‘ชาญวิทย์’แจงยิบปมถูกร้องถือหุ้นสื่อ ชี้‘บริคณห์สนธิ’ครอบจักรวาล

30 เม.ย.62 นายชาญวิทย์ วิภูศิริ กรรมการบริหารพรรค และว่าที่ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงกรณีถูกร้อง กกต.ว่าถือหุ้นในบริษัทที่ทำธุรกิจด้านสื่อหรือเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ ว่า “เรียนชี้แจงกรณีที่มีการไปร้อง กกต.ว่าผมถือหุ้นในบริษัทที่ทำธุรกิจด้านสื่อหรือเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์”

“ข้อเท็จจริงเป็นอย่างนี้ครับ ผมถือหุ้นในบริษัทซึ่งผมเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามอยู่ด้วย โดยได้ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 20 ปี ประกอบอาชีพทำมาหากินโดยสุจริตเสียภาษีตามหน้าที่ทุกปี โดย 20 กว่าปีที่ผ่านมาไม่เคยดำเนินธุรกิจอื่นใดนอกจากการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่เนื่องจากตอนจดทะเบียนบริษัทมักจะนิยมจดทะเบียนวัตถุประสงค์ของบริษัทในบริคณห์สนธิไว้แบบครอบจักรวาลเพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจ”

“ในกรณีของบริษัทผมมีวัตถุประสงค์ถึง 61 ข้อ อาทิเช่น ทำโรงแรม ทำโรงเรียน ร้านอาหาร ภัตตาคาร ลานสเก็ต เช่าซื้อ ผลิตประกอบซ่อมแซมรถจักรยานยนต์ รถยนต์ รถแทรกเตอร์ ให้บริการอินเทอร์เน็ต ให้เช่าเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมถึงบริการด้านสื่อสารมวลชนที่กำลังถูกร้องในขณะนี้ และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งเกือบจะทุกบริษัทก็จะมีวัตถุประสงค์กว้างๆแบบครอบจักรวาลทั้งที่ความเป็นจริงดำเนินธุรกิจไม่กี่อย่าง”

“อีกทั้งในความเป็นจริงการประกอบธุรกิจทางด้านสิ่งพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนก็ตามจะต้องมีการขออนุญาตต่างหาก ดูได้จาก พรบ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.2550 ซึ่งเขียนไว้ชัดเจนว่าการจะทำหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารใดๆก็ตามจะต้องมีการขออนุญาตต่างหาก มีการระบุคุณสมบัติของผู้ขออนุญาตไว้ชัดเจน ไม่ใช่ว่าบริษัทใดก็ตามอยากจะทำหนังสือพิมพ์ก็ทำได้เลย ซึ่งใบอนุญาตดังกล่าวบริษัทผมไม่เคยมีและไม่เคยขออนุญาต และบริษัทผมก็ไม่เคยเข้าประมูลช่องทีวี คลื่นวิทยุ หรือสื่อสารมวลชนอื่นใดไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม”

“ทั้งนี้ทั้งนั้นผมคงได้แค่อธิบายตรงนี้ถึงข้อเท็จจริง ส่วนการพิสูจน์เรื่องนี้คงเป็นดุลยพินิจของหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องดังกล่าว และหากผลการพิจารณาสุดท้ายออกมาเป็นเช่นใด ผมก็จะยอบรับผลดังกล่าวโดยไม่มีข้อโต้แย้ง เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานที่ดีสำหรับนักการเมืองไทยที่ควรต้องเคารพกติกาของบ้านเมืองเป็นอันดับแรก”