วันอาทิตย์ ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม’ ศาลปกครองสูงสุดสั่ง‘ยิ่งลักษณ์’ ชดใช้หมื่นล้านคดีจำนำข้าว

‘ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม’ ศาลปกครองสูงสุดสั่ง‘ยิ่งลักษณ์’ ชดใช้หมื่นล้านคดีจำนำข้าว

วันเสาร์ ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : ณัฐวุฒิวงศ์เนียม ยิ่งลักษณ์ จำนำข้าว ศาลปกครอง
  •  

รายการ “สีสันการเมือง แบบ เด้งเด้ง” ทางช่องยูทุบ “แนวหน้าออนไลน์” วันที่ 27 พ.ค. 2568 ชวนพูดคุยกับ นายณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน ในประเด็นข้อถกเถียงกรณีคำตัดสินของศาลปกครอง ว่าตกลงแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะต้องชดใช้ค่าเสียหายจากการปล่อยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวหรือไม่ โดยนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า  คดีนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นคนฟ้องให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลัง โดยศาลปกครองชั้นต้นก็ตัดสินให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษากลับคำตัดสินของศาลปกครองชั้นต้น โดยเห็นว่าอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ยังต้องชดใช้ค่าเสียหายในคดีจำนำข้าว แต่ได้แก้ไขในส่วนของจำนวนเงิน โดยอ้างถึงการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐกระทำละเมิด ตามมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 จึงเป็นที่มาของการตัดสินให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องร่วมชดใช้ด้วยในสัดส่วนร้อยละ 50 ของความเสียหาย เป็นที่มาของจำนวนเงิน 10,028 ล้านบาทเศษ ตามคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด


“10,028 ล้านเศษ ถามว่าในเมื่อคุณยิ่งลักษณ์เขาฟ้องเพิกถอนคำสั่งบางส่วน ถามว่าคุณยิ่งลักษณ์ต้องใช้ไหม? คำตอบต้องจ่าย! เพียงแต่ในปัจจุบัน ใน พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ซึ่งแก้ไขฉบับที่ 3 ปี 2562 เขาออกรูปแบบใหม่ในเรื่องมาตรการบังคับทางปกครอง ไม่ต้องนำคดีไปฟ้อง แต่ต้องเป็นกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดแล้วเข้าเกณฑ์มาตรา 12 พ.ร.บ.ความรับผิดละเมิด ก็คือหน่วยงานรัฐสั่งให้จ่ายแล้วไม่จ่าย ก็สามารถจะบังคับยึดทรัพย์ได้ทันที ตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทันที สรุปแล้วคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดต้องจ่าย เพียงแต่ว่าศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยเฉพาะคำสั่งทางปกครองเดิมของกระทรวงการคลังเท่านั้นเอง”

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์แล้ว เพียงแต่มูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้ไม่เพียงพอ แต่เมื่อไปดูในกฎหมาย จะให้อำนาจเจ้าพนักงานของรัฐที่ออกคำสั่งทางปกครองอาจร้องขอต่อสำนักงานอัยการสูงสุดหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการสืบทรัพย์ แต่กระบวนการนี้มีกรอบระยะเวลา 10 ปี โดยตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 สำหรับหนี้ตามคำพิพากษาของศาล บอกว่าเป็นหนี้ที่กำหนดที่แน่นอน ดังนั้นมูลหนี้ที่เกินจากทรัพย์ที่ยึดได้แล้วยังคงค้างอยู่ ก็สามารถไปฟ้องให้เป็นบุคคลล้มละลายได้

แต่ถึงผู้ออกคำสั่งทางปกครองข้างต้นจะเป็นกระทรวงการคลัง หากนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้บังคับบัญชาไม่ขยับ ถามว่ากระทรวงการคลังจะขยับหรือไม่ ดังนั้นคำสั่งทางปกครองก็เหมือนยังลอยๆ อยู่ ส่วนการยื่นคำร้องบังคับคดีดำเนินการต่อก็อยู่ที่ว่าจะยื่นหรือไม่ยื่น ส่วนการที่ฝ่ายกฎหมายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะขอให้พิจารณาคดีใหม่ตามมาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ.จัดตังศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ก็ต้องดูว่าจะยื่นด้วยเหตุใด

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

เช่น หากยื่นด้วยเรื่องการหักกลบลบหนี้ ก็ต้องได้ความว่าอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์เป็นเจ้าหนี้ของรัฐ คำถามคือเงินที่ใช้ซื้อข้าวเปลือกในโกดังเป็นเงินของใคร ซึ่งก็เป็นเงินภาษีประชาชน โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาศัยอำนาจในฐานะประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ซึ่งมีอำนาจกำกับควบคุมแต่ไม่ได้เป็นเจ้าของเงิน แล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะมาเป็นเจ้าหนี้ได้อย่างไร แม้กระทั่งที่บอกว่าจะเอาเงินจากการขายข้าวค้างเมื่อเร็วๆ นี้ไปหักลบกลบหนี้ คำถามคือข้าวนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือไม่ หากไม่ใช่ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่เจ้าหนี้ ก็ไม่ถือเป็นข้อเท็จจริงใหม่

เพราะการนำคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่ได้จะต้องไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่ศาลเคยพิจารณาไปแล้ว การจะไปหักกลบลบหนี้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในมาตรา 341 ระบุว่า จะหักกลบลบหนี้ได้ก็ต่อเมื่อต่างคนต่างเป็นเจ้าหนี้ซึ่งกันและกันและถึงกำหนดชำระ ส่วนกรณีที่ นายภูมิธรรม  เวชยชัย  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า สมัยที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ขายข้าวค้าง 10 ปีในโกดัง ได้ถึงกิโลกรัมละ 18 บาท มากกว่าก่อนหน้านั้นที่ขายกันได้เพียงกิโลกรัมละ 3 - 5 บาท คำถามคือใช้หักกลบลบหนี้ได้หรือไม่นั้น  

เรื่องนี้ก็ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า จำนำข้าวเป็นโครงการของรัฐบาลอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ แต่มีลักษณะเป็นการใช้งบประมาณของรัฐซื้อข้าวแบบซื้อขาด ไม่ใช่การจำนำที่ประชาชนมีสิทธิ์ไถ่ถอน โดยเป็นการซื้อขาดแบบเอาเงินของรัฐหรือก็คือภาษีประชาชนไปแทรกแซงตลาด ไม่ใช่เงินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพียงแต่รัฐเป็นผู้บริหารจัดการในทุกจุดจนถึงโกดัง ดังนั้นไม่ว่าจะขายข้าวได้ราคาเท่าใด เงินที่ได้มาก็ไม่ใช่เงินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แล้วจะไปหักกลบลบหนี้ได้อย่างไร

“ใน พ.ร.บ.จัดตังศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ถ้าศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาแล้วมันเป็นที่สุด แต่กฎหมายให้เปิดช่องว่างว่าถ้าเป็นพยานหลักฐานใหม่ที่เกิดขึ้น เปิดช่องในมาตรา 75 ให้ไปดำเนินการยื่นภายใน 90 วัน และถ้าข้อเท็จจริงใหม่ที่เกิดขึ้นจะต้องไม่เกิน 5 ปีนับตั้งแต่คำพิพากษาถึงที่สุด แต่ถามว่าที่ผ่านมามีไหมในการขอพิจารณาคดีใหม่? มี! แต่ต้องเป็นข้อเท็จจริงใหม่จริงๆ ที่ศาลเห็นว่ายังไม่เคยพิจารณาพิพากษา แล้วมันมีผลก็คือว่าทำให้ข้อเท็จจริงในคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดเปลี่ยนไปจากรับผิดเป็นไม่รับผิดนั้นเอง”

ส่วนท่าทีของบรรดาคนในพรรคเพื่อไทย ที่ต่างแสดงความเห็นว่าคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดไม่ได้บอกว่าอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ทำผิด คำถามคืออะไรคือความหมายของคำว่า “ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง” ตามที่ระบุในคำพิพากษา ประเด็นนี้ต้องไล่เรียงจากคำสั่งกระทรวงการคลังก่อน โดยคำว่าจงใจหรือประมาทเลินเล่อ มีการบัญญัติไว้ใน ป.แพ่งฯ มาตรา 420 โดยคำว่าประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง หมายถึงการไม่ตรวจสอบให้ดีหรือเพิกเฉย คำดังกล่าวถูกระบุในคำสั่งกระบวนการคลัง และมาอยู่ในคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด

โดยหากไปดู พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 จะต้องฟังได้ว่าเป็นเรื่องร้ายแรงเท่านั้นที่จะมีการไล่เบี้ยกับเจ้าหน้าที่รัฐได้ แต่หากไม่ร้ายแรงก็คือพ้นจากความรับผิด ดังนั้นจะร้ายแรงหรือไม่ต้องดูจากพฤติการณ์หรือการกระทำ เช่น  เป็นประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ แต่เข้าประชุมเพียงครั้งเดียวแล้วหลังจากนั้นก็ไม่เคยมากำกับดูแลว่านโยบายที่ขับเคลื่อนไปมีช่องว่างหรือไม่ ทั้งที่เวลานั้นมีเสียงทักท้วงจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ ตั้งแต่การตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีจนถึงการฟ้องล้มละลาย เบื้องต้นเป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลัง โดยเริ่มจากปลัดกระทรวงการคลังที่เป็นฝ่ายข้าราชการประจำ ซึ่งต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 หากไม่ทำก็จะมีปัญหา และไล่ไปตามลำดับชั้น ตั้งแต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไปจนถึงนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะถูกตั้งคำถามอย่างแน่นอนเพราะมีหน้าที่กำกับดูแลแต่กลับเพิกเฉย

 ส่วนกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แชร์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์ศาลซึ่งเป็นถ้อยคำรุนแรงทางสื่อสังคมออนไลน์ ก็ต้องระวังสุ่มเสี่ยงในประเด็นจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ทำให้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองได้ ซึ่งมีผลบังคับใช้ทั้งกับฝ่ายนิติบัญญัติอย่างสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และฝ่ายบริหารอย่างนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีด้วย อาจมีผู้ไปร้องเรียนให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบได้

“คือในเรื่องของจริยธรรม โดยเฉพาะข้อ 7 กับข้อ 8 ในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยซื่อสัตย์สุจริต มันก็มีปัญหาว่าคุณไปแชร์ทำไม? เพราะอย่าลืมว่าแม้จะเป็นบุคคลในเครือญาติหรือคนในครอบครัว แต่สถานะคุณในวันนี้คุณเป็นผู้นำฝ่ายบริหารในระบบรัฐสภา ถามว่าคุณไปทำอย่างนั้นได้อย่างไร? มันก็เกิดปัญหาแล้ว ถ้ามีมือดีไปร้องก็น่าจะมีปัญหาตามมา ผมเชื่อว่ากรณีอย่างนี้ไม่รู้ว่าท่านแชร์เองหรือเปล่า เราก็ไม่รู้ เพราะไม่รู้ว่าท่านจะมีแอดมิน (บุคคลที่ไดรับมอบหมายให้ดูแลบัญชีสื่อสังคมออนไลน์) หรือเปล่า?”

นายณัฐวุฒิ ขยายความเพิ่มเติมในการสื่อสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ประเด็นสำคัญคือต้องดูว่าใครเป็นคนโพสต์หรือแชร์ ซึ่งก็ต้องพิสูจน์ หากพบว่าเจ้าตัวไม่ได้ทำเองก็อาจดิ้นออกไปได้ แต่ในส่วนข้อ 7 กับข้อ 8 ถือเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 มาตรา 235 (1) ระบุถึงการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ก็จะนำไปสู่การถอดถอนออกจากตำแหน่งได้

อนึ่ง มีข้อสังเกตในคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ที่กล่าวถึงสามีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งไม่ได้จดทะเบียนสมรส ประเด็นนี้ต้องเข้าใจก่อนว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดทรัพย์ไปแล้วหลายรายการ ซึ่งตรงนั้นเป็นทรัพย์สินที่เป็นกรรมสิทธิ์ร่วมระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กับสามี ส่วนมีคำถามว่าในเมื่อไม่ได้จดทะเบียนสมรสแล้วจะกันส่วนได้อย่างไร แต่คำว่ากันส่วนนั้นหมายความถึงคู่สมรส หรือสามี – ภรรยาที่อยู่กินด้วยกันแต่ทำมาหาได้ร่วมกันมีทรัพย์สิน

ดังนั้นในระหว่างอยู่กินด้วยกันมีทรัพย์สินอะไรบ้าง ก็ใช้หลักหุ้นส่วนคือแบ่งคนละครึ่ง โดยคำพิพากษาบอกว่าให้ทำบัญชีรายรับ – รายจ่ายภายใน 60 วันเพื่อแจ้งต่อศาล แต่ตามหลักกฎหมายแล้ว เช่น สมมติมีทรัพย์สิน 600 ล้านบาท ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งหรือ 300 ล้านบาทเป็นทรัพย์สินที่เป็นกรรมสิทธิ์ร่วม ก็ต้องกันส่วน 300 ล้านบาทนั้นออกไป เพราะตามกฎหมายไม่สามารถยึดทรัพย์ของบุคคลอื่นไม่ได้ ให้ยึดได้เฉพาะลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือคำสั่งทางปกครองเท่านั้น

และแม้ท้ายที่สุดมีการฟ้องล้มละลาย แต่เมื่อผู้ถูกฟ้องไม่มีทรัพย์สินให้ยึดแล้วก็จะได้เพียงกระดาษคำพิพากษาใบเดียว ส่วนคำถามว่าส่วนที่เหลือนั้นประชาชนทั้งประเทศต้องร่วมกันจ่ายหรือไม่ ต้องเข้าใจว่าจำนวนเงินตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด เป็นมูลค่าความเสียหายจากการขายข้าวแบบจีทูจีในโครงการจำนำข้าว อย่าลืมว่าเป็นเรื่องแยกกันระหว่างการใช้อำนาจฝ่ายบริหารในการขับเคลื่อนนโยบาย เรื่องนั้นศาลไม่ได้ไปแตะ

ในขณะที่ความเสียหายซึ่งตรวจสอบได้ตีเป็นเงิน 20,057 ล้านบาท และตัดสินให้อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ร่วมชดใช้ร้อยละ 50 ตามมาตรา 8 ของ แห่ง พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539  ก็คือว่าเป็นธรรมแล้ว เพียงแต่ขั้นตอนการบังคับคดี เมื่อใช้มาตรการบังคับทางปกครอง ตั้งเรื่องแล้วก็สามารถสืบทรัพย์ได้ภายในระยะเวลา 10 ปี ส่วนทรัพย์ที่สืบและยึดได้แล้ว การขายทอดตลาดสามารถทำได้แม้พ้นระยะเวลา 10 ปี อนึ่ง ศาลปกครองเคยมีคำพิพากษาในวันที่ 22 พ.ค. 2568 ตามหลักแล้วจะต้องเริ่มดำเนินการภายใน 30 วัน หรือภายในวันที่ 22 มิ.ย. 2568  

“จะไปใช้ระยะเวลาตามศาลปกครองไม่ได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลาตามมาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ.ความรับผิดละเมิดของเจ้าหน้าที่ ถามว่าเมื่อคำสั่งถึงที่สุดคุณต้องมีหนังสือแจ้งให้กับผู้ถูกกล่าวหาจะต้องจ่าย แต่ถ้าพูดในมุมมองคดีแพ่งก็คือลูกหนี้จะต้องจ่าย ดังนั้นแล้วถ้าหากไม่ดำเนินการก็มีหน้าที่แต่ไม่ปฏิบัติ มันก็เกิดปัญหาในเรื่องของคดีอาญาได้”    

หมายเหตุ : สามารถรับชมรายการ “สีสันการเมือง แบบ เด้งเด้ง” ดำเนินรายการโดย บุญระดม จิตรดอน ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ทุกวันอังคาร-พฤหัสบดี เวลา 11.00-12.00 น. โดยประมาณ          

(ล้อมกรอบ)

สรุปลำดับเหตุการณ์คำพิพากษาศาลปกครอง คดีจำนำข้าวสมัยรัฐบาลนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร : 1.ก่อนหน้านี้ ศาลปกครองกลาง สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค.2559 ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าเสียหาย 3.5 หมื่นล้านบาท​ กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจากกระทรวงการคลังยอมรับว่าไม่มีหลักฐานที่ยืนยันได้ชัดเจนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีเจตนากระทำให้เกิดความเสียหายโดยตรง ทำให้ทางกระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์

