25 พ.ค.62 เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมทีโอที ถนนแจ้งวัฒนะ ภายหลังพักการประชุมสภาฯ 1 ชั่วโมง นายชัย ชิดชอบ      ประธานที่ประชุมชั่วคราว ได้เรียกส.ส.กลับเข้ามาประชุมอีกครั้งเพื่อพิจารณาญัตติที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ขอเลื่อนการประชุมออกไปเนื่องจากเกิดความวุ่นวาย เมื่อส.ส.บางกลุ่มในพรรคพลังประชารัฐ ไม่พอใจที่ทางพรรคไปตกลงสนับสนุนนายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานสภาฯ ขณะที่มติพรรคเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. เป็นประธานสภาฯ จนเป็นเหตุทำให้เกิดการประท้วงอย่างดุเดือดของพรรคฝ่ายเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกันการเลื่อนประชุม จนประธานต้องสั่งพักการประชุมเป็นเวลา 1 ชั่วโมงดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเริ่มการประชุม นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ได้ชี้แจงว่า พรรคพปชร.ยืนยันให้มีการเลื่อนการพิจารณาญัตติออกไป ท่ามกลางเสียงโห่ของพรรคฝ่ายตรงข้าม      จากนั้นนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย เสนอขอปิดการอภิปรายเมื่อช่วงเช้า พร้อมกับเสนอญัตติให้เปิดประชุมตามระเบียบวาระต่อไปเนื่องจากเหตุผลที่พรรคพปชร.เสนอให้เลื่อนการประชุมออกไปนั้นฟังไม่ขึ้นเพราะเป็นปัญหาความไม่พร้อมของสมาชิก และพรรคการเมืองเท่านั้น แต่กลับมาเสนอให้เลื่อนประชุม

จากนั้นนายชัย ได้ปิดการอภิปรายพร้อมกับขอมติที่ประชุมว่า จะเลื่อนหรือไม่เลื่อนการประชุม โดยใช้วิธีการลงคะแนนแบบเปิดเผยโดยการขานชื่อเพราะเครื่องลงคะแนนไม่มี พร้อมกับตั้งคณะกรรมการนับคะแนนจาก 6 พรรคการเมือง ประกอบด้ย นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล พรรคภูทิใจไทย น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ พรรคพลังประชารัฐ น.ส. พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล พรรคประชาธิปัตย์ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาท พรรคอนาคตใหม่ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวานิช พรรคเพื่อไทย และนายเสมอกัน เที่ยงธรรม พรรคชาติไทยพัฒนา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการขานชื่อครั้งนี้ ปรากฏว่า ในส่วนของส.ส.ฝั่งพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคที่มีข่าวว่าจะร่วมรัฐบาล อาทิ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา และพรรคเล็ก เห็นด้วยที่จะให้มีการเลื่อนการประชุมออกไป

หลังการขานชื่อเสร็จสิ้นลง เกิดความวุ่นวายขึ้นมาอีก เนื่องจากมีส.ส.5 คนขอแก้มติโดยส่วนใหญ่มาจากส.ส.ฝ่ายพรรคพลังประชารัฐที่ขอแก้มติเป็นเห็นด้วย ซึ่งนายชัยก็อนุญาตให้แก้มติได้โดยมีผู้รับรอง แต่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ทักท้วงว่าทำผิดข้อบังคับอาจจะทำให้การประชุมเป็นโมฆะ การจะแก้มติต้องขอมติของที่ประชุมก่อน แต่นายชัยยืนยันว่า เป็นการลงมติเป็นรายบุคคล สามารถแก้มติได้เพราะยังไม่ได้มีการนับคะแนน แต่ส.ส.ฝ่ายเพื่อไทยไม่ยอม รวมทั้งนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ก็ลุกขึ้นประท้วงด้วย  ท่ามกลางเสียงโห่ของสมาชิกเนื่องจากนายรังสิมันต์ พูดพาดพิงไปถึงการรัฐประหาร

ขณะที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นประท้วงประธานสภาฯว่า   วินิจฉัยว่าสามาถแก้มติได้แล้ว แต่ยังให้มีการอภิปรายฯกันอีกทำไม แต่ส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่ยอม มีการประท้วงกันต่อเนื่อง รวมทั้งนายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ แต่นายชัย ยืนยันว่าตนยังไม่ได้ขานคะแนน จึงยังสามารถแก้ไขมติได้ พร้อมตัดบทปิดการลงคะแนน    ก่อนถามมติที่ประชุมว่าจะอนุญาตให้มีการแก้ไขมติหรือไม่

แต่มีส.ส.หลายลุกขึ้นประท้วงอีกว่าผิดข้อบังคับ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ท้วงติงว่า ไม่มีข้อบังคับไหนที่บอกว่าอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้มีการแก้ไขมติของสมาชิก อีกทั้งรัฐธรรมนูญกำหนดให้บันทึกการลงคะแนนโดยเปิดเผย แต่การจะให้ยกมือโหวตลงมติแก้ไขมตินั้น จะบันทึกการลงคะแนนอย่างไร และจะรู้ได้อย่างไรว่ามือข้างไหนเป็นของใคร

จากนั้นได้มีส.ส.ลุกขึ้นอภิปรายฯสนับสนุนข้อสังเกตของนายอภิสิทธิ์อีกหลายคน          โดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ  ชี้ว่า ตามข้อบังคับนั้น   ประธานสามารถอนุญาตให้ใช้สิทธิลงมติได้เฉพาะคนที่ยังไม่ได้มาลงมติ หรือมาลงมติไม่ทันในระหว่างการลงคะแนน  แต่การมาลงคะแนนซ้ำหรือแก้มติทำไม่ได้ ตนอยู่สภาฯมา 40  ปี ไม่เคยปรากฏมาก่อน ขณะที่นายชัยยอมรับว่า ไม่มีในข้อบังคับจริง แต่ตนต้องการอนุโลมเท่านั้น  ท่ามกลางการประท้วงของสมาชิกว่าทำไม่ได้ นายชัยจึงหารือว่า จะสามารถนำคะแนนที่ขอแก้ไขมารวมกับที่ลงมติไปแล้วได้หรือไม่

สำหรับ 5 ส.ส.พรรคพลังประชาชน(พปชร.)  ที่ขานลงมติผิด "ไม่เห็นด้วย" กับการเลื่อนระเบียบวาระเลือกประธานสภาและรองประธานสภา ซึ่งที่จริงต้องขานว่า "เห็นด้วย" นั้น ประกอบด้วย 1.นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท 2.นายอัครวัฒน์ อัศวเหม ส.ส.สมุทรปราการ 3.นายอนุชา น้อยวงศ์  ส.ส.พิษณุโลก 4.นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา 5.นายอัฎฐพล โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี

ผลการนับคะแนนปรากฏว่า  สูสีกันมาก ฝ่ายเห็นชอบให้เลื่อนการประชุมออกไป จำนวน  246  เสียง ขณะที่ฝ่ายไม่เห็นชอบ 248  เสียง งดออกเสียง 2 เสียง คือ นายชัย ชิดชอบ ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม  และนายเทพไท เสนพงษ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ท่ามกลางเสียงฮือฮาของสมาชิก  จากนั้นนายชัย จึงสั่งประชุมสภาฯต่อไป