‘อภิสิทธิ์’รักษาเกียรติภมิ

ลาออกสส.

รับไม่ได้ดัน‘บิ๊กต่’นั่งนายกฯ

‘สุทัศน์’ส้มหล่นเข้าสภา

‘ชวน’ขึ้นบัลลังก์ให้โอวาท

ทำหน้าที่ซื่อสัตย์-สุจริต

โหวต‘นายกฯ’มาราธอน

อดีตหัวหน้าปชป. “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”ลาออกจากสส. หลังปชป.จูบปาก พปชร.หนุน“บิ๊กตู่”นั่ง นายกฯ ระบุไม่สามารถฝ่าฝืนมติพรรคได้ และเป็นทางเดียวที่ต้องรักษาเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีไว้ ขณะ “สุทัศน์ เงินหมื่น”ส้มหล่น ขึ้นเป็น สส.แทน “ชวน หลีกภัย” ขึ้นบัลลังก์ประธานสภา ขอให้ ส.ส.ทำหน้าที่ซื่อสัตย์ สุจริต ด้านรัฐสภาเริ่มถกวาระเลือก นายกฯ โดย“เพื่อไทย-อนาคตใหม่”พลิกเกมซักฟอกย่อย’ประยุทธ์’

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ที่หอประชุมทีโอที ถ.แจ้งวัฒนะ มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม พร้อมด้วยนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 และนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 เมื่อเริ่มการประชุมนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศแต่งตั้งผู้รักษาการประธานองคมนตรี , พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธาน และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ,พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศแต่งตั้งประธาน และรองประธานวุฒิสภา

3 ผู้แทนฯใหม่ ปฏิญาณตน

จากนั้น ประธานสภา ได้แจ้งเรื่องรับทราบประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จำนวน 2 เรื่อง คือ ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขต และผลการเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ก่อนให้ส.ส. 3 คน ที่ยังไม่ได้ปฏิญาณตนได้ปฏิญาณตนในที่ประชุมก่อนเข้ารับหน้าที่ ประกอบด้วย น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ นางวทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และน.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคอนาคตใหม่ ขณะที่นางจุมพิตา จันทรขจร ส.ส.นครปฐม พรรคอนาคตใหม่ ได้ลาการประชุมเนื่องจากป่วย

ชวนขอให้ทำหน้าที่ซื่อสุจริต-เที่ยงธรรม

จากนั้น ประธานสภาฯ ได้กล่าวแสดงความยินดีต่อสมาชิกทุกคนที่ได้รับเลือกตั้งมาเป็นสิ่งที่ควรภาคภูมิใจ จึงอยากให้เพื่อนสมาชิกได้ตระหนักถึงความสำคัญของฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหาร และสามารถใช้เสียงข้างมากในการตั้งฝ่ายบริหารได้ สภาจึงมีบทบาทสูงมาก เราจึงต้องเป็นผู้เคารพกฎหมาย ตนอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากพวกเราที่จะเป็นแบบอย่างของการปฏิรูป ทั้งนี้ ขอให้สมาชิกสร้างภาพที่ดีให้แก่สภาและตนในฐานะประธาน รวมถึงรองประธานสภาฯ กฎหมายบังคับว่าต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลาง

แต่นอกเหนือจากความเป็นกลาง ตนขอยืนยันว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตทุกด้าน ขอให้เพื่อนสมาชิกมีความมั่นใจ และในฐานะประธานสภาฯ ต้องควบคุมการประชุมให้เป็นไปตามข้อบังคับ ก็ต้องขอร้องให้ทุกคนยึดข้อบังคับในการประชุม สภานี้เป็นสภาสำหรับอภิปราย ก็จะเปิดโอกาสให้ได้พูดเรื่องความทุกข์ยากของประชาชน และจะให้โอกาสอภิปรายเต็มที่ ขอเพียงทุกคนยึดการอภิปรายตามข้อบังคับ อย่าแย่งกันพูด ให้ประธานอนุญาตก่อนค่อยพูดเพื่อที่จะไม่ถูกตำหนิ ทั้งหมดเพื่อให้การประชุมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่น เพราะถ้าภาพเป็นลบหนึ่งคนสภาก็จะลบทั้งหมด

นอกจากนี้ ขอให้ทุกคนกลับไปอ่านพระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีเปิดประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 เรื่องการทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ที่ทุกคนต้องยึดมั่นให้การทำหน้าที่เป็นไปด้วยความสุจริต และเที่ยงธรรม

เตือนชำระหนี้ค่าเครื่องบิน

นายชวน แจ้งต่อที่ประชุมด้วยว่า ขอให้สมาชิกที่เป็นหนี้ค่ารถไฟ รถประจำทาง และค่าเครื่องบิน ให้รีบไปชำระ มิฉะนั้น ทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ต้องเป็นผู้ชำระแทน ซึ่งอาจจะไม่ใช่สภาชุดนี้ แต่เป็นชุดก่อนหน้านี้ แต่ก็มีบางคนนั่งอยู่ในที่ประชุมนี้ด้วย รวมทั้งแจ้งต่อสมาชิกทุกคน ว่าอย่าเอาสิทธิประโยชน์ของตัวเองเรื่องการอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปให้บุคคลอื่นใช้

ต่อมา นายชวน ได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงการยื่นญัตติของส.ส. เพื่อให้ที่ประชุมสภาฯ ตรวจสอบคุณสมบัติบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อ ให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภาลงมติเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ว่าญัตติดังกล่าวได้ยื่น และมีส.ส.ลงลายมือชื่อรับรองอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบอำนาจตามญัตติดังกล่าวเลขาธิการสภาฯ ระบุว่าไม่อยู่ในอำนาจของสภาผู้แทนราษฎร ที่จะดำเนินการได้ ซึ่งตนให้ความเห็นชอบตามที่เลขาธิการสภาฯ เสนอ

ทั้งนี้ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ฐานะผู้เสนอญัตติดังกล่าว อภิปรายต่อที่ประชุมโดยยืนยันสิทธิของสภาผู้แทนราษฎร ที่ต้องตรวจสอบบุคคลที่พรรคการเมืองจะเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ ก่อนจะเสนอให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภาลงมติ

ด้าน นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายด้วยว่าบุคคลที่พรรคพลังประชารัฐเสนอให้เป็นนายกฯนั้น ได้รับการตรวจสอบคุณสมบัติ จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รวมถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน ดังนั้น สภาฯไม่จำเป็นต้องตรวจสอบคุณสมบัติ ดังกล่าว

ทั้งนี้ หลังจากเปิดโอกาสให้ ส.ส.อภิปรายตามประเด็นครบแล้ว นายชวนสั่งวปิดประชุมสภาฯเมื่อเวลา 10.00น.

“อภิสิทธิ์”แถลงลาออกพ้น ส.ส.

ต่อมา เวลา 10.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงขอลาออกจาก สส.หลัง ปชป.ตอบรับพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)จัดตั้งรัฐบาล สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะก่อนหน้านี้ในการหาเสียงเลือกตั้งนายอภิสิทธิ์ ปราศรัยไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ส่งผลให้ ปชป.แพ้การเลือกตั้งราบคาบ ไม่ได้สส.กทม.แม้แต่คนเดียว

โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก่อนการเลือกตั้ง 24 มี.ค.62 ได้แสดงจุดยืนทางการเมืองว่าไม่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี การแสดงจุดยืนของตนในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป. และมีความสอดคล้องกับพรรคในวันก่อตั้งพรรค เมื่อ 70 ปีมาแล้ว และยังสอดคล้องที่ตั้งว่าประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต แต่ผลการเลือกตั้งออกมาไม่ประสบความสำเร็จ ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ตนจึงลาออก และมีประชาชน เลือก ปชป. 3.9 ล้านคน ที่สนับสนุนจุดยืนของพรรค ตนพยายามจะโน้มน้าวสมาชิกพรรคให้มีจุดยืนเดิม แต่สิ่งที่พวกเราหลายคนใช้อำนาจรัฐ ใช้เงินในทางที่มิชอบ

เมื่อพฤติการณ์ต่างๆ เป็นเช่นนี้ เมื่อมติพรรคออกมา ตนเคารพเสียงข้างมาก พรรคมีมติเช่นใด คงไม่ฝ่าฝืนมติพรรค แต่สิ่งที่ผมอยากจะเห็นคือแก้ไขรัฐธรรมนูญ และแก้ไขปัญหาปากท้องให้กับประชาชน แต่หวังลึกๆ ว่าคนที่ ปชป.จะไปพายเรือให้จะกลับใจด้วยการทำหน้าที่เป็นฝ่ายที่ 3 หรือไม่ โดยการตรวจสอบรัฐบาล มีหน้าที่ตรวจสอบการถ่วงดุลการใช้อำนาจเกินขอบเขต

“ผมเสียดายโอกาสที่จะสร้างพื้นที่ด้วยการเลือกข้างด้วยอารมณ์ ความพยามของผม เมื่อไม่ประสบความสำเร็จ คือ กล่าวขอโทษประชาชน ที่เลือก ปชป.ครั้งที่ผ่านมา นึกว่าพรรคจะมีจุดยืน และผมมีหน้าที่ส.ส.วันนี้ ผมคงไม่สามารถเดินเข้าไปในห้องประชุม ที่ฝ่าฝืนมติของพรรคได้ ให้เลือก พล.อ.ประยุทธ์ คงเป็นไปไม่ได้ เพราะขัดจุดยืนตั้งแต่แรก ผมถือโอกาสนี้ขอโทษประชาชน ผมเหลือทางเดียวที่รักษาเกียรติภูมิของผม และพรรค ปชป. ที่จะต้องรักษาคำพูดที่กล่าวไว้กับพี่น้องประชาชน ไม่ใช่เป็นเรื่องของการเลื่อนลอย แต่เชื่อว่าการเมืองต้องมีหลักการเท่านั้นที่จะสร้างความสุขกับประชาชนได้ ผมจึงขอลาออกจาก ส.ส.นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป” นายอภิสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่นายอภิสิทธิ์ แถลงจุดยืนเสร็จ ได้มีกลุ่มผู้สนับสนุนปรบมือให้กำลังใจ จากนั้นนายอภิสิทธิ์ ได้เดินออกไปที่แถลง ออกจากอาคารไปขึ้นรถ และเดินทางกลับทันที โดยไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่พยายามถามว่าจะลาออกจากสมาชิกพรรคด้วยหรือไม่

เดินอำลาเพื่อนร่วมพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังนายอภิสิทธิ์ ลาออกจากสส.แล้ว ได้เดินทางไปยังที่ทำการ ปชป.กล่าวอำลาบรรดาเจ้าหน้าที่พรรคประชาธิปัตย์กว่า 20 คน ที่ชั้นล่าง อาคาร 100 ปี ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ซึ่งเจ้าหน้าที่พรรคส่วนใหญ่พากันหลั่งน้ำตาร้ำไห้ด้วยความเสียดาย จากนั้น นายอภิสิทธิ์ ได้ทักทายเพื่อนอดีต ส.ส.ของพรรค อาทิ นายวิรัช ร่มเย็น อดีตส.ส.ระนอง นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค และอดีตส.ส.พัทลุง ซึ่งเป็นเพื่อนส.ส.ร่วมรุ่น 35/1 ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งทั้งนายวิรัชและนายนิพิฏฐ์ กล่าวสัพยอกว่า แค่ลาออกจากส.ส. แต่ยังเป็นสมาชิกพรรค ก็เข้ามาพรรคบ่อยๆได้ มาร่วมถกสภากาแฟด้วยกันได้

ขณะที่นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีตรมช.คลัง และอดีตส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในที่สุดเราก็เสียคุณไปจนได้ บางคนฟังด้วยน้ำตาตกใน แล้วเราจะคิดถึงคุณตลอดไป

“สุทัศน์ เงินหมื่น”ได้เป็นสส.แทน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก นายอภิสิทธิ์ ลาออกจากการเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป.ก็จะมีการขยับ นายสุทัศน์ เงินหมื่น ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 21 มาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อแทน แต่คาดว่าไม่สามารถแต่งตั้งเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้ทันในการโหวตนายกฯ ในที่ประชุมรัฐสภาในเวลา 11.00 น. ที่จะมีการประชุมในวันนี้

ขณะที่ รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค ชื่นชมที่นายอภิสิทธิ์ ที่ลาออก ส.ส. ถือว่า มีความกล้าหาญที่ได้รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน และหวังว่าจะได้เห็นนายอภิสิทธิ์มีบทบาทางการเมืองอีกในอนาคต

ด้าน นายวัน อยู่บำรุง และนายการุณ โหสกุล 2 สส.กทม.พรรคเพื่อไทย ต่างโพสต์เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ น่าจะลาออกจากสมาชิกพรรค ปชป.ไปเลย

เสนอ”บิ๊กตู่-ธนาธร”ชิงนายกฯ

ต่อมาเวลา11.00น. ที่หอประชุมใหญ่ทีโอที ถนนแจ้งวัฒนะ กทม.มีการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2562 โดย นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานในที่ประชุม พร้อม นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่ รองประธานรัฐสภา

เมื่อเข้าสู่ระเบียบวาระบรรยากาศ นายณัฐพล ทีปสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น นายกรัฐมนตรี ขณะที่ น.ส.ศรีนวล บุญลือ สส.เชียงใหม่ พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เสนอชื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนค.เป็นนายกฯโดยการเสนอรายชื่อทั้งสองบุคคล ได้รับเสียงยกมือรับรองครบ

บรรยากาศเริ่มเข้มข้นขึ้น สส.เพื่อไทย และอนาคตใหม่ ต้องการให้ผู้เข้าชิงนายกฯเสนอวิสัยทัศน์ตามญัตติของนายจิรวัฒน์ อรัณกานนท์ สส.กทม.พรรคอนาคตใหม่ แต่ประธานเห็นว่าเมื่อเป็นญัตติ นั้นต้องต้องลงมติและใช้เวลาเพราะต้องขานชื่ออีก สุดท้าย สุดท้ายเจ้าของญัตติได้ขอถอนญัตติออกไป

“ธนาธร”เปิดแถลงนอกเวทีสภา

ในขณะที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ลูกพรรคเสนอชื่อเข้าชิงนายกฯ ได้แถลงวิสัยทัศน์นอกห้องประชุม ผ่านสื่อมวลชนว่า จะนำพาประเทศไทยไปสู่ประชาธิปไตย พร้อมจะเป็นนายกฯแห่งความจริง นายกฯแห่งความเปลี่ยนแปลง พร้อมที่จะพาประเทศไทยไปข้างหน้า เราต้องกล้าฝัน คิดอย่างเป็นระบบและทำงานเป็นทีม ถ้าตัวเองได้เป็นนายกฯจะพาประเทศไทยไปสู่การพัฒนา ลองคิดตามว่าจะดีแค่ไหนถ้าได้ส่งต่อประเทศที่เป็นประชาธิปไตย และไม่มีรัฐประหารอีกในอนาคต ตนได้ยินประเทศไทยเป็นประเทศกำลังพัฒนามาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่เห็นมีใครบอกเลยว่า ประเทศจะพัฒนาได้อย่างไร ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ไทยจะไปสู่การเป็นโลกที่1 เราต้องการผู้นำทางการเมืองที่มีจิตวิญญาณแน่วแน่เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ต้องกล้าเป็นปากเสียงให้ประชาชน

‘ขจิต’ชี้ขาดคุณสมบัติ เป็นจนท.รัฐ

จากนั้น เวลา12.15น.ประธานรัฐสภาได้เปิดโอกาสให้สมาชิกรัฐสภา อภิปรายทั้งฝ่ายสนับสนุนและไม่เห็นด้วย ได้อภิปรายในประเด็นเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ

นายขจิต ชัยนิคม สส.อุดรธานี พรรคพท.ได้อภิปรายโจมตีคุณสมบัตินายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ และว่าถ้าใครการรับรองชื่อคนที่ขาดคุณสมบัติจะต้องรับผิดชอบด้วย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯหากดูโดยทั่วไปถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐแน่นอน เพราะได้รับเงินเดือนประจำจากภาษีประชาชนและกระทำการในการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจึงผิดคุณสมบัติ วันนี้พรรค พปชร.กลั่นกรองมาแล้วว่า บุคคลนี้มีคุณสมบัติ แต่หากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐก็เสนอไม่ได้ เพราะถ้าเสนอคนที่ไม่มีคุณสมบัติจะเท่ากับไม่ได้มีการเสนอ ตนถือว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดและทำผิดคุณสมบัติหลายข้อ ฉะนั้นการฝ่าฝืนเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สภาต้องพิจารณา

“มาตรฐานทางจริยธรรมข้อ5ระบุว่า ต้องยึดมั่นและธํารงไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แต่หากย้อนกลับไป 4-5ปี พล.อ.ประยุทธ์ เคยฉีกรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ใช่วิถีทางประชาธิปไตย ไม่เคารพประชาชน การใช้ปากกระบอกปืนผมถือว่าไม่ใช่วิถีทางประชาธิปไตย ผิดหลักจริยธรรมอย่างร้ายแรง’ นายขจิตร กล่าว

ปิยบุตรยุ’สว.’ตัดสืบทอดอำนาจ

นายปิยบุตร แสงกนกกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรค อนค.อภิปรายเกี่ยวกับคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า ในปี2535 ตนประทับใจพรรคปชป.ในการต่อต้านการสืบทอดอำนาจเผด็จการ รวมถึงพรรคการเมืองอื่นในขณะนี้ด้วย ดังนั้นโอกาสนี้จึงขอเรียกร้องให้ท่านหยุดยั้งร่วมแรงยุติการสืบทอดอำนาจ เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเหตุการณ์พฤกษา35 คนลงมาประท้วงบนถนนและจบด้วยโศกฏากรรม พวกเราต้องหยุดการสืบทอดอำนาจและกลับมาบริหารในระบบปกติ มาว่ากันใหม่ เริ่มกันใหม่ ขอให้ทุกท่านหยุดยั้งในสืบทอดอำนาจในครั้งนี้ โดยการไม่เลือก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯอีก ขณะที่ สว.ได้รับแต่งตั้งแล้วถือว่าเป็นอิสระแล้ว จึงเป็นโอกาสทองที่ไม่โหวตเลือก พล.อ.ประยุทธ์ ได้

‘เสรี’ปะทะคารมเผาบ้านเผาเมือง

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.อภิปรายว่า สว.ทุกคนมีอิสระในการทำหน้าที่ ไม่ได้ตอบแทนใคร และการจะโหวตเลือกใครเป็นนายกฯจะพิจารณาทั้งข้อมูลของ นายธนาธรและพล.อ.ประยุทธ์ อย่างรอบคอบ ที่ผ่านมาบ้านเมืองเกิดความวุ่นวายตั้งแต่ก่อนเหตุการณ์รัฐประหารจนถึงขั้นวิกฤติ มีความแตกแยก เผาบ้านเผาเมืองและเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ได้เกิดจากการรัฐประหาร แต่เกิดจากฝ่ายการเมืองเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอภิปรายดังกล่าวทำให้ นายคารม พลพรกลาง ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคอนค.ประท้วงคำว่าเผาบ้านเผาเมืองว่า เป็นการกล่าวหาทำให้เกิดความเสียหาย เพราะเรื่องนี้ศาลได้วินิจฉัยแล้วและสว.ไม่ได้มีหน้าที่มาสอน อย่ามาใช้ความเก๋าทางการเมืองรับใช้พรรคที่ตัวเองชอบและขอให้อภิปรายอยู่ในประเด็น ทำให้ นายเสรี ลุกขึ้นตอบโต้ เพราะที่พูดเรื่องเผาบ้านเผาเมืองไม่ได้ระบุถึงใคร ขออย่าร้อนตัว ทำให้ประธานต้องวินิจฉัยและเห็นว่า การอภิปรายของ นายเสรี ไม่ได้กล่าวหาใคร เป็นเพียงการเล่าประวัติศาสตร์และไม่ได้ระบุตัวบุคคล แต่ขอให้อภิปรายอยู่ในประเด็น

รับหนุนบิ๊กตู่เพราะมีผลงานดี

นายเสรี อภิปรายยอมรับว่า สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯและเมื่อมีสมาชิกอภิปรายว่าไม่เหมาะสม ตนจึงต้องอภิปรายว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีความเหมาะสมอย่างไร ยืนยันว่าแม้สว.จะได้รับเลือกจาก คสช.แต่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เช่นเดียวกับสส.ที่แม้จะไม่ชอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็เข้ามาตามรัฐธรรมนูญเช่นกัน หากเปรียบเทียบผลงานของ พล.อ.ประยุทธ์ กับ นายธนาธร ก็แตกต่างกัน เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ผ่านกระบวนการแก้ปัญหาให้กับประเทศชาติในช่วง 5ปีที่ผ่านมาหลายเรื่อง ไม่มีประวัติทุจริต เหมาะสมที่จะเป็นนายกฯส่วน นายธนาธร มีคดีความที่กำลังอยู่ในชั้นศาล โดยที่ไม่มีใครกลั่นแกล้ง

‘บิ๊กตู่’ยังปฎิบัติหน้าที่ตามปกติ

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรียังคงปฎิบัติหน้ที่ตามปกติ โดย เวลา 09.30 น.ที่โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายกฯเป็นประธานพิธีเปิดงานวันต่อต้านการค้ามนุษย์ ประจำปี2562 โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ร่วมในงานดังกล่าวด้วย หลังเสร็จสิ้นงานดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ กลับไปปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล โดยไม่มีวาระการประชุม หรือมีกำหนดเข้าพบแต่อย่างใด คาดว่าจะใช้เวลาติดตามสถานการณ์การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาตั้งนายกฯ