้ ส่วนตัว ไม่เห็นด้วยแนวคิดนี้ เนื่องจากผิดหลักการประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลต้องมาจากประชาชน และจากการเลือกตั้งเท่านั้น
การที่มีผู้เสนอนายกรัฐมนตรีคนนอกนั้น ไม่แน่ใจว่าท่านเหล่านั้น ใช้หลักคิดหรือตรรกะอะไรนายกรัฐมนตรี ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง คงจะไม่เป็นที่ยอมรับจากประชาชนทั้งในและต่างประเทศ แล้วเช่นนี้ จะเข้ามาแก้ปัญหาและบริหารประเทศได้อย่างไร ที่สำคัญประเด็นที่มีความกังวลคือกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาตินั้น ใครจะเป็นเจ้าภาพ ใครจะเป็นผู้ริเริ่มและการได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีและ ครม.นั้นจะมีหลักเกณฑ์ในการสรรหาอย่างไร เพราะเราก็ไม่ได้มีตัวบทกฎหมายรองรับในเรื่องนี้เอาไว้
ไทยศิวิไลย์ต้านรบ.แห่งชาติสุดขั้ว
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองภายหลังยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ว่าขณะนี้ได้ยินมาว่าบรรดาพรรคการเมืองต่างๆก็พยายามดิ้นรนที่จะขอเข้าร่วมเป็นรัฐบาลโดยมีการพยายามชงสูตรต่างๆออกมาให้ประชาชนไขว่เขวล่าสุดมีสมาชิกบางพรรคการเมืองได้เสนอสูตร’รัฐบาลแห่งชาติ’อ้างว่าเป็นรัฐบาลที่มีวาระแค่2 ปี ทำภารกิจหลัก 2 อย่างคือ แก้ปัญหาปากท้อง กับแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมทั้งมีการโยนชื่อบุคคลสำคัญที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง 4 ราย เพื่อหยั่งกระแสความต้องการของประชาชนนั้น ไม่น่าจะมีทางเป็นไปได้ ถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติกับบุคคลที่คนๆนั้นเอ่ยอ้าง รวมถึง เป็นการไม่ให้เกียรติ ประชาชนกว่า 30ล้านคน ที่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาชนได้เลือก ส.ส.แล้วก็ยังได้เลือกนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคการเมืองอีกด้วย
อีกทั้ง กลไกของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน การเลือกนายกรัฐมนตรีภายใน5ปีแรกจะต้องมีเสียงสนับสนุนของ ส.ส.และส.ว. รวมกันถึง376เสียง และมีการคาดการณ์กันว่าสมาชิกพรรคการเมืองบางพรรคที่เคยไปแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาล และมีการลงสัตยาบันนั้น จะตัดสินใจหันมาสนับสนุนอีกขั้วหนึ่งเพื่อตั้งรัฐบาล เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ การปล่อยข่าวเรื่อง’รัฐบาลแห่งชาติ’เป็นเรื่องของคนที่วิตกจริตมากกว่าเพราะรัฐธรรมนูญมีบทบัญญัติการตั้งรัฐบาล เป็นขั้นเป็นตอน ยังมีบทบัญญัติเกี่ยวกับฝ่ายค้านไว้ตรวจสอบถ่วงดุลอีกด้วยจึงไม่จำเป็น ต้องมีรัฐบาลแห่งชาติ แต่อย่างใด
หวั่นฮั้วร้ายกว่านิรโทษสุดซอย
นายมงคลกิตติ์ ยังระบุอีกว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการมีรัฐบาลแห่งชาติซึ่งไม่ดีแน่เพราะจะไม่มีใครตรวจสอบตามระบบรัฐสภา ประชาชนที่เลือก ส.ส.มาจะเสียประโยชน์อย่างมาก ถ้านักการเมืองสมผลประโยชน์กัน แบ่งผลประโยชน์กัน จะไม่มีใครตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่นจะทวีคูณมากขึ้นซึ่งดี ไม่ดีนักการเมืองจะแอบเจรจานิรโทษกรรมคดี ของแต่ละฝ่ายกันอ้างว่าบ้านเมือง จะขัดแย้งวุ่นวาย จำเป็นต้องฮั้วกันคราวนี้จะยิ่งกว่า‘นิรโทษกรรมสุดซอย’หลักนิติธรรมจะเสียหาย
พร้อมระบุอีกว่า ต้องการให้มีฝ่ายรัฐบาลที่เข้มแข็งบริหารประเทศได้และฝ่ายค้านที่ตรวจสอบเก่งป้องปรามก่อนความเสียหายจะเกิดขึ้น พร้อมแนะแนวทางแก้ไขปรับปรุงให้รัฐบาล อีกมุมหนึ่ง ถ้าจะเกิดรัฐบาลแห่งชาติจริง แต่แทบไม่มีโอกาสเลย แล้วมาฮั้วกัน ก็ขอบอกเลยชัดๆว่า จะขอเป็นฝ่ายค้าน เพียงคนเดียว จะไม่ยอมให้ใครมาร่วมมือกันทุจริตในประเทศเด็ดขาดโดยอ้างว่าบ้านเมือง จะวุ่นวายต้องปรองดอง ต้องรัฐบาลแห่งชาติ ประชาชนจะเสียหายหนัก ถ้าคนอื่นจะฮั้วกัน ตนไม่เอาด้วยเด็ดขาด
อดีตกรธ.ชี้รบ.แห่งชาติเกิดยาก
ขณะที่ นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ อดีตคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)กล่าวถึงข้อเสนอจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติว่า เป็นไปได้ยากมากหรืออาจเป็นไปไม่ได้เลย ตามหลักการแล้วในระบอบประชาธิปไตย ต้องมีการตรวจสอบถ่วงดุล ระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาล คอยทำหน้าที่นี้อยู่ในสภา แต่รัฐบาลแห่งชาติ ก็ไม่ได้ขัดรัฐธรรมนูญซึ่งไม่ได้มีเนื้อหาล็อคไว้ว่าต้องมีผู้นำฝ่ายค้าน เป็นแต่เพียงการกำหนดไว้ว่าพรรคที่มีเสียงข้างมาก ที่ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลให้มีผู้นำฝ่ายค้าน แต่รัฐบาลแห่งชาติจะเกิดขึ้นได้นั้นต้องมีวิกฤตทางการเมืองที่ร้ายแรง และจำเป็นเร่งด่วนจริงๆเช่นภาวะสงครามซึ่งต้องใช้การระดมสมองจากทุกพรรคในสภาแบบนี้จึงจะเกิดขึ้นได้แต่ด้วยเงื่อนไขการเมืองตอนนี้ ยังไม่มีเหตุ และความจำเป็นในการตั้งรัฐบาลแห่งชาติแต่อย่างใด
ส่วนที่มองว่าบทเฉพาะกาลมาตรา 272วรรคสองที่กำหนดให้สมาชิกรัฐสภาทั้งส.ส.และส.ว.รวมกัน 2 ใน 3 หรือ 500 คนจาก750 คน มีมติงดเว้นการลงมติเลือกนายกฯตามบัญชีของมาตรา 88 คือ รัฐบาลแห่งชาตินั้น นายชาติชาย ยืนยันว่า ไม่ใช่ มาตราดังกล่าวเป็นเพียงทางออกหนึ่ง เพื่อไม่ให้การเมืองเกิดทางตันในการจัดตั้งรัฐบาลเท่านั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี