"พีระพันธุ์"เผยหากเป็นหัวหน้าปชป.จะวางบทบาทเป็นเพื่อนร่วมงาน ปัดชื่อ"ถาวร-เอกนัฏ"นั่งเลขาธิการในทีม
13 พ.ค.62 ที่รัฐสภาใหม่ ถนนเกียกกาย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังจากที่เข้ารายงานตัว ส.ส.ถึงการลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า การทำงานของตนจะไม่เหมือนที่ผ่านมา โดยไม่มีการรวบอำนาจให้อยู่ที่หัวหน้า เลขาธิการพรรค หรือกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เพราะตำแหน่งพวกนี้เป็นแค่หัวโขน แต่ภารกิจของเราคือต้องมาฟื้นฟูพรรค ทำพรรคให้เดินหน้าและกลับมาเป็นพรรคหลักของประเทศ ดังนั้น พวกตนไม่มีใครแย่งกันเป็นเลขาธิการพรรค เพราะทุกคนก็สามารถเป็นเลขาฯ ได้
"ผมถึงบอกว่าไม่ว่าใครจะเป็นเลขาฯ หรือตำแหน่งไหน ไม่ได้เป็นผู้ทรงอิทธิพล หรือเป็นผู้มีอำนาจของพรรค ดังนั้น ผมจึงให้ทีมงานไปตกลงกันเอาเองว่าใครจะอยู่ตำแหน่งไหน เพราะมีค่าเท่ากัน ทำงานเหมือนกันหมด ไม่ใช่แปลว่า พอคนนี้เป็นเลขาฯ แล้วจะกลายเป็นหัวหน้าคนอื่น และหากผมได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคผมก็จะไม่ทำบทบาทเป็นหัวหน้า แต่จะเป็นเพื่อร่วมงาน ไม่มีใครใหญ่กว่าใครโดยจะทำงานเป็นทีม หรือคณะ ไม่เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในพรรค" นายพีระพันธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า การที่ไม่มีความชัดเจนในเรื่องของตัวบุคคลอาจจะกระทบต่อสมาชิกที่เป็นโหวตเตอร์ได้ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่กระทบ เพราะเวลานี้สมาชิกเข้าใจ และคิดว่าสิ่งที่ตนเสนอเป็นแนวทางใหม่ที่ต้องการเปิดกว้างให้สมาชิกมากขึ้น ส่วนที่มีข่าวว่า นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา จะมาเป็นเลขาฯ ในทีมของตนนั้น นายถาวรบอกว่าไม่รับตำแหน่ง แม้เพื่อนพิจารณาให้ก็ไม่รับ รวมถึงที่มีชื่อ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรค ที่จะมาเป็นเลขาฯ ในทีมของตนก็ไม่มีเช่นกัน ซึ่งในเบื้องต้นตนให้เป็นเสรีภาพของสมาชิกที่จะเลือกว่าใครเหมาะสม ตนไม่มีสิทธิมาชี้นำ เพราะต้องการให้เป็นประชาธิปัตย์ยุคใหม่ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูพรรค
ต่อข้อถามว่า หากได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค แล้วจะนำพาพรรคไปร่วมรัฐบาลหรือไม่ หรือจะเป็นตามกระแสข่าวการเมืองขั้วที่ 3 ที่จะดัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกฯ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เป็นคำถามที่ตอบยาก เพราะตนไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค แม้ตนเป็นหัวหน้าพรรคก็ตอบไม่ได้ เพราะข้อบังคับพรรคให้เป็นอำนาจของที่ประชุม ส.ส.และ กก.บห.และตนบอกแล้วว่าแม้จะเป็นหัวหน้าพรรคก็ขอให้ทุกอย่างอยู่ที่ที่ประชุม และหากตนเป็นหัวหน้าพรรคแล้วมีคนติดต่อมา หากแนวทางเป็นการทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ปกป้องสถาบัน จงรักภักดี ก็ไปกันได้ แต่ตนคนเดียวตัดสินใจไม่ได้ ต้องให้เพื่อนๆ พิจารณาแล้วมีมติ และหากจะมีการเชิญมาก็ต้องดูว่าใครเป็นคนเชิญ เพราะวันนี้ยังไม่รู้ใครเป็นแกนหลักในการจัดตั้งรัฐบาล
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าประชาธิปัตย์จะไม่ร่วมกับพรรคเพื่อไทย และพรรคอนาคตใหม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ไปรวมได้อย่างไร วันนี้ยังไม่ถึงเวลา ไม่มีการพูดคุย และไม่ชัดเจนว่าใครจะเป็นคนตั้งรัฐบาล เราจะไปพูดล่วงหน้าทำไม พูดไปก็เกิดปัญหาอีก
ส่วนกรณีที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความกังวลถึงการเลือกหัวหน้าพรรคว่าจะมีความขัดแย้ง และปัจจัยภายนอกเข้ามาแทรกแซงนั้น นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่มีความขัดแย้ง เชื่อมั่นว่าในส่วนของตนไม่มีการแทรกแซงแน่นอน รวมถึงผู้สมัครทั้ง 3 ด้วย แต่ที่ตนเป็นห่วงมากกว่าคือ การแทรกแซงจากภายในพรรค
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี