คุกอ่วม'หมอโด่ง-คนสนิทเสี่ยเปี๋ยง'โกงระบายข้าวจีทูจี 'บุญทรง'ลุ้นผลอุทธรณ์

คุกอ่วม'หมอโด่ง-คนสนิทเสี่ยเปี๋ยง'โกงระบายข้าวจีทูจี 'บุญทรง'ลุ้นผลอุทธรณ์

วันอังคาร ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2562, 16.59 น.

ศาลฎีกาฯสั่งจำคุกอ่วม72ปี"หมอโด่ง"อดีตเลขาฯบุญทรง ทุจริตระบายข้าวจีทูจี แต่เมื่อรวมโทษตามกฎหมายสูงสุดไว้50ปี ส่วน"คนสนิทเสี่ยเปี๋ยง"เจอ32ปี แถมให้ชดใช้เงินคนเดียวเกือบ1.7หมื่นล้าน ศาลออกหมายจับทั้งสองที่หลบหนีคดีตั้งแต่แรก ส่วนคดี"บุญทรง"ยังรอลุ้นผลอุทธรณ์

28 พ.ค.62 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา องค์คณะพิจารณารื้อคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ในส่วนของอดีตเลขานุการของ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ ซึ่งเป็นจำเลยที่หลบหนีคดี ได้มีคำพิพากษาในคดีที่ พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ หรือหมอโด่ง อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ จำเลยที่ 3 และ นายสุธี เชื่อมไธสง จำเลยที่ 16 ซึ่งเป็นคนสนิทของ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง นักธุรกิจค้าข้าวคนสำคัญ


โดยคดีนี้ อัยการสูงสุด โจทก์ ได้ยื่นคำร้องเมื่อปี 2561 ขอให้ศาลนำคดีจำเลยที่ 3 และ จำเลยที่ 16 ที่หลบหนีคดีไประหว่างการพิจารณาเมื่อปี 2558 ซึ่งศาลได้ออกหมายจับจำเลยทั้งสองไว้ ขึ้นมาพิจารณาโดยไม่มีตัวจำเลย ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (วิ อม.) พ.ศ.2560 มาตรา 28 วรรคสอง หลังจากที่ศาลเคยมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบเป็นการชั่วคราว

ทั้งนี้ คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากที่อัยการสูงสุด ได้ยื่นฟ้อง นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กับเอกชน ร่วม 28 ราย คดีหมายเลขดำ อม.25/2558 และคดีหมายเลขแดง อม.178/2560 โดยศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก นายภูมิ กับพวกรวม 18 ราย ไว้แล้วเมื่อวันที่ 25 ส.ค.60 ซึ่งระหว่างการพิจารณา กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม 5 ราย ได้ยื่นคำร้องขอให้ นายสุธี เชื่อมไธสง จำเลยที่ 16 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนพร้อมดอกเบี้ยด้วย

องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาฯ รวม 9 คน ได้พิเคราะห์พยานหลักฐานตามทางไต่สวน และรายงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช.แล้ว เห็นว่า พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ หรือหมอโด่ง จำเลยที่ 3 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเลขานุการนายบุญทรง รมว.พาณิชย์ มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงพาณิชย์ และเป็นผู้บังคับบัญชาของข้าราชการ ซึ่งจำเลยที่ 3 ยังได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) และอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ต่อมาก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเลขานุการ รมว.พาณิชย์ ซึ่งมีพฤติการณ์ว่า จำเลยที่ 3 กับพวกร่วมกันวางแผนโดยแอบอ้างนำบริษัท กว่างตงฯ และบริษัท ห่ายหนานฯ จากประเทศจีน เข้ามาทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ตามสัญญาซื้อขายข้าวโครงการจีทูจีกับกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างไม่เป็นธรรม ที่มีนายสุธี คนสนิทของเสี่ยเปี๋ยง จำเลยที่ 16 กับพวก สนับสนุน ด้วยการนำบริษัทค้าข้าวประเทศมาทำสัญญาซื้อข้าวโครงการจีทูจี กับกรมการค้าต่างประเทศในราคาต่ำกว่าท้องตลาด โดยไม่มีการส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศตามโครงการนั้นแต่อย่างใด ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศ ถือว่า พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ หรือหมอโด่ง จำเลยที่ 3 ร่วมกับพวกทุจริตในการระบายข้าวโครงการจีทูจี ซึ่งศาลฎีกาฯ ได้มีคำพิพากษาจำคุกผู้ร่วมกระทำความผิดไปแล้ว ส่วนนายสุธี คนสนิทของเสี่ยเปี๋ยง จำเลยที่ 16 ได้ร่วมสนับสนุนจำเลยที่ 3 กับพวกกระทำความผิดดังกล่าวด้วย

องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาฯ จึงพิพากษาให้จำคุก พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ หรือหมอโด่ง จำเลยที่ 3 รวม 4 กระทงๆ ละ 18 ปี จำคุกทั้งสิ้น 72 ปี แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 (3) ให้จำคุก พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ ไว้เป็นเวลา 50 ปี

ส่วนนายสุธี คนสนิทของเสี่ยเปี๋ยง จำเลยที่ 16 จำคุก 4 กระทงๆ ละ 8 ปี รวมจำคุกทั้งสิ้น 32 ปี และให้จำเลยที่ 16 ชำระค่าเสียหายในส่วนแพ่งให้กับกระทรวงการคลัง ผู้ร้องที่ 5 ด้วย เป็นเงิน 16,912,128,273.66 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันทำสัญญา

ทั้งนี้ ศาลฎีกาฯ ยังมีคำสั่งให้ออกหมายจับเพื่อติดตามจับกุมตัว พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ หรือหมอโด่ง จำเลยที่ 3 และ นายสุธี คนสนิทของเสี่ยเปี๋ยง จำเลยที่ 16 ที่ยังหลบหนีคดีตั้งแต่แรก มาบังคับคดีตามคำพิพากษาต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีในส่วนของนายภูมิ กับนายบุญทรง อดีตรมว.พาณิชย์ กับเอกชนนั้น ฝ่ายจำเลยที่ถูกตัดสินจำคุกตั้งแต่ 4 - 48 ปี ก็ได้ยื่นอุทธรณ์แล้ว เช่นเดียวกับฝ่ายอัยการสูงสุด ก็ได้ยื่นอุทธรณ์คดีในส่วนของจำเลยกลุ่มเอกชน 8 ราย ที่ยกฟ้องด้วย โดยขณะนี้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ได้รับอุทธรณ์ไว้พิจารณาแล้ว ขณะที่นายภูมิ กับนายบุญทรง อดีต รมว.พาณิชย์ , เสี่ยเปี๋ยง และเอกชน รวม 18 ราย ที่ถูกตัดสินจำคุกนั้น ก็ยังไม่มีใครได้รับการประกันตัวในชั้นอุทธรณ์แต่อย่างใด ซึ่งคดียังอยู่ระหว่างรอคำฟังพิพากษาอุทธรณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 พ.ค.62 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อม.282/2560 ที่อัยการสูงสุด ยื่นคำร้องให้ศาลพิพากษาให้ทรัพย์สินของ พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ หรือหมอโด่ง จำนวน 896,554,760.28 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน สืบเนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ หรือหมอโด่ง กับพวก ทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกและการระบายข้าว และมีมติว่า พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ หรือหมอโด่ง ร่ำรวยผิดปกติ เมื่อ พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ หรือหมอโด่ง หลบหนีคดีไม่มาพิสูจน์ ศาลจึงฟังพยานของอัยการสูงสุด และหลักฐานของ ป.ป.ช.แล้วพิพากษาให้ยึดทรัพย์จำนวนดังกล่าวพร้อมดอกผลตกเป็นของแผ่นดิน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top