2.ศาลปกครองสูงสุด มีคำตัดสินเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2568 ยืนตามศาลปกครองชั้นต้น ให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวของกระทรวงการคลัง แต่ก็มีคำสั่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องชดใช้ค่าเสียหายในโครงการระบายข้าวแบบจีทูจี ในสัดส่วนร้อยละ 50 ของมูลค่าความเสียหาย โดยครั้งนี้ศาลปกครองสูงสุดระบุมูลค่าความเสียหายไว้ที่ 20,057 ล้านบาท ดังนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องร่วมชดใช้อยู่ที่ 10,028 ล้านบาท

3.ในคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด อธิบายเหตุผลของการสั่งให้อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ร่วมชดใช้ในมูลค่าดังกล่าว จากการระบายข้าวแบบจีทูจี ว่า เนื่องจากเป็นการใช้อำนาจทางปกครองในการดำเนินการ ซึ่งแม้จะมีคำเตือนเรื่องความเสี่ยงต่อการทุจริตทั้งจาก สตง. และ ป.ป.ช. แต่กลับไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อยับยั้ง ปล่อยให้มีเจ้าหน้าที่เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์จนเกิดความเสียหายขึ้น จึงเข้าข่ายประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'พิชิต\'ซัด นายกฯ เป็นใบ้ ปรับ ครม. ก็ไม่รู้เรื่องชายแดน-จำนำข้าว\'อาปู\'ก็ไม่ตอบ 'พิชิต'ซัด นายกฯ เป็นใบ้ ปรับ ครม. ก็ไม่รู้เรื่องชายแดน-จำนำข้าว'อาปู'ก็ไม่ตอบ
  • มั่นใจไม่ต้องชดใช้ค่าจำนำข้าว  ทนาย‘ปู’ยื่นหลักฐานใหม่สู้คดี มั่นใจไม่ต้องชดใช้ค่าจำนำข้าว ทนาย‘ปู’ยื่นหลักฐานใหม่สู้คดี
  • \'พิชัย\'ยังไม่ตัดสินใจ! ปมเรียกค่าเสียหาย\'ยิ่งลักษณ์\'หมื่นล้าน คดีจำนำข้าว 'พิชัย'ยังไม่ตัดสินใจ! ปมเรียกค่าเสียหาย'ยิ่งลักษณ์'หมื่นล้าน คดีจำนำข้าว
  • สู้ต่อ\'จำนำข้าว\' ทนายเล็งยื่นศาล ปค.สั่ง\'ก.คลัง\'ชะลอชดใช้\'หมื่นล้าน\' สู้ต่อ'จำนำข้าว' ทนายเล็งยื่นศาล ปค.สั่ง'ก.คลัง'ชะลอชดใช้'หมื่นล้าน'
  • ขอรอฟัง‘พิชัย’ ‘ปลัดคลัง’เผยปมชดใช้หมื่นล้านคดี‘จำนำข้าว’ ขอรอฟัง‘พิชัย’ ‘ปลัดคลัง’เผยปมชดใช้หมื่นล้านคดี‘จำนำข้าว’
  • ชดใช้จำนำข้าวต้องสู้คดีกันไป  \'แม้ว\'ปลอบ\'น้องปู\'  รอเหตุการณ์สงบค่อยกลับไทย ชดใช้จำนำข้าวต้องสู้คดีกันไป 'แม้ว'ปลอบ'น้องปู' รอเหตุการณ์สงบค่อยกลับไทย
  •  

Breaking News

‘อินเดีย’เฮแชมป์‘โรงงานโลก’ ต้นทุนผลิตต่ำกว่า‘จีน’ ส่วน‘ไทย’ที่4อันดับแพ้‘เวียดนาม’

'ในหลวง-พระราชินี'เสด็จฯทรงประกอบพิธีมังคลาภิเษกเหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

'จักรภพ เพ็ญแข'เดินสาย! ร่วมฉลอง'Pride Month'ฉ่ำ หลังซ่อนเร้นกว่า 20 ปี

แนะลดกฎที่ไม่จำเป็น-จัดการทุนเทาและสวมสิทธิ์จริงจัง สร้างศก.ไทยเติบโต

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved