13 มิ.ย.62 ที่จ.สตูล นายอนุทิน ชาญวีรกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างลงพื้นที่พบประชาชนที่จ.สตูลว่า พรรคภูมิใจไทยได้ตกลงเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งถึงเวลาแล้วที่ผู้ใหญ่ของพรรคจะต้องลงมาพบปะประชาชนในพื้นที่ เพราะประชาชนจ.สูตลทั้งจังหวัดให้คะแนนส.ส.พรรคภูมิใจไทยทั้งหมด ทั้งนี้ตนจะนำเสนอต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาบุคคลที่เราคิดว่า เหมาะสมแล้ว ไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี
“พรรคภูมิใจไทยจะหาคนที่เหมาะสมดูแลเรื่องการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งที่ผ่านมานายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด ( มหาชน) หรือปั้มพีที สามีของนางนาที รัชกิจประการ เหรัญญิกของพรรค และ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ประสบความสำเร็จในชีวิตมามากมาย และนางนาทีเองก็มีประสบการณ์ทางการเมืองมามากมาย หากประชาชนอยากได้ใครก็ไปขู่บังคับเอาเองแล้วเขาจะมาทำงานให้เรา เพราะคนใดคนหนึ่งในสามีภรรยาคู่นี้ต้องเป็นรัฐมนตรี เนื่องจากภาคใต้ภายใต้การนำของแม่ทัพภาคใต้ของพรรคภูมิใจไทย ที่มีสามีภรรยาคู่นี้ ทำให้ภาคใต้ได้ส.ส.แบบเขต และส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมากกว่า 10 คน” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่เข้ามาทำงาน เราไม่เล่นการเมือง เพราะเล่นไม่เป็น แถมยังปากเสีย พูดไม่มีหูรูด แต่เข้ามาทำงานโดยไม่สนใจเสียงนกเสียงกา หรือคำว่ากล่าวใดๆ ถ้างานที่ทำแล้วเกิดประโยชน์กับประเทศไทย และประชาชน เราพูดไม่เก่ง แต่ทำงานเก่งและกล้าตัดสินใจ ตนมาที่จ.สตูลตามสัญญา ว่าจะมากราบหากพี่น้องประชาชนที่เลือกผู้สมัครส.ส.ของพรรคเข้ามาเป็นส.ส.ยกจังหวัด วันนี้ตนก็มากราบขอบคุณ เพราะประชาชนถือว่าเป็นผู้บังคับบัญชา พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคของคนไทยและประเทศไทย ดังนั้นหน้าที่ของพวกตนคือทำงานรับใช้ประเทศชาติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี